ทำเนียบฯ 17 พ.ย.- รองนายกรัฐมนตรี เผยเตรียมนำการลงนาม อาร์เซ็ป ขอความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา ให้ทันในสมัยประชุมนี้ เผยเมื่อมีผลบังคับใช้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับการค้า การลงทุนของไทย
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในที่ประชุมครม.วันนี้ จะมีการแจ้งเรื่องการลงนามร่วมกันในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ให้ทราบหลังจากลงนามไปวันที่ 15 พ.ย. 2563 ซึ่งประกอบด้วย 15 ประเทศ ได้แก่กลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ และคู่เจรจาอีก 5 ประเทศได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ขั้นตอนต่อไปต้องมีการให้สัตยาบรรณกับสมาชิกทั้ง 15 ประเทศ ซึ่งกระบวนการก็แล้วแต่ประเทศนั้น ๆ ได้กำหนดหนดไว้ ในส่วนไทยต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน จากนั้นจะแจ้งให้เลขาธิการอาร์เซปรับทราบ ซึ่งจากนี้จะเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาโดยเร็วให้ทันสมัยประชุมนี้
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงนามจะมีผลบังคับใช้ได้ ต้องมีการให้สัตยาบรรณ 5 ประเทศขึ้นไป และบวกประเทศคู่เจรจาอย่างน้อย 3 ประเทศจึงจะมีผล หากได้เสียงตามนี้ก็บังคับใช้ได้เลย ซึ่งตนพยายามเร่งรัดเพราะจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับการค้า การลงทุนของไทย เพราะจะช่วยให้เรามีตลาดที่ใหญ่ขึ้น เงื่อนไขการผ่อนปรนมากยิ่งขึ้น การส่งออกสินค้าไทยไปยัง 14 ประเทศที่เหลือจะทำให้ภาษีเป็นศูนย์ และทำให้เราสามารถแข่งขันได้ตามระยะเวลาเงื่อนไขที่กำหนดไว้ อันจะเป็นการสร้างแต้มต่อให้กับไทย และเอกชนต้องเร่งเตรียมตัวและศึกษากฎระเบียบให้ได้.-สำนักข่าวไทย