สื่อทำเนียบตั้งฉายารัฐบาล “ครม.VERY กู้”

ทำเนียบรัฐบาล 28 ธ.ค.-สื่อมวลชนทำเนียบฯ ประชุมตั้งฉายารัฐบาลปี 63 “ครม.VERY กู้” นายกฯ ได้ ฉายา “ตู่ไม่รู้ล้ม” ส่วนวาทะแห่งปี “ไม่ออก.. แล้วผมทำผิดอะไรหรือ”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปีของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ที่ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติสืบต่อกันมา สะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานรัฐบาล โดยปราศจากอคติ โดย สำหรับฉายารัฐบาลรัฐมนตรีและ วาทะแห่งปี ประจำปี 2563 ที่ประชุมผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลมีมติร่วมกัน ดังนี้ ฉายารัฐบาล : VERY “กู้” โดยเปรียบเปรยการทำงานของรัฐบาลที่ต้องกอบกู้วิกฤติจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 กู้ชีวิตคนไทยให้อยู่รอดปลอดภัย แม้จะยังไม่สามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ แต่ยังดีกว่าหลายประเทศ แม้จะไม่ถึงขั้น very good ก็ตาม ขณะเดียวกัน ผลพวงจากวิกฤติเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้องคนไทยที่ต้องแบกรับภาระหนี้สินและภาวะตกงาน บางคนต้องจากโลกนี้ไป เนื่องจากรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลต้องกู้เงินสูงที่สุดในประวัติศาสตร์มาบรรเทาปัญหา

ฉายา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม : ตู่ไม่รู้ล้ม เป็นการล้อคำ “โด่ไม่รู้ล้ม” ชื่อยาดองชนิดหนึ่ง สรรพคุณคึกคัก กระปี้กระเปร่า ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย สะท้อนถึงการทำงานของนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ว่าจะประสบปัญหา อุปสรรคการเมืองหรือการชุมนุมขับไล่ถาโถม ยังยืนหยัดฝ่าฟันอยู่ในตำแหน่งได้ต่อไป


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง : ป้อมไม่รู้โรยล้อมาจากคำว่า “บานไม่รู้โรย” ด้วยภาพลักษณ์ของพี่ใหญ่ 3 ป. ในวัย 75 ปี ยังคงทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีเคียงข้างน้อง ๆ ได้ แถมยังแผ่บารมีควบเก้าอี้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล เหมือนกับดอกไม้ แม้จะบานนานมากแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้โรย ประกอบกับวลีติดปากที่มักจะตอบคำถามสื่อมวลชนแทบทุกครั้งว่า ไม่รู้ ๆ อยู่เสมอ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย : ไฮเตอร์ เซอร์วิส เป็นการยกคุณสมบัติเด่นของนายวิษณุที่สามารถหาทางออกปัญหาหนักอกของคนในรัฐบาล โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายได้อย่างเชี่ยวชาญ และ มักถูกวิจารณ์เรื่องความน่าเชื่อถือของรัฐบาล เปรียบได้กับผลิตภัณฑ์ซักฟอกขาวยี่ห้อดัง ที่สามารถล้างคราบสกปรกให้ขาวสะอาดหมดจดได้ แต่อาจทำให้เนื้อผ้าเสียหาย ขาดความสวยงาม คล้ายกับชื่อเสียงของรัฐบาลที่สึกกร่อนตามไปด้วย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข : “ทินเนอร์” ด้วยชื่อ อนุทิน ซึ่งพ้องกับสาระเหยที่มีทั้งคุณและโทษ ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท หากสูดเดาเข้าไปมาก อาจทำลายระบบประสาท กระทบกระเทือนความรู้สึกนึกคิด คล้ายพฤติกรรมการใช้คำพูดที่ขาดความยั้งคิด ส่งผลลบต่อตัวเองและรัฐบาลโดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ จนเป็นประเด็นลดความน่าเชื่อถือของตนเอง เช่น โควิด..กระจอก ไล่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับประเทศหรือตอบโต้กับบุคลากรทางการแพทย์ จนเกิดกระแสต่อต้านหลายครั้ง


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ : “เช้าสายบ่ายเคลม” สะท้อนการทำงานที่เห็นได้บ่อยครั้งว่ามักไม่ตรงต่อเวลา เข้าร่วมประชุมสายสม่ำเสมอ ส่วนในแง่การทำงานมักนิ่งเงียบเมื่อมีประเด็นที่ส่งผลลบต่อตนเองและพรรคประชาธิปัตย์ แต่หากเป็นเรื่องที่เป็นผลดีต่อคะแนนนิยมจะรีบเคลมผลงานดังกล่าวทันที

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง : “ค้างคลัง” ซึ่งหมายถึงกรณีที่นายสันติยังไปไม่ถึงดวงดาว โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เปลี่ยนตัวว่าการถึง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายยังเป็นคนนอกสายตา ถูกรั้งให้อยู่ได้แค่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเท่านั้น ทั้งที่ทุ่มเทให้กับพรรคอย่างมาก ทั้งยังออกตัวแรงแสดงออกชัดเจนว่า “พร้อมมาก” ที่จะทำหน้าที่นี้ก็ตาม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม : “ศักดิ์สบายสายเขียว” ที่ลือลั่นมากกับปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวและอีกหลายโครงการที่ขัดแย้งกับหลายหน่วยงาน แต่ยังได้รับการสนับสนุนเกื้อกูลอย่างดีจากนายกรัฐมนตรี โดยระยะหลังเรียกได้ว่า “ขึ้นหม้อ” ตามติดนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด ส่วนการทำงานในพรรคภูมิใจไทย ก็อยู่อย่างไร้ความกังวล เพราะมีพี่ชายที่ชื่อ เนวิน ชิดชอบ คอยดูแลปัดเป่าทุกข์ภัยต่าง ๆ ให้

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม : “พังPORN” สะท้อนการทำงานที่ล้มเหลว ในฐานะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับงานด้านโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักที่ถูกนำมาใช้โจมตีรัฐบาลอย่างหนัก แม้จะเปิดศูนย์ anti-fake news แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ล่าสุดเกิดดราม่าหลังสั่งปิดการเข้าถึงเว็บไซต์ปลุกใจเสือป่าชื่อดัง จนเกิดกระแสต่อต้านลุกลามบานปลาย

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ : “หวีดดับ” จากภาพลักษณ์แกนนำกปปส. ยังคงเป็นภาพจำที่ไม่อาจลบเลือนได้ เช่นเดียวกับนกหวีดที่ถูกยกมาใช้เป็นสัญลักษณ์เปรียบเปรย ได้กำกับดูแลงานกระทรวงเกรดเอ แต่กลับไม่มีผลงานโดดเด่นปรากฎให้เห็น มีเพียงข่าวกระแสต่อต้านรายวัน หนักหน่วงที่สุดคือถูกกลุ่มนักเรียน นักศึกษารวมตัวขับไล่

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน : “แชมป์ไตรกีฬา” ไตรกีฬา ประกอบด้วย กีฬา 3 ชนิด คือ วิ่ง วายน้ำและปั่นจักรยาน สะท้อนภาพลักษณ์ได้ครบถ้วนชัดเจนในบุคลิกที่สื่อมวลชนประจักษ์ ทั้งในตำแหน่งรัฐมนตรี และ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ที่มีทั้งการวิ่งเต้น การเข้าหาผู้ใหญ่และการปลุกปั่นกระแส แม้จะถูกกล่าวหาว่าลืมบุญคุณผู้ชักนำเข้าสู่การเมือง แต่ก็ไม่สนใจเสียงวิจารณ์ เดินหน้าจนสามารถคว้าตำแหน่งที่ต้องการได้สำเร็จ ทั้งที่เป็นนักการเมืองและสส.สมัยแรกเท่านั้น

สำหรับวาทะแห่งปี “ไม่ออก.. แล้วผมทำผิดอะไรหรือ” เป็นคำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ตอบข้อสักถามสื่อมวลชน พร้อมกับบรรดาคณะรัฐมนตรีที่ยืนเรียงหน้าประกาศความเหนียวแน่น เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังกลุ่มผู้ชุมนุมยื่นข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น

กรมราชทัณฑ์ 18 พ.ค. – อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น ส่วน “เปรมชัย” กักโรคอยู่แดนพยาบาลเรือนจำ ภายหลังวานนี้ (17 พ.ค.) พนักงานสอบสวนนำตัว 3 ผู้ต้องหา คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ได้แก่ นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นายเอกพจน์ ภูฆัง หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระลูกวัดคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ โบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ ฝากขังศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน และส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกหมายขังระหว่างสอบสวน ให้ขัง น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ที่ทัณฑสถานหญิงกลางโดยได้ดำเนินการรับตัวและนำตัวกักโรคโควิด-19 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในแดนระหว่างพิจารณาคดี เบื้องต้นตรวจสุขภาพร่างกายปกติ […]

ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ น้ำหลากท่วมชุมชนเขตเทศบาลเชียงใหม่

เชียงใหม่ 18 พ.ค.-ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ นานนับชั่วโมง ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงมาตามลำห้วย และเอ่อล้นท่อระบายน้ำ ท่วมขังชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนกาดก้อม ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังกังวล กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ทำให้รถเล็ก ที่จะผ่านเส้นทางบริเวณดังกล่าว ผ่านลำบาก รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์ดับหลายคัน ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร ขณะที่ชาวบ้านขอความร่วมมือผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านเส้นทางเข้าในชุมชน ขอให้ชะลอความเร็ว เนื่องจากเกิดคลื่นน้ำ ทะลักเข้าไปในบ้าน ทรัพย์สินจะเสียหาย หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ไปใช้เส้นทางอื่นแทน ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้น เนื่องจากฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การสัญจรบางเส้นทางลำบาก นอกจากนั้นยังมีน้ำท่วมขังถนนอีกหลายสาย รอการระบาย ทำให้มีประชาชนติดค้างตามร้านค้าร้านอาหารข้างทางเพื่อหลบฝน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาและเร่งระบายน้ำ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระดับน้ำน่าจะลดลง ล่าสุดเช้าวันนี้ ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว บางจุดยังมีน้ำขังบนถนนเล็กน้อย ถนนตามชุมชนมีแต่ขยะและถุงขยะลอยมากับน้ำท่วม ทำให้รถขยะของเทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งเก็บเศษขยะและถุงขยะ อย่างไรก็ตามประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้รับเหมาดูดตะกอนดินทรายในแม่น้ำปิง ได้นำเรือดูดทรายลำแรกจากจังหวัดอ่างทอง มาถึง ลงในน้ำปิง ตรงข้ามกับสำนักงานแขวงนครพิงค์ ย่านวังสิงห์คำ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี หาความเชื่อมโยงการยักยอกเงินของอดีตเจ้าอาวาส เบื้องต้นพบมีอีก 7 บัญชี ที่ใช้กล่าวหาการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและสอบปากคำพยาน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง วันนี้ (18 พ.ค.68) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ข้อมูลว่า ทางพนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม กับ นางสาวอรัญญาวรรณหลายช่องทาง ช่วงปี 2563 ถึง ปี 2567 รวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท -แยกออกเป็นบัญชีส่วนตัวของอดีตพระแย้ม โอนเงินให้นางสาวอรัญญาวรรณในช่วงปี 2566 รวมกัน 80 ล้านบาท-ใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ โอนเงิน และตระเวณนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้นางสาวอรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท-และพบว่ามีชื่อบัญชีบุคคลอีก 1 บัญชี โอนเงินให้ นางสาวอรัญญาวรรณ […]