“จุรินทร์” เตือนดิจิทัลวอลเล็ต เสี่ยงผิดวินัยการเงินการคลัง

รัฐสภา 17 ก.ค.- “จุรินทร์” เตือนรัฐบาลอย่าทำให้เกิดเงินกู้ไร้อนาคตปมดิจิทัลวอลเล็ต มีแรงกระเพื่อมจ๋อมเดียวแล้วหายกลายเป็นพายุหนี้ เสี่ยงผิดวินัยการเงินการคลัง หั่นงบจากเรือยอชต์เหลือเรือแจว ส่อแววประเทศเสียหายไม่ว่า ขอให้ข้าได้หาเสียง


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า วันนี้เป็นอีกวันที่ต้องมาพูดเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่ความจริงควรจะจบไปนานแล้ว แต่เพราะรัฐบาลสัญญาว่าจะทำทันที วันนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ส่วนสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมคือการกู้มาแจก 1.22 แสนล้านบาท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท ที่รัฐบาลจะนำไปทำดิจิทัลวอลเล็ต

ตนเองติดตามข่าวมีคนในรัฐบาลอ้างว่าทำเหมือนสิงคโปร์ ซึ่งก็แตกต่าง ขอทำความเข้าใจว่าสิงคโปร์แจกจริง แต่เพราะมีเงินเหลือพอ ประเทศไทยกู้มาแจกเป็นคนละเวอร์ชั่นกัน ย้ำว่าไม่เคยต่อต้านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และยังทวงถามแทนประชาชนทุกครั้งว่าเงิน 10,000 บาทที่รัฐบาลประกาศจะแจกตั้งแต่ตอนหาเสียงจะได้เมื่อไร ได้กี่โมง วันนี้ก็จะขอทำหน้าที่ทวงถามอีกรอบ ส่วนตัวถือหลักว่าเมื่อพรรคการเมืองหาเสียงได้รัฐบาลแล้วต้องมีความรับผิดชอบ เพราะสัญญาแลกเอาคะแนนมาต้องชดใช้ให้กับประชาชน โดยจะต้องทำให้ทันเวลาถูกกฎหมาย โปร่งใส และคุ้มค่ากับประเทศ


ทั้งนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลไม่ได้บอกกับประชาชน รัฐบาลบอกบางเรื่อง บางเรื่องไม่หมด บางเรื่องบิดเบือน จึงเป็นหน้าที่ของตนเองที่เป็นฝ่ายตรวจสอบ จะต้องทำหน้าที่เป็นกระจกเงาสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของรัฐบาลให้ประชาชนเห็น เพื่อเป็นประโยชน์ในการที่รัฐบาลจะนำไปปรับปรุงบริหารโครงการ และเพื่อให้ประชาชนรับรู้ร่วมกันว่าหลังแจกเงินคนละหมื่น ผลที่ตามมากับประเทศมีอะไรบ้าง

เริ่มที่ความล่าช้าของโครงการ ไม่ใช่แรงค้านของฝ่ายไหน แต่เป็นความโหลยโท่ยของรัฐบาล บริหารราชการแผ่นดินเหมือนเด็กเล่นขายของ เป็นไม้หลักปักขี้เลนโอนไปเอนมา เอาแน่ไม่ได้ เรื่องเวลาเลื่อนมาแล้วกี่รอบ ประชาชนลงเรือเก้อไปแล้วกี่ลำ

ส่วนแหล่งเงินก็กลับไปกลับมา แม้นายกฯ ออกมาโชว์พาว นำทีมแถลงเองบอกว่าต่อไปนี้ชัดเจน แต่ต่อมาก็ยกเลิกในสิ่งที่ตนเองแถลง นายกฯ ท่านนี้เชื่อถือได้กี่เปอร์เซ็นต์ ตอนหาเสียงบอกว่าจะแจกทันทีไม่มีกู้ พอเป็นรัฐบาลไม่กี่วันออกลายเลื่อนทันทีไม่มีกู้ ถึงขั้นออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท แต่สุดท้ายยกธงขาว เพราะจำนวนต่อข้อกฎหมายว่าทำไม่ได้รัฐบาล พยายามสร้างประเด็นว่าเศรษฐกิจกำลังวิกฤต เอาเข้าจริงมันไม่ได้วิกฤตถึงขั้นต้องกู้มาแจก เปลี่ยนมาใช้เงิน ธ.ก.ส.แทน ท่ามกลางเสียงเตือนสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายเพราะเงินดังกล่าวมีไว้แจกและดูแลเกษตรกร ไม่สามารถนำมาแจกแบบเหวี่ยงแหหรือเฮลิคอปเตอร์มันนี่ได้ รัฐบาลยังเสียงแข็งยืนยันว่าทำได้เสียเวลาไปสามเดือน เพราะความดื้อรั้นดันทุลังของรัฐบาลสุดท้ายโยนผ้าที่ยืนยันมาตลอดก็แค่ปากกล้าขาสั่น สร้างความหวังให้ประชาชนไปวัน ๆ


เมื่อวานซืนมาใหม่ ขอเปลี่ยนเป็นแหล่งเงินมาจากสองแหล่งคืองบประมาณ ปี 67 จำนวน 1.65 แสนล้านบาท แบ่งเป็นงบกลางปี 1.22 แสนล้านบาท ที่กำลังพิจารณาอยู่อีกก้อนเป็นงบบริหารจัดการ 4.3 หมื่นล้านบาท ส่วนงบปี 68 จำนวน 2.85 แสนล้านบาท แบ่งเป็น งบรายจ่าย 1.5 แสนล้านบาท และงบบริหารจัดการ 1.32 แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน จนถึงวันนี้เม็ดเงินจริงยังไม่มีสักบาทล่องลอยอยู่ในอากาศ

หลายประเด็นยังไม่นิ่ง เพราะรัฐบาลบริหารแบบคิดไปทำไป ยกตัวอย่างรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาแถลงแหล่งเงิน 4.3 หมื่นล้านบาท จะเอามาจากงบกลาง ปี 67 จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจึงออกมาแถลงต่อว่า 4.3 หมื่นล้านบาท ไม่จำเป็นต้องมาจากงบกลางทั้งหมด นี่เป็น ครม. ชุดเดียวกันหรือไม่

ส่วนเรื่องวันลงทะเบียนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแถลงหลังการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ที่นายกฯ เป็นประธาน โดยระบุว่าวันลงทะเบียนจะมอบให้คณะอนุกรรมการพิจารณาว่าวันไหน ขณะที่นายกโพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X เปิดให้ลงทะเบียน 1 ส.ค.67 เห็นใจรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังไปไม่เป็น เพราะนายกฯ มาแย่งซีน สินค้าอะไรซื้อได้หรือไม่ได้ คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่มอบกระทรวงพาณิชย์ไปพิจารณา เป็นการคิดไปทำไป สวนกันมาสวนกันไป

ขณะที่ยอดเงินลดมา 3 รอบ เริ่มต้นยืนยันว่าวงเงิน 5.6 แสนล้านบาท ลดเหลือ 5 แสนล้านบาท ลดเหลือ 4.5 แสนล้านบาทจากเรือยอร์ชเป็นเรือแจว แต่ยังคงเป้าหมาย 50 ล้านคนไว้ไม่มีลด โดยหวังว่า 10% หรือประมาณ 5 ล้านคนจะไม่มาใช้สิทธิ แต่ถ้า 5 ล้านคนมาใช้สิทธิจะเอาเงินที่ไหนไปแจก เหมือนนั่งเรือแจวไปตายเอาดาบหน้า

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่านายกฯ พูดความจริงเพียงแค่ครึ่งเดียวเกี่ยวกับการใช้งบกลางปี 67 งบกลางที่ไม่ได้ใช้และรัฐบาลหวังจะเอามาแจก อยู่ในงบกลางฉุกเฉิน มี 9.5 หมื่นล้านบาท ตัวเลขจากกรมบัญชีกลางรัฐบาลใช้ไปแค่ 3.25 พันล้านบาท หรือ 3.25% แปลว่าการเบิกจ่ายงบฉุกเฉินเกียร์ว่าง เพื่อให้เงินเหลือใช้เอามาแจก สนองนโยบายพรรคการเมืองและรัฐบาล

สำหรับงบปี 68 จำนวน 1.3 แสนล้านบาท จนวันนี้ยังไม่รู้ว่าจะเอามาจากไหน ขอให้รัฐบาลช่วยตอบ จะใช้วิธีนำเสียงข้างมากในคณะกรรมาธิการตัดงบมากองไว้ให้ได้มากที่สุด แล้วใช้มติ ครม.เพื่อนำไปใช้ในดิจิทัลวอลเล็ต พรรคร่วมรัฐบาลจะนั่งเป็นตัวการ์ตูนหรือ ประชาชนจะเสียหายขนาดไหน กระทรวงจะนำเงินจากไหนไปบริหาร หรือจะต้องมาเสนองบกลางปี 68 เพื่อให้ได้เงินพอ ทั้งหมดเป็นความจริงที่รัฐบาล ไม่ได้บอก เป็นวิบากกรรมที่รัฐบาลสร้างขึ้นมา ทำให้ตนเองต้องมาทำหน้าที่บอกกับประชาชนแทน

พ.ร.บ.ฉบับที่เรากำลังพิจารณากัน ประกอบด้วยหลักการเหตุผลและเนื้อหาเพียงแค่ 6 มาตรา ประกอบด้วยรายจ่ายใส่ไว้ในงบกลาง 1.22 แสนล้านบาทเพื่อทำดิจิทัลวอลเล็ตโดยเฉพาะ และให้กระทรวงการคลังมีอำนาจในการสั่งจ่าย ระบุรายได้ไม่ได้กู้ทั้งดุ้น ตามเอกสารเขียนไว้ว่ารายได้หมื่นล้านมาจากภาษีและรายได้อื่น เป็นแหล่งเงินจากการจัดเก็บรายได้ ที่เดิมไม่ได้กำหนดไว้ในงบประมาณการ แต่เมื่อไปดูกลับพบว่างบประมาณหนึ่งล้านบาทมาจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ไทยที่ต้องโอนให้คลัง จึงถือโอกาสใส่มาเพื่อแก้เกี้ยวว่าไม่ได้กู้ทั้งดุ้น เงินก้อนนี้กลายเป็นเงินบุญหล่นทับไม่ได้เกิดจากฝีมือรัฐบาล

หากมีการอนุมัติ พ.ร.บ.ฉบับนี้ เท่ากับอนุมัติให้รัฐบาลกู้เงินมาชดเชยการขาดดุล 1.22 แสนล้านบาท เอามาแจกเพื่อสนองนโยบาย ส่วนการใช้หนี้เป็นเรื่องของอนาคต ขณะที่รายจ่ายลงทุน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปในทุกวงการของผู้มีความรู้ เพราะรัฐบาลตีความว่า 9.7 หมื่นล้านบาทเป็นรายจ่ายลงทุน ซึ่งไม่น่าจะจริง เพราะดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่เงินลงทุนแต่เป็นเงินโอนเพื่อการบริโภค นิยามรายจ่ายลงทุนของสำนักงบประมาณระบุไว้ชัดว่า รายจ่ายที่รัฐบาลจ่ายเพื่อจัดหาสินทรัพย์ประเภททุนทั้งที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน ตลอดจนรายจ่ายที่รัฐบาลอุดหนุนหรือโอนให้แก่บุคคลโดยผู้รับไม่ต้องจ่ายคืนให้รัฐบาล และผู้รับนำไปใช้จัดหาสินทรัพย์ประเภททุน นอกจากนี้รายจ่ายลงทุนยังรวมถึงรายจ่ายที่รัฐบาลจ่ายอุดหนุน โดยผู้รับตั้งใจนำไปลงทุน ไม่ใช่เพื่อการบริโภค เป็นการวินิจฉัยเองว่าเงินที่มาขออนุมัติเท่ากับเงินลงทุน

สุดท้ายอาจนำไปสู่ความเสี่ยงผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังมาตรา 20 (1) เข้าใจรัฐบาลที่พยายามจะใส่ฟองสบู่ว่าเงินที่มาขอกู้วันนี้ เอาไปลงทุนเยอะไม่ได้เอาบริโภคอย่างเดียว และจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในการพัฒนาต่อไป แต่หนีความจริงไม่พ้นว่าที่แจก แจกเพื่อบริโภค

ส่วนเรื่องความคุ้มค่า รัฐบาลตีปิ๊บมาโดยตลอดดิจิทัลวอลเล็ตจะทำให้เศรษฐกิจโต 5% ทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทำให้ GDP เฉพาะดิจิทัลวอลเล็ตโต 1.2-1.8% พูดอย่างกับตลกคาเฟ่ ดูถูกคนคิดเลขทั้งประเทศ เพราะไม่ว่าจะหน่วยงานไหนก็ระบุว่าได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งยังมีค่าเสียโอกาสหากรัฐบาลเอา 5 แสนล้านไปทำอย่างอื่น เช่น แจกกลุ่มเปราะบาง แจกคนจน จะทำให้เขาใช้เงินทันที เอาเงินที่เหลือไปใช้ลงทุนด้านอื่นเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน จะได้ประโยชน์มากกว่าการกู้เพื่อศรษฐกิจระยะสั้น

เพราะฉะนั้นการกู้มาแจกแค่ 6 เดือนเหมือนโยนหินลงน้ำหนึ่ง เกิดแรงกระเพื่อมจ๋อมเดียวแล้วก็หายไป แต่ที่เกิดตามมาคือพายุหมุน เอาหนี้ก้อนโตมาให้คนไทยชดใช้ไปอีกนาน เข้าทำนอง “ประเทศเสียหายไม่ว่าขอให้ข้าได้หาเสียง”

นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงเรื่องความไม่โปร่งใส โดยเตือนรัฐบาลให้ระวังอย่าทำให้กลายเป็นแรงกู้ไร้อนาคตเพราะการทุจริตคอรัปชั่น นอกจากนี้ยังมีคำถามเดิมจากประชาชนที่สงสัยรัฐบาล เช่น ทำไมไม่แจกเป็นเงินสด ทำไมต้องซับซ้อน ทำไมไม่แจกผ่านแอปเป๋าตัง ส่วนเหตุผลที่ต้องแจกเงินคนอายุ 16 ปีขึ้นไป เพราะอีก 2 ปีอายุ 18 ปี สามารถลงคะแนนเลือกตั้งได้ เป็นคำตอบว่าสุดท้ายแจกเงินเพื่อใคร

รัฐบาลเคยถามตนเองหรือไม่ ช่วงเข้ามาใหม่มีคนทำผลสำรวจหากยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ประชาชนจะโกรธไหม ซึ่งประชาชนตอบตรงกัน ประมาณ 70% ว่าไม่โกรธเลย อนุมานได้ว่าหลังเลือกตั้งงบประมาณเศรษฐกิจยังพอไปได้ แต่ถ้ามาถามใหม่ ไม่แน่ใจว่าคำตอบจะเปลี่ยนหรือไม่ เพราะรัฐบาลนี้บริหารมาเกือบปี ไม่เหลืออะไรให้ประชาชนหวังได้อีก นอกจากน้ำข้าวต้มดิจิทัลวอลเล็ตชามเดียว

แม้จะเปลี่ยนไปใช้แอปทางลัด แต่ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นแค่ทางรอดของประชาชนคนจนและกลุ่มเปราะบางชั่วคราวเฉพาะกิจเท่านั้น แม้อาจจะเป็นทางรอดของบางพรรคการเมือง แต่ไม่ใช่ทางรอดของประเทศ.-317 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ลงโทษ “ชัยวัฒน์” ไล่ออกจากราชการ ปม ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- ก.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีคำสั่งลงโทษไล่ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกจากราชการ กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยพบพฤติการณ์ฮั้วประมูล และปลอมเอกสารตรวจรับงานที่ทำให้รัฐเสียหาย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 194/2568 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ให้ลงโทษนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ประเภทอำนวยการระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ้นจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาสำนวนไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. […]

กัมพูชาถือฤกษ์ 15 มิ.ย. ยื่นฟ้อง 4 พื้นที่พิพาทต่อศาลโลกแล้ว

พนมเปญ 15 มิ.ย. – เช้าวันนี้ รัฐบาลกัมพูชา ยื่นจดหมายอย่างเป็นทางการแล้ว ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ International Court of Justice (ICJ) เพื่อหาข้อยุติกรณี 4 พื้นที่พิพาท คือ ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด, ปราสาทตากระเบ็ย หรือ ปราสาทตาควาย รวมทั้ง พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต หรือ ช่องบกของไทย รัฐบาลกัมพูชา กล่าวอ้างถึงเหตุการณ์เมื่อ 63 ปีที่แล้ว คือ วันที่ 15 มิถุนายน 2505 ซึ่งถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ พิพากษาให้กัมพูชา ชนะคดีเขาพระวิหาร โดยระบุว่า แม้เหตุการณ์จะห่างกัน 63 ปี แต่ความมุ่งมั่นและเจตจำนงของกัมพูชา ยังคงเหมือนเดิม คือ กัมพูชาเลือกที่จะใช้สันติวิธีโดยยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศ ผ่านกลไกกระบวนการของศาล ICJ เพื่อแก้ปัญหาพิพาทเขตแดนในพื้นที่ที่เป็นจุดเปราะบาง มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการปะทะกันทางทหาร และเป็นพื้นที่ปัญหาที่ไม่อาจหาข้อยุติได้ด้วยกลไกระดับทวิภาคี ดังเช่น กรณีพื้นที่เขาพระวิหารเมื่อกว่า 60 […]

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กทม. 15 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณมณฑลกว่างซี ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]