ยื่น กกต.เร่งดำนินคดีอาญา “ธนาธร” ยึดเงินกู้ 191.2 ล้าน

กกต. 29 ต.ค.-“ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต.เร่งดำเนินคดีอาญา “ธนาธร –กก.บห.อดีตพรรคอนาคตใหม่” 15 คน มั่นใจ กกต.มีอำนาจยึดเงินกู้ 191.2 ล้านเข้ากองทุนฯ แม้ไม่มีพรรคแล้ว กฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายแพ่ง รองรับให้ศาลสั่งยึดทรัพย์มาเฉลี่ยคืนได้ ชี้ “ปิยบุตร” เพลี่ยงพล้ำเองอย่าอ้างนิติสงคราม


นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้เร่งดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 15 คน โดยเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 และ กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลดังกล่าว จึงควรรีบดำเนินการ

ส่วนเรื่องการเรียกเงินจำนวน 191.2 ล้านบาทเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ที่ขณะนี้ กกต.ยังไม่มีข้อยุตินั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สมาคมฯ ยืนยันว่า กกต.มีอำนาจที่จะเรียกเงินดังกล่าวมาเป็นของกองทุนฯ ได้ แม้ขณะนี้ไม่มีพรรคอนาคตใหม่แล้ว เพราะ พ.ร.ป.ว่าด้วยการพรรคการเมือง ระบุว่าแม้พรรคจะถูกยุบแล้ว แต่อำนาจของกรรมการบริหารพรรคยังคงมีอยู่ ซึ่งต้องดำเนินการชำระบัญชีของพรรคให้เสร็จสิ้น รวมทั้งยังมีขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมายอยู่ อีกทั้งเมื่อเทียบเคียงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับที่ 30 พ.ศ.2560 ระบุไว้ชัดเจนว่า บุคคล หรือองค์กรในฐานะนิติบุคคลจะต้องรับผิดชอบ ในการที่จะนำไปสู่การบังคับคดีได้โดยคำสั่งของศาล และหากกรรมการบริหารพรรคทั้ง 15 น ไม่นำเงินมาคืนหรือหาเงินมาคืนได้ จากการขายทอดตลาด ก็สามารถไปไล่เบี้ยเพื่อเอาเงินทั้งหมดมาให้ครบจำนวนจากทรัพย์สินของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งก็คืออาจต้องมีการยึดทรัพย์กรรมการบริหารพรรคทุกคน เพื่อมาเฉลี่ยให้ได้ครบตามจำนวน


“เมื่อเสนอเรื่องไปยังศาลอาญาแล้ว ก็ต้องพ่วงค่าสินไหมทางแพ่งไปด้วย เพื่อให้ศาลได้มีคำวินิจฉัย เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องเหล่านี้ไม่ได้อยู่แล้ว ต้องให้ศาลอาญาเป็นผู้วินิจฉัย เพราะนอกจากคำพิพากษาโทษทางอาญาแล้ว ก็จะมีโทษจับ ปรับ จำคุก รวมทั้งกักขัง และประหารชีวิต ซึ่งคำสั่งของศาลสามารถดำเนินการได้หากศาลสั่งให้คืนเงิน 191.2 ล้านบาท กกต.ก็สามารถนำคำสั่งศาลมาให้สำนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับที่ 30 พ.ศ.2560” นายศรีสุวรรณ กล่าว

เมื่อถามว่า หาก กกต.ไม่ดำเนินดดีกับนายธนาธร ในฐานบริจาคเงินให้พรรคการเมืองเกินกว่า 10 ล้านบาทได้หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กกต.ก็มีความผิด และจะร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ให้เล่นงานต่อ

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า รู้สึกแคลงใจกับคำว่า นิติสงคราม ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า พยายามจะโยงให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ซึ่งประเทศเรากับหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ใช้นิติรัฐ ใช้กฎหมายในการปกครอง ดูแลประชาชนและคุ้มครองความปลอดภัยของสาธารณะ ดังนั้นการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นใคร นักการเมือง นักธุรกิจ หรือผู้มีชื่อเสียง หากฝ่าฝืนกฎหมาย จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย


“ส่วนที่ตัวเองเพลี่ยงพล้ำ แล้วมาใส่ไคล้ว่ากระบวนการยุติธรรมที่มีเจตนาแอบแฝง ในลักษณะที่เป็นนิติสงครามเพื่อทำลายกลุ่มตรงข้าม หากไปคิดอย่างนั้น สังคมจะอยู่กันได้อย่างไร หากเราไม่ยึดหลักกฎหมาย แต่ถ้าจะอ้างที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็มองว่าในเมื่อกฎหมายเขียนอย่างนั้น จะให้คนอื่นไปแต่งตั้งหรือเสนอใครแต่งตั้งก็คงไม่ได้” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า นักการเมืองทุกพรรค เมื่อผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว จะมีทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ก็ต้องรอทำหน้าที่ไปจนครบ 4 ปี แล้วมาแข่งขันเลือกตั้งกันใหม่ เมื่อตัวเองพลาดพลั้งด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา แล้วในที่สุดก็นำมาสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเมื่อศาลเอาผิดลงโทษ ก็มาโทษ มาใส่ไคร้ว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วไปปลุกระดมกระทำการในลักษณะฝ่าฝืนกฎหมาย ปลุกระดมเด็กเยาวชน และพวกเดียวกันกับฝ่ายตัวเองให้มาก่อม็อบ ซึ่งทุกม็อบที่ผ่านมา เรารู้ว่าเป็นม็อบที่ผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะไม่มีหมายเรียกหมายจับเอาผิดใครได้ ดังนั้นมองว่านักการเมืองที่ดี จะต้องรอเป็น เมื่อหมดวาระของผู้ที่ชนะการเลือกตั้งไปแล้ว 4 ปี ก็ต้องกลับมาต่อสู้กันด้วยการลงเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนเลือกใหม่ จึงจะถือว่าเป็นพรรคการเมืองและนักการเมืองที่ดี และจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับอนุชนต่อไป

“แต่นักการเมืองไทยรอไม่ได้ พอตัวเองพลาดพลั้ง ไม่ได้เป็นผู้ถืออำนาจ ก็กลับมาใช้วิธีการอื่นที่นอกกฎหมาย แล้วมาประดิษฐ์ประดอยถ้อยคำว่าเป็นนิติสงคราม ซึ่งเป็นการเอาคำมาขยายผลเพื่อเล่นลิ้น สร้างความฮึกเหิมให้กับฝ่ายเดียวกันขึ้นมา ซึ่งไม่ได้ส่อไปในทางที่จะให้เกิดประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือนิติรัฐของประเทศเลย อย่างไรก็ตาม มองว่านักการเมืองต้องปฏิรูปตัวเอง ไม่ใช่ปฏิรูปสถาบัน หรือโครงสร้างของรัฐ ต้องเน้นปฏิรูปตัวเองก่อน” นายศรีสุวรรณ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]