กกต. 29 ต.ค.-“ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต.เร่งดำเนินคดีอาญา “ธนาธร –กก.บห.อดีตพรรคอนาคตใหม่” 15 คน มั่นใจ กกต.มีอำนาจยึดเงินกู้ 191.2 ล้านเข้ากองทุนฯ แม้ไม่มีพรรคแล้ว กฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายแพ่ง รองรับให้ศาลสั่งยึดทรัพย์มาเฉลี่ยคืนได้ ชี้ “ปิยบุตร” เพลี่ยงพล้ำเองอย่าอ้างนิติสงคราม
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้เร่งดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 15 คน โดยเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 และ กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลดังกล่าว จึงควรรีบดำเนินการ
ส่วนเรื่องการเรียกเงินจำนวน 191.2 ล้านบาทเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ที่ขณะนี้ กกต.ยังไม่มีข้อยุตินั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สมาคมฯ ยืนยันว่า กกต.มีอำนาจที่จะเรียกเงินดังกล่าวมาเป็นของกองทุนฯ ได้ แม้ขณะนี้ไม่มีพรรคอนาคตใหม่แล้ว เพราะ พ.ร.ป.ว่าด้วยการพรรคการเมือง ระบุว่าแม้พรรคจะถูกยุบแล้ว แต่อำนาจของกรรมการบริหารพรรคยังคงมีอยู่ ซึ่งต้องดำเนินการชำระบัญชีของพรรคให้เสร็จสิ้น รวมทั้งยังมีขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมายอยู่ อีกทั้งเมื่อเทียบเคียงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับที่ 30 พ.ศ.2560 ระบุไว้ชัดเจนว่า บุคคล หรือองค์กรในฐานะนิติบุคคลจะต้องรับผิดชอบ ในการที่จะนำไปสู่การบังคับคดีได้โดยคำสั่งของศาล และหากกรรมการบริหารพรรคทั้ง 15 น ไม่นำเงินมาคืนหรือหาเงินมาคืนได้ จากการขายทอดตลาด ก็สามารถไปไล่เบี้ยเพื่อเอาเงินทั้งหมดมาให้ครบจำนวนจากทรัพย์สินของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งก็คืออาจต้องมีการยึดทรัพย์กรรมการบริหารพรรคทุกคน เพื่อมาเฉลี่ยให้ได้ครบตามจำนวน
“เมื่อเสนอเรื่องไปยังศาลอาญาแล้ว ก็ต้องพ่วงค่าสินไหมทางแพ่งไปด้วย เพื่อให้ศาลได้มีคำวินิจฉัย เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องเหล่านี้ไม่ได้อยู่แล้ว ต้องให้ศาลอาญาเป็นผู้วินิจฉัย เพราะนอกจากคำพิพากษาโทษทางอาญาแล้ว ก็จะมีโทษจับ ปรับ จำคุก รวมทั้งกักขัง และประหารชีวิต ซึ่งคำสั่งของศาลสามารถดำเนินการได้หากศาลสั่งให้คืนเงิน 191.2 ล้านบาท กกต.ก็สามารถนำคำสั่งศาลมาให้สำนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับที่ 30 พ.ศ.2560” นายศรีสุวรรณ กล่าว
เมื่อถามว่า หาก กกต.ไม่ดำเนินดดีกับนายธนาธร ในฐานบริจาคเงินให้พรรคการเมืองเกินกว่า 10 ล้านบาทได้หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กกต.ก็มีความผิด และจะร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ให้เล่นงานต่อ
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า รู้สึกแคลงใจกับคำว่า นิติสงคราม ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า พยายามจะโยงให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ซึ่งประเทศเรากับหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ใช้นิติรัฐ ใช้กฎหมายในการปกครอง ดูแลประชาชนและคุ้มครองความปลอดภัยของสาธารณะ ดังนั้นการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นใคร นักการเมือง นักธุรกิจ หรือผู้มีชื่อเสียง หากฝ่าฝืนกฎหมาย จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
“ส่วนที่ตัวเองเพลี่ยงพล้ำ แล้วมาใส่ไคล้ว่ากระบวนการยุติธรรมที่มีเจตนาแอบแฝง ในลักษณะที่เป็นนิติสงครามเพื่อทำลายกลุ่มตรงข้าม หากไปคิดอย่างนั้น สังคมจะอยู่กันได้อย่างไร หากเราไม่ยึดหลักกฎหมาย แต่ถ้าจะอ้างที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็มองว่าในเมื่อกฎหมายเขียนอย่างนั้น จะให้คนอื่นไปแต่งตั้งหรือเสนอใครแต่งตั้งก็คงไม่ได้” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า นักการเมืองทุกพรรค เมื่อผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว จะมีทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ก็ต้องรอทำหน้าที่ไปจนครบ 4 ปี แล้วมาแข่งขันเลือกตั้งกันใหม่ เมื่อตัวเองพลาดพลั้งด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา แล้วในที่สุดก็นำมาสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเมื่อศาลเอาผิดลงโทษ ก็มาโทษ มาใส่ไคร้ว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วไปปลุกระดมกระทำการในลักษณะฝ่าฝืนกฎหมาย ปลุกระดมเด็กเยาวชน และพวกเดียวกันกับฝ่ายตัวเองให้มาก่อม็อบ ซึ่งทุกม็อบที่ผ่านมา เรารู้ว่าเป็นม็อบที่ผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะไม่มีหมายเรียกหมายจับเอาผิดใครได้ ดังนั้นมองว่านักการเมืองที่ดี จะต้องรอเป็น เมื่อหมดวาระของผู้ที่ชนะการเลือกตั้งไปแล้ว 4 ปี ก็ต้องกลับมาต่อสู้กันด้วยการลงเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนเลือกใหม่ จึงจะถือว่าเป็นพรรคการเมืองและนักการเมืองที่ดี และจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับอนุชนต่อไป
“แต่นักการเมืองไทยรอไม่ได้ พอตัวเองพลาดพลั้ง ไม่ได้เป็นผู้ถืออำนาจ ก็กลับมาใช้วิธีการอื่นที่นอกกฎหมาย แล้วมาประดิษฐ์ประดอยถ้อยคำว่าเป็นนิติสงคราม ซึ่งเป็นการเอาคำมาขยายผลเพื่อเล่นลิ้น สร้างความฮึกเหิมให้กับฝ่ายเดียวกันขึ้นมา ซึ่งไม่ได้ส่อไปในทางที่จะให้เกิดประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือนิติรัฐของประเทศเลย อย่างไรก็ตาม มองว่านักการเมืองต้องปฏิรูปตัวเอง ไม่ใช่ปฏิรูปสถาบัน หรือโครงสร้างของรัฐ ต้องเน้นปฏิรูปตัวเองก่อน” นายศรีสุวรรณ กล่าว.-สำนักข่าวไทย