“จุรินทร์” เตือนดิจิทัลวอลเล็ต เสี่ยงผิดวินัยการเงินการคลัง

รัฐสภา 17 ก.ค.- “จุรินทร์” เตือนรัฐบาลอย่าทำให้เกิดเงินกู้ไร้อนาคตปมดิจิทัลวอลเล็ต มีแรงกระเพื่อมจ๋อมเดียวแล้วหายกลายเป็นพายุหนี้ เสี่ยงผิดวินัยการเงินการคลัง หั่นงบจากเรือยอชต์เหลือเรือแจว ส่อแววประเทศเสียหายไม่ว่า ขอให้ข้าได้หาเสียง


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า วันนี้เป็นอีกวันที่ต้องมาพูดเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่ความจริงควรจะจบไปนานแล้ว แต่เพราะรัฐบาลสัญญาว่าจะทำทันที วันนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ส่วนสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมคือการกู้มาแจก 1.22 แสนล้านบาท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท ที่รัฐบาลจะนำไปทำดิจิทัลวอลเล็ต

ตนเองติดตามข่าวมีคนในรัฐบาลอ้างว่าทำเหมือนสิงคโปร์ ซึ่งก็แตกต่าง ขอทำความเข้าใจว่าสิงคโปร์แจกจริง แต่เพราะมีเงินเหลือพอ ประเทศไทยกู้มาแจกเป็นคนละเวอร์ชั่นกัน ย้ำว่าไม่เคยต่อต้านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และยังทวงถามแทนประชาชนทุกครั้งว่าเงิน 10,000 บาทที่รัฐบาลประกาศจะแจกตั้งแต่ตอนหาเสียงจะได้เมื่อไร ได้กี่โมง วันนี้ก็จะขอทำหน้าที่ทวงถามอีกรอบ ส่วนตัวถือหลักว่าเมื่อพรรคการเมืองหาเสียงได้รัฐบาลแล้วต้องมีความรับผิดชอบ เพราะสัญญาแลกเอาคะแนนมาต้องชดใช้ให้กับประชาชน โดยจะต้องทำให้ทันเวลาถูกกฎหมาย โปร่งใส และคุ้มค่ากับประเทศ


ทั้งนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลไม่ได้บอกกับประชาชน รัฐบาลบอกบางเรื่อง บางเรื่องไม่หมด บางเรื่องบิดเบือน จึงเป็นหน้าที่ของตนเองที่เป็นฝ่ายตรวจสอบ จะต้องทำหน้าที่เป็นกระจกเงาสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของรัฐบาลให้ประชาชนเห็น เพื่อเป็นประโยชน์ในการที่รัฐบาลจะนำไปปรับปรุงบริหารโครงการ และเพื่อให้ประชาชนรับรู้ร่วมกันว่าหลังแจกเงินคนละหมื่น ผลที่ตามมากับประเทศมีอะไรบ้าง

เริ่มที่ความล่าช้าของโครงการ ไม่ใช่แรงค้านของฝ่ายไหน แต่เป็นความโหลยโท่ยของรัฐบาล บริหารราชการแผ่นดินเหมือนเด็กเล่นขายของ เป็นไม้หลักปักขี้เลนโอนไปเอนมา เอาแน่ไม่ได้ เรื่องเวลาเลื่อนมาแล้วกี่รอบ ประชาชนลงเรือเก้อไปแล้วกี่ลำ

ส่วนแหล่งเงินก็กลับไปกลับมา แม้นายกฯ ออกมาโชว์พาว นำทีมแถลงเองบอกว่าต่อไปนี้ชัดเจน แต่ต่อมาก็ยกเลิกในสิ่งที่ตนเองแถลง นายกฯ ท่านนี้เชื่อถือได้กี่เปอร์เซ็นต์ ตอนหาเสียงบอกว่าจะแจกทันทีไม่มีกู้ พอเป็นรัฐบาลไม่กี่วันออกลายเลื่อนทันทีไม่มีกู้ ถึงขั้นออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท แต่สุดท้ายยกธงขาว เพราะจำนวนต่อข้อกฎหมายว่าทำไม่ได้รัฐบาล พยายามสร้างประเด็นว่าเศรษฐกิจกำลังวิกฤต เอาเข้าจริงมันไม่ได้วิกฤตถึงขั้นต้องกู้มาแจก เปลี่ยนมาใช้เงิน ธ.ก.ส.แทน ท่ามกลางเสียงเตือนสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายเพราะเงินดังกล่าวมีไว้แจกและดูแลเกษตรกร ไม่สามารถนำมาแจกแบบเหวี่ยงแหหรือเฮลิคอปเตอร์มันนี่ได้ รัฐบาลยังเสียงแข็งยืนยันว่าทำได้เสียเวลาไปสามเดือน เพราะความดื้อรั้นดันทุลังของรัฐบาลสุดท้ายโยนผ้าที่ยืนยันมาตลอดก็แค่ปากกล้าขาสั่น สร้างความหวังให้ประชาชนไปวัน ๆ


เมื่อวานซืนมาใหม่ ขอเปลี่ยนเป็นแหล่งเงินมาจากสองแหล่งคืองบประมาณ ปี 67 จำนวน 1.65 แสนล้านบาท แบ่งเป็นงบกลางปี 1.22 แสนล้านบาท ที่กำลังพิจารณาอยู่อีกก้อนเป็นงบบริหารจัดการ 4.3 หมื่นล้านบาท ส่วนงบปี 68 จำนวน 2.85 แสนล้านบาท แบ่งเป็น งบรายจ่าย 1.5 แสนล้านบาท และงบบริหารจัดการ 1.32 แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน จนถึงวันนี้เม็ดเงินจริงยังไม่มีสักบาทล่องลอยอยู่ในอากาศ

หลายประเด็นยังไม่นิ่ง เพราะรัฐบาลบริหารแบบคิดไปทำไป ยกตัวอย่างรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาแถลงแหล่งเงิน 4.3 หมื่นล้านบาท จะเอามาจากงบกลาง ปี 67 จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจึงออกมาแถลงต่อว่า 4.3 หมื่นล้านบาท ไม่จำเป็นต้องมาจากงบกลางทั้งหมด นี่เป็น ครม. ชุดเดียวกันหรือไม่

ส่วนเรื่องวันลงทะเบียนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแถลงหลังการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ที่นายกฯ เป็นประธาน โดยระบุว่าวันลงทะเบียนจะมอบให้คณะอนุกรรมการพิจารณาว่าวันไหน ขณะที่นายกโพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X เปิดให้ลงทะเบียน 1 ส.ค.67 เห็นใจรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังไปไม่เป็น เพราะนายกฯ มาแย่งซีน สินค้าอะไรซื้อได้หรือไม่ได้ คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่มอบกระทรวงพาณิชย์ไปพิจารณา เป็นการคิดไปทำไป สวนกันมาสวนกันไป

ขณะที่ยอดเงินลดมา 3 รอบ เริ่มต้นยืนยันว่าวงเงิน 5.6 แสนล้านบาท ลดเหลือ 5 แสนล้านบาท ลดเหลือ 4.5 แสนล้านบาทจากเรือยอร์ชเป็นเรือแจว แต่ยังคงเป้าหมาย 50 ล้านคนไว้ไม่มีลด โดยหวังว่า 10% หรือประมาณ 5 ล้านคนจะไม่มาใช้สิทธิ แต่ถ้า 5 ล้านคนมาใช้สิทธิจะเอาเงินที่ไหนไปแจก เหมือนนั่งเรือแจวไปตายเอาดาบหน้า

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่านายกฯ พูดความจริงเพียงแค่ครึ่งเดียวเกี่ยวกับการใช้งบกลางปี 67 งบกลางที่ไม่ได้ใช้และรัฐบาลหวังจะเอามาแจก อยู่ในงบกลางฉุกเฉิน มี 9.5 หมื่นล้านบาท ตัวเลขจากกรมบัญชีกลางรัฐบาลใช้ไปแค่ 3.25 พันล้านบาท หรือ 3.25% แปลว่าการเบิกจ่ายงบฉุกเฉินเกียร์ว่าง เพื่อให้เงินเหลือใช้เอามาแจก สนองนโยบายพรรคการเมืองและรัฐบาล

สำหรับงบปี 68 จำนวน 1.3 แสนล้านบาท จนวันนี้ยังไม่รู้ว่าจะเอามาจากไหน ขอให้รัฐบาลช่วยตอบ จะใช้วิธีนำเสียงข้างมากในคณะกรรมาธิการตัดงบมากองไว้ให้ได้มากที่สุด แล้วใช้มติ ครม.เพื่อนำไปใช้ในดิจิทัลวอลเล็ต พรรคร่วมรัฐบาลจะนั่งเป็นตัวการ์ตูนหรือ ประชาชนจะเสียหายขนาดไหน กระทรวงจะนำเงินจากไหนไปบริหาร หรือจะต้องมาเสนองบกลางปี 68 เพื่อให้ได้เงินพอ ทั้งหมดเป็นความจริงที่รัฐบาล ไม่ได้บอก เป็นวิบากกรรมที่รัฐบาลสร้างขึ้นมา ทำให้ตนเองต้องมาทำหน้าที่บอกกับประชาชนแทน

พ.ร.บ.ฉบับที่เรากำลังพิจารณากัน ประกอบด้วยหลักการเหตุผลและเนื้อหาเพียงแค่ 6 มาตรา ประกอบด้วยรายจ่ายใส่ไว้ในงบกลาง 1.22 แสนล้านบาทเพื่อทำดิจิทัลวอลเล็ตโดยเฉพาะ และให้กระทรวงการคลังมีอำนาจในการสั่งจ่าย ระบุรายได้ไม่ได้กู้ทั้งดุ้น ตามเอกสารเขียนไว้ว่ารายได้หมื่นล้านมาจากภาษีและรายได้อื่น เป็นแหล่งเงินจากการจัดเก็บรายได้ ที่เดิมไม่ได้กำหนดไว้ในงบประมาณการ แต่เมื่อไปดูกลับพบว่างบประมาณหนึ่งล้านบาทมาจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ไทยที่ต้องโอนให้คลัง จึงถือโอกาสใส่มาเพื่อแก้เกี้ยวว่าไม่ได้กู้ทั้งดุ้น เงินก้อนนี้กลายเป็นเงินบุญหล่นทับไม่ได้เกิดจากฝีมือรัฐบาล

หากมีการอนุมัติ พ.ร.บ.ฉบับนี้ เท่ากับอนุมัติให้รัฐบาลกู้เงินมาชดเชยการขาดดุล 1.22 แสนล้านบาท เอามาแจกเพื่อสนองนโยบาย ส่วนการใช้หนี้เป็นเรื่องของอนาคต ขณะที่รายจ่ายลงทุน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปในทุกวงการของผู้มีความรู้ เพราะรัฐบาลตีความว่า 9.7 หมื่นล้านบาทเป็นรายจ่ายลงทุน ซึ่งไม่น่าจะจริง เพราะดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่เงินลงทุนแต่เป็นเงินโอนเพื่อการบริโภค นิยามรายจ่ายลงทุนของสำนักงบประมาณระบุไว้ชัดว่า รายจ่ายที่รัฐบาลจ่ายเพื่อจัดหาสินทรัพย์ประเภททุนทั้งที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน ตลอดจนรายจ่ายที่รัฐบาลอุดหนุนหรือโอนให้แก่บุคคลโดยผู้รับไม่ต้องจ่ายคืนให้รัฐบาล และผู้รับนำไปใช้จัดหาสินทรัพย์ประเภททุน นอกจากนี้รายจ่ายลงทุนยังรวมถึงรายจ่ายที่รัฐบาลจ่ายอุดหนุน โดยผู้รับตั้งใจนำไปลงทุน ไม่ใช่เพื่อการบริโภค เป็นการวินิจฉัยเองว่าเงินที่มาขออนุมัติเท่ากับเงินลงทุน

สุดท้ายอาจนำไปสู่ความเสี่ยงผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังมาตรา 20 (1) เข้าใจรัฐบาลที่พยายามจะใส่ฟองสบู่ว่าเงินที่มาขอกู้วันนี้ เอาไปลงทุนเยอะไม่ได้เอาบริโภคอย่างเดียว และจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในการพัฒนาต่อไป แต่หนีความจริงไม่พ้นว่าที่แจก แจกเพื่อบริโภค

ส่วนเรื่องความคุ้มค่า รัฐบาลตีปิ๊บมาโดยตลอดดิจิทัลวอลเล็ตจะทำให้เศรษฐกิจโต 5% ทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทำให้ GDP เฉพาะดิจิทัลวอลเล็ตโต 1.2-1.8% พูดอย่างกับตลกคาเฟ่ ดูถูกคนคิดเลขทั้งประเทศ เพราะไม่ว่าจะหน่วยงานไหนก็ระบุว่าได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งยังมีค่าเสียโอกาสหากรัฐบาลเอา 5 แสนล้านไปทำอย่างอื่น เช่น แจกกลุ่มเปราะบาง แจกคนจน จะทำให้เขาใช้เงินทันที เอาเงินที่เหลือไปใช้ลงทุนด้านอื่นเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน จะได้ประโยชน์มากกว่าการกู้เพื่อศรษฐกิจระยะสั้น

เพราะฉะนั้นการกู้มาแจกแค่ 6 เดือนเหมือนโยนหินลงน้ำหนึ่ง เกิดแรงกระเพื่อมจ๋อมเดียวแล้วก็หายไป แต่ที่เกิดตามมาคือพายุหมุน เอาหนี้ก้อนโตมาให้คนไทยชดใช้ไปอีกนาน เข้าทำนอง “ประเทศเสียหายไม่ว่าขอให้ข้าได้หาเสียง”

นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงเรื่องความไม่โปร่งใส โดยเตือนรัฐบาลให้ระวังอย่าทำให้กลายเป็นแรงกู้ไร้อนาคตเพราะการทุจริตคอรัปชั่น นอกจากนี้ยังมีคำถามเดิมจากประชาชนที่สงสัยรัฐบาล เช่น ทำไมไม่แจกเป็นเงินสด ทำไมต้องซับซ้อน ทำไมไม่แจกผ่านแอปเป๋าตัง ส่วนเหตุผลที่ต้องแจกเงินคนอายุ 16 ปีขึ้นไป เพราะอีก 2 ปีอายุ 18 ปี สามารถลงคะแนนเลือกตั้งได้ เป็นคำตอบว่าสุดท้ายแจกเงินเพื่อใคร

รัฐบาลเคยถามตนเองหรือไม่ ช่วงเข้ามาใหม่มีคนทำผลสำรวจหากยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ประชาชนจะโกรธไหม ซึ่งประชาชนตอบตรงกัน ประมาณ 70% ว่าไม่โกรธเลย อนุมานได้ว่าหลังเลือกตั้งงบประมาณเศรษฐกิจยังพอไปได้ แต่ถ้ามาถามใหม่ ไม่แน่ใจว่าคำตอบจะเปลี่ยนหรือไม่ เพราะรัฐบาลนี้บริหารมาเกือบปี ไม่เหลืออะไรให้ประชาชนหวังได้อีก นอกจากน้ำข้าวต้มดิจิทัลวอลเล็ตชามเดียว

แม้จะเปลี่ยนไปใช้แอปทางลัด แต่ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นแค่ทางรอดของประชาชนคนจนและกลุ่มเปราะบางชั่วคราวเฉพาะกิจเท่านั้น แม้อาจจะเป็นทางรอดของบางพรรคการเมือง แต่ไม่ใช่ทางรอดของประเทศ.-317 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]