นายกฯ ย้ำเลื่อนดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 เหตุหลายฝ่ายท้วงติง

กทม. 1 มิ.ย.-“นายกฯ อิ๊งค์” ย้ำเลื่อนดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 เหตุหลายฝ่ายท้วงติง เจอปัญหาแทรกหลายเรื่อง ยันไม่ได้ยกเลิก แจงยิบใช้ 1.57 แสนล้าน เรื่องน้ำ-ท่องเที่ยว-คมนาคม ระบุจัดงบฯ 69 ครอบคลุม เหมาะกับสถานการณ์ ฟุ้งเป็นรัฐบาลที่ลงทุนภาครัฐมากสุดในประวัติการณ์ พร้อมโชว์ผลงานเดินทางต่างประเทศ

1 มิ.ย. 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทย กับ นายกแพทองธาร” หัวข้อ “ปรับแผน เดินหน้า สร้างโอกาสไทย” ว่า ทำไมถึงต้องเลื่อนดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เราจะทำดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพื่อให้ประชาชนเข้าใกล้กับเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้นยังไม่มีเรื่องของกำแพงภาษีสหรัฐฯ เราก็ต้องปรับเปลี่ยนแผน และมีการท้วงติงอย่างชัดเจนจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นคอมเมนต์ที่เราต้องรับฟัง รับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน จากฝ่ายค้านด้วย และจากทุกๆ คนด้วย เอานำความเห็นทุกคนมารวมกัน และหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประเทศนั่นคือ สิ่งที่รัฐบาลบริหารจัดการ ซึ่งก่อนหน้านั้นที่เราทำเรื่องนี้มา เป็นงบที่วางตั้งแต่ปีที่แล้วเพื่อเข้างบในปีนี้ ซึ่งงบนี้จะหมดในเดือน ก.ย.นี้ จะใช้งบนี้ไม่ได้แล้ว เราเลยคิดว่า งบก้อนนี้เราพอจะทำอะไรได้บ้าง เราต้องถอยออกมา และมองภาพรวมว่า เมื่อมีปัจจัยอื่นเข้ามาแทรกเราต้องมองเป็นภาพรวมของทั้งประเทศก่อนว่า อะไรที่จะทำให้เงินก้อนนี้ช่วยคนทั้งประเทศได้ดีที่สุด เราเลื่อนเฟส 3 ออกไป


“ที่บอกว่า พูดมาเลยนายกฯจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก พูดไม่ได้ค่ะ ถ้าเศรษฐกิจมันดีขึ้น เหตุการณ์มันดีขึ้น เราก็ยังอยากจะให้พี่น้องประชาชนได้รับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้อยู่เช่นกัน” น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สิ่งที่สิทธิ์เลื่อนวันนี้ เราก็เปลี่ยนว่า เงินก้อนนี้ 1.57 แสนล้านบาท จะเอาไปทำอะไร เรื่องแรก เราจะทำในเรื่องของน้ำ ภาพใหญ่ในเรื่องของน้ำเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนในประเทศ อย่างที่เราเจอกันมาคือ น้ำท่วมน้ำท่วมลำบากทุก กทม.ก็โดนน้ำท่วมมากน้อยแล้วแต่ปีสลับกันไป ฝนตกมาบางทีก็ต้องดูว่า น้ำปล่อยไปทางไหน จังหวัดนี้โดน สักพักอีกจังหวัดหนึ่งก็โดนต่อ ประเทศเพื่อนบ้าน ต้องคุยกันทุกระบบ ทุกรูปแบบ ทุกภาคส่วน ต้องแก้ไขอย่างบูรณาการเท่านั้น ปัญหาเรื่องน้ำเป็นเรื่องใหญ่ประเทศไทยมานานแล้ว ซึ่งต้องใช้งบประมาณอย่างมากในการแก้ไข เงินส่วนหนึ่งในก้อนนี้เราแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ เพื่อให้เรื่องน้ำท่วม น้ำแล้งลดลง ตนทราบว่า ฝนมาทุกปีห้ามไม่ได้ แต่ทำอย่างไรให้ความเสียหายและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนลดลงทุกๆ ปี นี่คือเป้าหมายของรัฐบาล


น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อีกอย่างคือ น้ำเพื่ออุปโภคบริโภคอันนี้สำคัญมาก ถ้าวันนี้คนในเมืองดูคลิปนี้อาจจะบอกไม่มีปัญหาเรื่องนี้ แต่มีอีกหลายพื้นที่ที่มีปัญหาในเรื่องนี้ ยังไม่มีน้ำดื่มสะอาดที่จะใช้บริโภค และน้ำยังเป็นต้นทางของการเกษตร ซึ่งพื้นที่เกษตรคือ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศที่ทำรายได้ให้เกษตรกรชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ให้ทุกคนสามารถมีผลผลิตส่งออกให้กับประเทศได้ หาเงินเข้าประเทศได้ ซึ่งเราจะใช้เงินก้อนนี้ดูแลในเรื่องของน้ำ น้ำกิน น้ำใช้ น้ำท่วม น้ำแล้ง อุปโภค บริโภค นอกจากนี้ ยังต้องมีน้ำเพื่ออุตสาหกรรมด้วย อีกหน่อยในอนาคตจะมีเรื่องเซมิคอนดักเตอร์อะไรต่างๆ ที่เข้ามาลงทุนอีกมากมาย

นายกฯ กล่าวว่า อีกเรื่องที่สำคัญคือ การคมนาคม เส้นทาง ถนนต่างๆ ที่จะอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ทำให้การติดต่อของพี่น้องประชาชนเป็นไปอย่างง่ายขึ้น ทั้งในประเทศและเชื่อมระหว่างต่างประเทศ สำหรับการเดินทาง และการขนส่ง ซึ่งสำคัญมากๆ ถ้าเราทำเรื่องนี้การขนส่งจะสะดวกง่ายมากยิ่งขึ้น เรามองภาพเกษตรกรที่จะส่งของที่มีวันหมดอายุไปต่างประเทศ ไปยังจังหวัดอื่นๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทบ และเราคิดว่ามันสามารถจัดการได้ในระยะสั้นนี้ ในเดือน ก.ย.เราสามารถเบิกงบนี้ไปใช้แก้ปัญหาที่คั่งค้างอยู่ได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน

นายกฯ กล่าวว่า อีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งคือ รายได้หลักของประเทศ จะพูดไม่ได้เลยว่า เงินก้อนนี้จะไม่ให้เรื่องท่องเที่ยว ต้องให้ ก่อนได้รับตำแหน่งนายกฯตนมีโอกาสได้ไปเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ตนแปลกใจมากเราได้ยินมาว่าประเทศนั้นประเทศนี้เกี่ยวกับห้องน้ำ ตนไปเซี่ยงไฮ้ล่าสุดมา ห้องน้ำทุกที่สะอาดมาก ตึกรามบ้านช่องสะอาดมาก โมเดิร์น เปลี่ยนไปหมดเลย ไม่มีสภาพที่น่ากลัว สกปรก เข้าไม่ได้ ไม่มีเลย เป็นอะไรที่นักท่องเที่ยวอย่างตนรู้สึกว่า แล้วประเทศไทยยังมีที่ตัวที่ตรงนั้นอีกเยอะมากน้อยแค่ไหน เงินส่วนนี้จะไปช่วยในช่วงเรื่องนั้น ที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมที่ชาวต่างชาติมาเห็นบ่อยๆ แล้วเขาจะได้ไปโฆษณาปากต่อปากให้เราได้อีก เราก็ต้องดูแลอย่างมากเช่นกัน ซึ่งเงินก้อนนี้สามารถเบิกและทำให้มันเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากนี้ เราจะทำเรื่องกล้องซีซีทีวี ซึ่งสำคัญมาก เราจะให้ต่างชาติไว้ใจว่า ถ้ามาประเทศไทย ไม่ว่าจะอาชญากรรมเล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องถูกดูแล ถูกมองเห็น ตำรวจเห็นอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่รัฐบาลมองในภาพรวมว่า ก้อนนี้ถ้าเราไม่ได้รายบุคคลแล้วภาพรวมของประเทศจะได้อะไร แล้วต้องได้จริงๆ ต้องเกิดขึ้นจริงๆ


“บางคนถามต่อว่า เรื่องพื้นฐานพวกนี้ถ้าไม่มีเงินที่จะย้ายมาจากดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ทำหรือ ทำค่ะ ยังทำอยู่เสมอ แต่เรื่องนี้ที่ได้มาเรารีบคิดเป็นแผนระยะสั้น ซึ่งดีเลย พอเราได้เงินก้อนนี้มาเรามีแผนระยะกลางและยาวต่ออยู่แล้ว แต่ต้องใช้เวลา ที่จะได้เห็นเป็นรูปธรรม แต่ก้อนนี้ทำให้เห็นเป็นรูปธรรมในระยะสั้นนี้เลย อันนี้คือ คำตอบ เราคิด เราเรียงลำดับความสำคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อมีปัจจัยแทรกเข้ามาเราก็ต้องถอยว่า เรื่องไหนสำคัญต่อหมู่มากได้มากที่สุดก่อนเลย แต่อย่างไรก็ตามองค์ประกอบเหล่านี้เป็นพื้นฐานของโครงสร้างทางสังคมทั้งสิ้น และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเรา และหัวข้อต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ก็ใช้ทรัพยากรมนุษย์ทั้งนั้น จะเกิดการจ้างงานทั้งระบบให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นแผนต่อไปในระยะยาว นี่คือ ประโยชน์ที่จะได้จากการเลื่อนดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3”น.ส.แพทองธาร ระบุ

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องงบประมาณปี 69 เราต้องปรับให้เข้ากับปีนี้ที่มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยเรื่องภาษีสหรัฐฯ น้ำท่วม น้ำแล้งในอนาคต เราปรับให้เข้ากับสถานการณ์โลก สถานการณ์ประเทศ ภูมิภาคอากาศ ทุกสิ่งทุกอย่าง ปรับให้ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น และแน่นอนว่า ถ้ามีปัจจัยแทรกเราก็ต้องพร้อมเสมอ และคิดว่า การที่เราทำในงบที่เราวางมาตั้งแต่แรกค่อนข้างที่จะครอบคลุมพอสมควร และเปลี่ยนในเรื่องที่เราเจอสถานการณ์เฉพาะหน้าให้มันเหมาะสมมากยิ่งขึ้น มีการเร่งการลงทุนภาครัฐ ซึ่งสำนักงบประมาณออกมาพูดแล้วตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้มา เรามีการลงทุนของภาครัฐมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เราอัดเงินเข้าในระบบเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงาน การสร้างรายได้ให้กับประชาชน และเราขอความร่วมมือจากเอกชนเช่นกันว่า ให้ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ เพราะสถานการณ์ของโลก เศรษฐกิจ ทุกๆ อย่างยากทุกประเทศ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย เพราะฉะนั้น เราต้องร่วมมือกันจริงๆ อย่างการที่ตนไปต่างประเทศ ได้พบกับผู้นำประเทศต่างๆ ก็ได้แลกเปลี่ยนความเห็นว่า ประเทศเจออะไรบ้าง เจอปัญหาขนส่งปัญหา พืชผลการเกษตร ปัญหาเศรษฐกิจทั้งหลายที่เจอทำให้เราทุกประเทศพร้อมที่จะร่วมมือกันไป เพื่อก้าวข้ามผ่านวิกฤติเศรษฐกิจที่ทั้งโลกที่กำลังเจอทุกวันนี้

นายกฯ กล่าวว่า เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการเดินทางของตน ประเทศแรกคือ เวียดนาม เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ เวียดนามน่ารักมาก ต้อนรับประเทศไทยอย่างดีประทับใจ เป็นการประชุม Joint Cabinet Retreat (การประชุมร่วมรัฐบาล) รองนายกฯ และรัฐมนตรีของทั้งสองฝั่งมาคุย ซึ่งเวียดนามไม่เคยทำ Joint Cabinet Retreat กับประเทศไหน ประเทศไทยเป็นประเทศแรก ส่วนไทยทำกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และกัมพูชา คิดว่า พิเศษมากๆ เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ และได้เดินทางไปต่อที่มาเลเซีย เพื่อประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งในปีหน้าจะมีเพิ่มอีกหนึ่งประเทศคือ ประเทศติมอร์ เลสเต จริงๆ เขาเข้ามาประชุมกับเราสักพักแล้ว แต่เป็นทางการน่าจะเป็นปีหน้าเรา เราได้คุยถึงปัญหาในภูมิภาคว่าเจออะไรบ้าง เน้นๆ เลยคือ อาชญากรรมออนไลน์ที่ทุกประเทศเจอ ปัญหายาเสพติดที่เราจะขอความร่วมมือ ผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ เป็นเรื่องหลักที่เราคุยกัน และเป็นเรื่องคน เรื่องความร่วมมือว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง และจะสามารถเพิ่มการช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้อย่างไร

นายกฯ กล่าวว่า พอประชุมอาเซียนเสร็จ มีการประชุมสุดยอดด้านเศรษฐกิจอาเซียน-คณะมนตรี ความร่วมมืออ่าวอาหรับ-จีน ซึ่งคือ 3 ภูมิภาค ได้แก่ อาเซียน อาหรับ และจีน เป็นครั้งแรกที่รวมกัน 3 ภูมิภาค ซึ่งมีประชากรถึง 2 พันกว่าล้านคน เป็น 1 ใน 4 ของโลก ซึ่งเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ เมื่อเราคุยกัน เกิดความมั่นคงขึ้น 2 เรื่อง คือ เรื่องอาหารและพลังงาน ทางอาหรับมีพลังงานมาก เราสามารถใช้ประโยชน์ได้มาก เราเองมีภาคการเกษตรและอาหารที่มีเรื่องความปลอดภัยและมั่นคง ฉะนั้น การเกิดพลังแบบนี้จะทำให้ทั้งโลกเห็นว่า 3 ภูมิภาคนี้รวมตัวกันอย่างแข็งแรง เมื่อจับมือกันแสดงให้เห็นพลังว่าทั้ง 3ภูมิภาคจับมือกันครั้งแรก เราก็มีอำนาจต่อรองเช่นกัน เป็นเรื่องใหญ่และเป็นสิ่งที่มาเลเซียภูมิใจว่า จัดที่ประเทศเขา ทำให้ 3 ภูมิภาคมาเจอกัน และมาตกลงกันว่าปัญหาต่างๆ ที่เจอในแต่ละภูมิภาคเราจะจับมือแก้ปัญหาไปด้วยกัน ช่วยเหลือกัน นอกจากนี้ ยังได้มีการคุยเรื่อง FTA ว่าเราจะขยาย FTA ได้อย่างไรบ้าง เพื่อเพิ่มโอกาสของเราและของเขา ในการทำให้เศรษฐกิจเราดีขึ้น และได้สร้างความสัมพันธ์กับทุกๆ ประเทศรายย่อย ๆ ที่อยู่ในกลุ่ม ถือว่าดีมาก เพราะจะทำให้เรื่องมันง่ายขึ้น แล้วพอมองหน้าแล้วทำให้เข้าใจความตั้งใจกันมากขึ้น ถ้าเราสร้างความสัมพันธ์นั้นที่ดีนี้ไว้ ไม่ว่าจะรัฐบาลจะเปลี่ยน จะเป็นภาพที่ดีว่า ประเทศไทยของเรามีความใจดี มีความซื่อตรง คุยได้ สามารถคุยในเรื่องต่างๆ ให้เกิดผลสำเร็จได้ ซึ่งได้ไปสร้างความสัมพันธ์เอาไว้ในหลายๆ ประเทศ

นายกฯ กล่าวว่า การเดินทางไปโมนาโกได้เห็นการจัดการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง Formula 1 (F1) หากเกิดขึ้นในประเทศไทยจะเกิดประโยชน์อย่างมาก จะมีการจ้างงานมีการพัฒนาสกิลของคนไทยอย่างก้าวกระโดด และจากที่ได้เดินทางไปได้พบกับเด็กไทยที่แข่งอยู่ใน F3 ซึ่ง เขาก็ฝันอยากแข่ง F1 เป็นการสร้างความหวังให้เด็กไทยว่าไม่ไกลเกินไป และเพียงแค่1 วันมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาดู F1จำนวน 1 แสนคน การเตรียมการ 3 วันก่อนแข่ง 3 แสนคน ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร รถไฟฟ้า แท็กซี่เต็มแน่นอน และไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ จังหวัดข้างเคียงคนเต็มแน่นอน ทั้งอาทิตย์จะทำให้เกิดไฮซีซันอีกช่วงหนึ่งเลย เป็นความหวังเพราะตอนนี้มีประเทศที่จัดแข่งอยู่ 24 ประเทศ ในเอเชีย มี 3-4 ประเทศเราจะเป็นหนึ่งในนั้น เปอร์เซ็นต์สูงที่จะเป็นหนึ่งในนั้น อันนี้เป็นสิ่งที่รอจริงๆ อยากให้เกิดขึ้น.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย