ทำเนียบรัฐบาล 28 ธ.ค.-สื่อมวลชนทำเนียบฯ ประชุมตั้งฉายารัฐบาลปี 63 “ครม.VERY กู้” นายกฯ ได้ ฉายา “ตู่ไม่รู้ล้ม” ส่วนวาทะแห่งปี “ไม่ออก.. แล้วผมทำผิดอะไรหรือ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปีของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ที่ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติสืบต่อกันมา สะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานรัฐบาล โดยปราศจากอคติ โดย สำหรับฉายารัฐบาลรัฐมนตรีและ วาทะแห่งปี ประจำปี 2563 ที่ประชุมผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลมีมติร่วมกัน ดังนี้ ฉายารัฐบาล : VERY “กู้” โดยเปรียบเปรยการทำงานของรัฐบาลที่ต้องกอบกู้วิกฤติจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 กู้ชีวิตคนไทยให้อยู่รอดปลอดภัย แม้จะยังไม่สามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ แต่ยังดีกว่าหลายประเทศ แม้จะไม่ถึงขั้น very good ก็ตาม ขณะเดียวกัน ผลพวงจากวิกฤติเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้องคนไทยที่ต้องแบกรับภาระหนี้สินและภาวะตกงาน บางคนต้องจากโลกนี้ไป เนื่องจากรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลต้องกู้เงินสูงที่สุดในประวัติศาสตร์มาบรรเทาปัญหา
ฉายา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม : ตู่ไม่รู้ล้ม เป็นการล้อคำ “โด่ไม่รู้ล้ม” ชื่อยาดองชนิดหนึ่ง สรรพคุณคึกคัก กระปี้กระเปร่า ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย สะท้อนถึงการทำงานของนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ว่าจะประสบปัญหา อุปสรรคการเมืองหรือการชุมนุมขับไล่ถาโถม ยังยืนหยัดฝ่าฟันอยู่ในตำแหน่งได้ต่อไป
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง : ป้อมไม่รู้โรยล้อมาจากคำว่า “บานไม่รู้โรย” ด้วยภาพลักษณ์ของพี่ใหญ่ 3 ป. ในวัย 75 ปี ยังคงทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีเคียงข้างน้อง ๆ ได้ แถมยังแผ่บารมีควบเก้าอี้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล เหมือนกับดอกไม้ แม้จะบานนานมากแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้โรย ประกอบกับวลีติดปากที่มักจะตอบคำถามสื่อมวลชนแทบทุกครั้งว่า ไม่รู้ ๆ อยู่เสมอ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย : ไฮเตอร์ เซอร์วิส เป็นการยกคุณสมบัติเด่นของนายวิษณุที่สามารถหาทางออกปัญหาหนักอกของคนในรัฐบาล โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายได้อย่างเชี่ยวชาญ และ มักถูกวิจารณ์เรื่องความน่าเชื่อถือของรัฐบาล เปรียบได้กับผลิตภัณฑ์ซักฟอกขาวยี่ห้อดัง ที่สามารถล้างคราบสกปรกให้ขาวสะอาดหมดจดได้ แต่อาจทำให้เนื้อผ้าเสียหาย ขาดความสวยงาม คล้ายกับชื่อเสียงของรัฐบาลที่สึกกร่อนตามไปด้วย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข : “ทินเนอร์” ด้วยชื่อ อนุทิน ซึ่งพ้องกับสาระเหยที่มีทั้งคุณและโทษ ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท หากสูดเดาเข้าไปมาก อาจทำลายระบบประสาท กระทบกระเทือนความรู้สึกนึกคิด คล้ายพฤติกรรมการใช้คำพูดที่ขาดความยั้งคิด ส่งผลลบต่อตัวเองและรัฐบาลโดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ จนเป็นประเด็นลดความน่าเชื่อถือของตนเอง เช่น โควิด..กระจอก ไล่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับประเทศหรือตอบโต้กับบุคลากรทางการแพทย์ จนเกิดกระแสต่อต้านหลายครั้ง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ : “เช้าสายบ่ายเคลม” สะท้อนการทำงานที่เห็นได้บ่อยครั้งว่ามักไม่ตรงต่อเวลา เข้าร่วมประชุมสายสม่ำเสมอ ส่วนในแง่การทำงานมักนิ่งเงียบเมื่อมีประเด็นที่ส่งผลลบต่อตนเองและพรรคประชาธิปัตย์ แต่หากเป็นเรื่องที่เป็นผลดีต่อคะแนนนิยมจะรีบเคลมผลงานดังกล่าวทันที
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง : “ค้างคลัง” ซึ่งหมายถึงกรณีที่นายสันติยังไปไม่ถึงดวงดาว โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เปลี่ยนตัวว่าการถึง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายยังเป็นคนนอกสายตา ถูกรั้งให้อยู่ได้แค่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเท่านั้น ทั้งที่ทุ่มเทให้กับพรรคอย่างมาก ทั้งยังออกตัวแรงแสดงออกชัดเจนว่า “พร้อมมาก” ที่จะทำหน้าที่นี้ก็ตาม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม : “ศักดิ์สบายสายเขียว” ที่ลือลั่นมากกับปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวและอีกหลายโครงการที่ขัดแย้งกับหลายหน่วยงาน แต่ยังได้รับการสนับสนุนเกื้อกูลอย่างดีจากนายกรัฐมนตรี โดยระยะหลังเรียกได้ว่า “ขึ้นหม้อ” ตามติดนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด ส่วนการทำงานในพรรคภูมิใจไทย ก็อยู่อย่างไร้ความกังวล เพราะมีพี่ชายที่ชื่อ เนวิน ชิดชอบ คอยดูแลปัดเป่าทุกข์ภัยต่าง ๆ ให้
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม : “พังPORN” สะท้อนการทำงานที่ล้มเหลว ในฐานะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับงานด้านโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักที่ถูกนำมาใช้โจมตีรัฐบาลอย่างหนัก แม้จะเปิดศูนย์ anti-fake news แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ล่าสุดเกิดดราม่าหลังสั่งปิดการเข้าถึงเว็บไซต์ปลุกใจเสือป่าชื่อดัง จนเกิดกระแสต่อต้านลุกลามบานปลาย
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ : “หวีดดับ” จากภาพลักษณ์แกนนำกปปส. ยังคงเป็นภาพจำที่ไม่อาจลบเลือนได้ เช่นเดียวกับนกหวีดที่ถูกยกมาใช้เป็นสัญลักษณ์เปรียบเปรย ได้กำกับดูแลงานกระทรวงเกรดเอ แต่กลับไม่มีผลงานโดดเด่นปรากฎให้เห็น มีเพียงข่าวกระแสต่อต้านรายวัน หนักหน่วงที่สุดคือถูกกลุ่มนักเรียน นักศึกษารวมตัวขับไล่
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน : “แชมป์ไตรกีฬา” ไตรกีฬา ประกอบด้วย กีฬา 3 ชนิด คือ วิ่ง วายน้ำและปั่นจักรยาน สะท้อนภาพลักษณ์ได้ครบถ้วนชัดเจนในบุคลิกที่สื่อมวลชนประจักษ์ ทั้งในตำแหน่งรัฐมนตรี และ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ที่มีทั้งการวิ่งเต้น การเข้าหาผู้ใหญ่และการปลุกปั่นกระแส แม้จะถูกกล่าวหาว่าลืมบุญคุณผู้ชักนำเข้าสู่การเมือง แต่ก็ไม่สนใจเสียงวิจารณ์ เดินหน้าจนสามารถคว้าตำแหน่งที่ต้องการได้สำเร็จ ทั้งที่เป็นนักการเมืองและสส.สมัยแรกเท่านั้น
สำหรับวาทะแห่งปี “ไม่ออก.. แล้วผมทำผิดอะไรหรือ” เป็นคำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ตอบข้อสักถามสื่อมวลชน พร้อมกับบรรดาคณะรัฐมนตรีที่ยืนเรียงหน้าประกาศความเหนียวแน่น เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังกลุ่มผู้ชุมนุมยื่นข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง.-สำนักข่าวไทย