รัฐสภา 11 มิ.ย.-“ชาดา” ของขึ้นตั้งแต่เริ่มประชุมงบ 69 จี้ “แบงก์ชาติ” ตอบใครเป็นคนคุมธนาคาร ปล่อยค่าธรรมเนียม-ดอกเบี้ยสูงลิ่ว บอกลูกหลานคนจน ทำงานเก่งแค่ไหน ไม่มีทางโงหัวได้ กลุ่มทุนเอาไปหมด มองทางออกเดียวต้องแจกเงิน “ดิจิทัลวอลเล็ต” กระตุ้นเศรษฐกิจ
ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยวันนี้เป็นการเชิญหน่วยงานและสถาบันการเงิน 4 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง , สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ , ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงบประมาณ เข้ามาชี้แจงภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ
ช่วงต้นการประชุม นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เปิดไมค์สอบถามธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) อย่างดุเดือด ว่า การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ตนคิดแบบบ้านๆ แบบคนเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ตอนนี้เงินไม่ไปสู่รากหญ้า ราคาพืชผลเกษตรกรก็ถูก ปัญหาคือธนาคารก็จะถ่างออกไป มีค่าธรรมเนียมต่างหาก ตนถามว่าวันนี้ใครควบคุม แล้วท่านปล่อยให้เงินเข้าสู่ระบบการก่อสร้างอย่างเดียว ทำไมไม่เรียกมาอบรม พัฒนาฝีมือแรงงาน
“ผมก็ความรู้น้อย แต่อย่างอินโดนีเซียที่เขาแจกเงินเดือนแล้วให้ไปทำวิจัย ซึ่งผมเห็นด้วยเลย เอาเงินหมื่นมาปรับซะ แล้วเอามาให้คนที่เป็นนักศึกษา คนชั้นกลาง วันนี้โลกมีโซเชียลมีเดียแล้วครับ ถ้าไม่เช่นนั้น กลุ่มทุนจะถูกคนชั้นล่างรุมทึ้งไปแล้ว ตอนนี้มีโซเชียล เด็กรุ่นใหม่ไปขายอะไรต่ออะไรได้ ขายตรงได้ แต่แบงก์ชาติไม่เคยดูเลย ประเทศไทยใช้ตัวหลักทรัพย์อย่างเดียว ไม่ได้มีวิเคราะห์โครงการ ลูกหลานคนจนทำงานเก่งแต่ไหน ไม่มีโอกาสโงหัวทางสังคม ผมถาม แล้ววันนี้ใครรับผิดชอบแบงก์ชาติ ผมสงสัยอย่างเดียว ผมได้ยินชื่อธนาคารแห่งประเทศไทยมานานแล้วครับ ผมก็ว่าเขาต้องเป็นคนควบคุมแบงก์ต่างๆ แต่เขาปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้จนกลุ่มทุนนั้น มันเกิดช่องว่าง” นายชาดา กล่าว
นายชาดา ระบุว่า ปัญหาจะเยอะขึ้นในภายภาคหน้า ถ้าท่านไม่ดูเรื่องนี้ แล้วการหดตัวทางเศรษฐกิจ รับเหมาก่อสร้างมันเป็นแค่ระบบหนึ่ง แต่วันนี้ต้องพัฒนาคุณภาพคน ตนสงสัยจังเลยว่าเงินแสนกว่าล้านในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ได้เป็นรายได้เพิ่มขึ้น มันก็สมควรมาใช้จ่าย ตนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยหาเสียงเรื่องเงินดิจิทัล แต่พอเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาลแล้ว จะแจกเงินก็ถูกบล็อกเลย ตนเห็นธนาคารแห่งประเทศไทยบ้าง หน่วยงานต่างๆบ้าง ตนออกมาเสนอความคิดเห็น
“ผมมองว่านี่พรรคการเมืองเขาเป็นคนวางนโยบายเข้ามา เขาต้องมีสิทธิ์ทำในระดับหนึ่ง แต่เวลาจะทำเพื่อคนจนจริงๆ คนชั้นล่างจริงๆ ท่านไม่ให้ทำ แล้วก็บอกว่าระบบเศรษฐกิจจะเสียหายอย่างนั้นอย่างนี้ ผมก็บอกว่า แหม่ ถ้าผมเป็นพรรคเพื่อไทยนะ ผมไม่ยอม อย่างไรผมก็ไม่ยอม เอามาปรับสิครับ วันนี้มีช่องทางเดียว เงินตรงนี้แหละที่จะถึงประชาชนจริงๆ และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ ไม่ใช่กระตุ้นด้วยโครงการรับเหมาก่อสร้างอย่างเดียว นั่นมันโบราณมากแล้วครับ” นายชาดา กล่าว
นายชาดา ระบุว่า ตนเป็น กมธ.มา 8 ปี แต่เห็นตัวเลขแล้วต่างๆ แล้วจำไว้ในบล็อกสมองเลยว่าตัวเลขพวกนี้เป็นตัวเลขแบบเดิม เป็นแบบนี้มาตลอด แล้วเวลาจะทำอะไรก็ทำไม่ได้ ธนาคารแห่งประเทศไทยช่วยตอบตนด้วย ว่าใครเป็นคนรับผิดชอบธนาคาร ท่านควบคุมธนาคารหรือไม่ ธนาคารจะเป็นผู้ค้าที่ไม่มีการควบคุมหรือไม่
“อยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยตอบตรงนี้ สมองของผมจะได้หายโง่ ว่าใครดูแลธนาคาร ใครมีอำนาจในการตั้งค่าธรรมเนียม เพราะแม้กระทั่งเงินของภาครัฐก็ต้องเสียดอกเบี้ย ทุกวันนี้ที่อยู่กันได้ เพราะมันกู้ภายในประเทศ ถ้าเป็นกู้นอกประเทศ เจ๊งกันไปแล้ว เงินที่ได้มาลงทุนก็เสียดอกแล้วมาอยู่ในระบบก็เสียดอกอีก กลายเป็นกลุ่มทุนเอาไปหมด ขอเรียนด้วยความเคารพครับ ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยตอบผมให้กระจ่างหน่อยครับ” นายชาดา กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย