นายกฯ ไม่โกรธฉายาการเมือง มองเป็นสีสัน

ทำเนียบ 23 ธ.ค.-นายกฯ ไม่โกรธฉายาการเมือง มองเป็นสีสัน บอกตัวเองไม่ได้เป็น “แพทองโพย” แต่เป็น “แพทองแพด” ยอมรับวาทะแห่งปี ก็สามีเป็นคนใต้ เผยนึกไม่ออกว่าเกลียดใคร ไม่ชอบก็ถอยห่าง เพราะหากเกลียด-เครียดแล้วเหนื่อย ส่วนฉายา “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” ก็ดีช่วยทำงาน เพราะพ่อมีประสบการณ์

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯรัฐมนตรี เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า มาหาสื่อฯ ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยอ้างว่ามาพบสื่อฯ เพื่อจะสอบถามเรื่องอาหารที่จะนำมาจัดเลี้ยงปีใหม่ทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค.) พร้อมพูดติดตลกว่า “พรุ่งนี้ไม่สัมภาษณ์นะ” และกล่าวถึงฉายาที่ได้รับเป็นปีแรก ว่า “แพทองโพย” ว่าเราเป็นแพทองแพด เราใช้ไอแพด ไม่ได้ใช้โพย ซึ่งสื่อฯ ก็บอกว่าข้อมูลอยู่ในไอแพด ซึ่งนายกฯ ก็ตอบกลับว่าแซวเล่น ก่อนตอบกลับ ว่าปีใหม่แล้วสดใสกันหน่อย พร้อมชี้ตัวเองว่าใส่เสื้อสีสัน และบอกกับสื่อฯ ว่าไม่โกรธสื่อฯ


และพูดถึงฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง พร้อมหัวเราะ และกล่าวว่าไม่โกรธเลย โดยสื่อฯ พยายามอธิบายกับนายกรัฐมนตรี ว่า พ่อส่งในเรื่องของแนวทางการทำงาน ซึ่งนางสาวแพรทองธาร กล่าวตอบว่าเป็นเรื่องดี เพราะคุณพ่อมีประสบการณ์ เรื่องเศรษฐกิจคุณพ่อก็ดี บางอย่างที่ปรับใช้กับยุคนี้ได้ ยิ่งเป็นเรื่องดี เราต้องหัดมองมุมที่มันดีบ้าง

“อย่าให้เป็นดราม่า ต้องทะเลาะกัน เหนื่อย ชีวิตทุกคนทำงานมาทั้งปีแล้ว เป็นโหมดต้องแฮปปี้แล้ว ทำงานผ่านมาแล้วปีหนึ่ง แฮปปี้ มีความสุข ภูมิใจกลับอะไรบ้าง ให้ทุกคนคิดแบบนี้ รวมถึงจะปรับปรุงอะไรบ้าง อย่าไปบี้ตัวเอง หรือทำให้รู้สึกว่าแย่ มันจะปีใหม่แล้ว อากาศก็ดี สดชื่น สดใส ขอให้ทุกคนได้พักผ่อน อย่าไปเครียดมาก มีเรื่องเครียดในชีวิตเยอะแล้ว” น.ส.แพทองธารกล่าว


ส่วนวาทะแห่งปี สามีเป็นคนใต้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าก็ยอมรับสามีเป็นคนใต้ คุณพ่อเป็นคนเหนือ คุณแม่ภาคกลาง ส่วนพี่ๆ เป็นลูกครึ่ง ดีค่ะ เพราะเป็นเรื่องจริง เป็นความจริง ก็เป็นคนใต้จริงๆ พร้อมย้ำว่าตัวเองเป็นลูกครึ่ง พ่อคนเหนือ แม่เป็นคนภาคกลาง ก่อนถามสื่อว่าทุกคนเป็นคนภาคไหนกันบ้าง

เมื่อสื่อถามว่า คำว่าสามีเป็นคนใต้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ซึ่งนายกฯ ก็ย้อนถามกลับว่าวิจารณ์ในเรื่องอะไร สื่อฯ กล่าวต่อว่านายกรัฐมนตรีไม่ลงพื้นที่ภาคใต้เพราะไม่มีฐานเสียงในภาคใต้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวเน็ตสะท้อนมา น.ส.แพทองธาร ก็กล่าวว่า ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน ต้องดูแลหมด การที่จะลงพื้นที่ สมมุติว่าน้ำท่วมทุกจังหวัด นายกฯ ไปคนเดียวไม่ไหวแน่นอน ครม.มีหลายคนก็ช่วยกันไป รวมถึง สส. ขั้นแรกต้องดูแลประชาชนในพื้นที่ก่อน ยืนยันตนเองถ้าไปเองได้ไปทันที ตอนต้นเดือนสื่อฯ ก็น่าจะเห็นตารางงานแล้วว่าแน่น ตั้งแต่เดือน พ.ย. จนถึง ธ.ค. ซึ่งถ้าไปได้ก็ไป ส่วนการเยียวยาเคาะให้ภาคใต้เร็วที่สุด ซึ่งถ้ามีประเด็นกับภาคใต้คงไม่เคาะให้เร็วที่สุด และคงไม่ทำ พร้อมบอกว่าตนเองเป็นหนึ่งคนที่ผ่านอะไรมาเยอะในชีวิต ตั้งแต่เด็กที่เจอเรื่องการเมือง แต่จะให้นึกว่าให้เกลียดใครนึกไม่ออก เพราะไม่ค่อยเกลียดใคร เพราะมันเหนื่อย

“จึงรู้สึกว่าไม่ต้องเกลียด ถ้าเราไม่ชอบ เอ็นเนอร์จี้เรากับคนนั้นๆ ไม่ได้ ก็แค่ถอยมา ถ้าจะต้องไปเกลียดหรือไม่ชอบใครมันเหนื่อย พร้อมถามกลับว่าเคยไม่ชอบคนหรือไม่ มันเหนื่อย” น.ส.แพทองธาร กล่าว


เมื่อสื่อถามว่าแสดงว่า นายกรัฐมนตรี มีภูมิคุ้มกันทางการเมืองมาตั้งแต่เด็ก นายกฯ กล่าวว่าก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเรียกว่าภูมิคุ้มกันหรือไม่ แค่รู้สึกว่าเราไม่ชอบตรงไหนเราก็ถอยออกมา อยู่ในจุดที่เราโอเค เราแฮปปี้ เราเป็นประโยชน์ได้ก็ตรงนั้น อย่าไปเกลียดใครมากเพราะมันเหนื่อย

เมื่อถามว่า เมื่อฟังเสียงสะท้อนจากสื่อและโซเชียลในปีหน้า นายกฯ ตั้งเป้ายังไง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าเป้าของตัวเองคือความเดือดร้อนของประชาชน จะต้องได้รับการแก้ไข อะไรเดือดร้อนต้องแก้ก่อน แต่บางอย่างต้องใช้เวลาในการแก้ เช่นการวางแผนในเรื่องเศรษฐกิจ เพิ่มการสร้างรายได้ ต้องรีบทำคู่กัน อะไรที่คิกออฟได้ต้องออกให้หมด อะไรที่จะซัพพอร์ตประชาชนได้ต้องออกให้หมด นั่นคือเป้าหมาย ส่วนจะมีการดราม่าก็ขอให้เป็นเรื่องๆ ไป.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]

ทบ.ยันคุมตัว 18 ทหารเขมร ยึดหลักกฎหมายสากล

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบก แถลงโต้กัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติสากล ยืนยันควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นาย เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีกัมพูชายื่นข้อเรียกร้องต่อทางการไทย เพื่อให้ส่งตัวทหารที่ถูกควบคุมตัวไว้กลับประเทศ ขอเรียนว่าฝ่ายกัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติในระบบของสากล ยืนยันการปฏิบัติของฝ่ายไทยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล ซึ่งเชื่อว่าประเทศพันธมิตรและองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ มีความเข้าใจ และไม่ได้มีความกังวลใดๆ อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง โดยเฉพาะการที่ฝ่ายไทยได้เปิดโอกาสให้องค์กรสากลที่เกี่ยวข้องสามารถประสานขอเข้าเยื่ยมชมได้ตลอดตั้งแต่วันแรกๆ ที่ฝ่ายไทยได้มีการควบคุมตัว   อย่างเช่นเมื่อ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีคณะผู้แทนจาก ICRC ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด้านการคุ้มครอง ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เจ้าหน้าที่โครงการของ ICRC และล่าม รวม 4 คน เพิ่งมาเยื่ยมชมไป จึงขอยืนยันว่าการควบคุมทหารกัมพูชาทั้ง 18 คนนั้น เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวา ไม่ใช่การควบคุมตัวอย่างผิดกฎหมายตามที่ กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้กล่าวอ้าง ทั้งนี้การถูกควบคุมตัวดังกล่าว จำเป็นต้องคงไว้ จนกว่าสถานะการณ์การหยุดยิงหรือสถานการณ์การสู้รบ จะมีความสมบูรณ์เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนแล้วเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด จะไม่หวนกลับมาทำการสู้รบกับฝ่ายไทยอีก ซึ่งเป็นไปตามแนวทางหลักสากล และเชื่อว่าด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชายังมีเรื่องสำคัญอื่น ที่ควรให้ความสำคัญอย่างมากด้วยเช่นกัน […]

ทหารกล้าเล่านาทีระทึก รอดตายจากระเบิดชายแดน

11 ส.ค.- ทหารกล้า เล่าเหตุการณ์ ลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา ร่วงใส่จุดที่กำลังพลอยู่พอดี จนได้รับบาดเจ็บ ทีมข่าวลงพื้นที่อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี บ้านของ สิบโทปรีชา เสือบัว อายุ 24 ปี หัวหน้าชุดหมู่ปืนเล็กหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เล่านาทีรอดชีวิตจากเหตุระเบิดที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะประจำการอยู่ในบังเกอร์ ได้ยินเสียงปืนครกจากฝั่งกัมพูชา จึงรีบถอยตัวออกครึ่งหนึ่งเพื่อให้ลูกน้องหลบเข้าไปด้านในบังเกอร์  แต่จังหวะนั้นกระสุนระเบิดตกใส่ทันทีจนร่างกระเด็นและหมดสติ เหตุระเบิดทำให้สิบโทปรีชา ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาซ้าย ขณะปฏิบัติหน้าที่พร้อมเพื่อนทหารอีก 3 นาย สิบโทปรีชา ยังบอกอีกว่า “หากต้องบาดเจ็บอวัยวะส่วนไหน ก็ยอม แต่จะไม่ยอมเสียชาติ” พร้อมเผยว่าได้ติดต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ แม้ได้รับคำสั่งให้พักรักษาตัวก่อน แต่หากมีความจำเป็น เขาพร้อมกลับไปสู้เพื่อประเทศชาติทันที ทั้งนี้ ตัว สิบโทปรีชา และครอบครัวเชื่อว่า เป็นบารมี หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อยูร และหนังเสือ วัดพนมเศษเหนือ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ […]

กต.เดินหน้าร้องเรียนกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหาร

11 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ รายงานผลการร้องเรียนกัมพูชาต่อองค์กรระหว่างประเทศ กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศ ออกรายงาน “การดำเนินการของไทยต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) สาระสำคัญ คือ ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 23 กรกฎาคม และ 9 สิงหาคม 2568 ทหารไทยรวม 11 นาย บาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับ นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญา ออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชาโดย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ เปิดเผยพฤติกรรมการวางทุ่นระเบิด PMN-2 […]