ยื่น กกต.เร่งดำนินคดีอาญา “ธนาธร” ยึดเงินกู้ 191.2 ล้าน

กกต. 29 ต.ค.-“ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต.เร่งดำเนินคดีอาญา “ธนาธร –กก.บห.อดีตพรรคอนาคตใหม่” 15 คน มั่นใจ กกต.มีอำนาจยึดเงินกู้ 191.2 ล้านเข้ากองทุนฯ แม้ไม่มีพรรคแล้ว กฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายแพ่ง รองรับให้ศาลสั่งยึดทรัพย์มาเฉลี่ยคืนได้ ชี้ “ปิยบุตร” เพลี่ยงพล้ำเองอย่าอ้างนิติสงคราม


นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้เร่งดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 15 คน โดยเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 และ กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลดังกล่าว จึงควรรีบดำเนินการ

ส่วนเรื่องการเรียกเงินจำนวน 191.2 ล้านบาทเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ที่ขณะนี้ กกต.ยังไม่มีข้อยุตินั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สมาคมฯ ยืนยันว่า กกต.มีอำนาจที่จะเรียกเงินดังกล่าวมาเป็นของกองทุนฯ ได้ แม้ขณะนี้ไม่มีพรรคอนาคตใหม่แล้ว เพราะ พ.ร.ป.ว่าด้วยการพรรคการเมือง ระบุว่าแม้พรรคจะถูกยุบแล้ว แต่อำนาจของกรรมการบริหารพรรคยังคงมีอยู่ ซึ่งต้องดำเนินการชำระบัญชีของพรรคให้เสร็จสิ้น รวมทั้งยังมีขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมายอยู่ อีกทั้งเมื่อเทียบเคียงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับที่ 30 พ.ศ.2560 ระบุไว้ชัดเจนว่า บุคคล หรือองค์กรในฐานะนิติบุคคลจะต้องรับผิดชอบ ในการที่จะนำไปสู่การบังคับคดีได้โดยคำสั่งของศาล และหากกรรมการบริหารพรรคทั้ง 15 น ไม่นำเงินมาคืนหรือหาเงินมาคืนได้ จากการขายทอดตลาด ก็สามารถไปไล่เบี้ยเพื่อเอาเงินทั้งหมดมาให้ครบจำนวนจากทรัพย์สินของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งก็คืออาจต้องมีการยึดทรัพย์กรรมการบริหารพรรคทุกคน เพื่อมาเฉลี่ยให้ได้ครบตามจำนวน


“เมื่อเสนอเรื่องไปยังศาลอาญาแล้ว ก็ต้องพ่วงค่าสินไหมทางแพ่งไปด้วย เพื่อให้ศาลได้มีคำวินิจฉัย เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องเหล่านี้ไม่ได้อยู่แล้ว ต้องให้ศาลอาญาเป็นผู้วินิจฉัย เพราะนอกจากคำพิพากษาโทษทางอาญาแล้ว ก็จะมีโทษจับ ปรับ จำคุก รวมทั้งกักขัง และประหารชีวิต ซึ่งคำสั่งของศาลสามารถดำเนินการได้หากศาลสั่งให้คืนเงิน 191.2 ล้านบาท กกต.ก็สามารถนำคำสั่งศาลมาให้สำนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับที่ 30 พ.ศ.2560” นายศรีสุวรรณ กล่าว

เมื่อถามว่า หาก กกต.ไม่ดำเนินดดีกับนายธนาธร ในฐานบริจาคเงินให้พรรคการเมืองเกินกว่า 10 ล้านบาทได้หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กกต.ก็มีความผิด และจะร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ให้เล่นงานต่อ

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า รู้สึกแคลงใจกับคำว่า นิติสงคราม ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า พยายามจะโยงให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ซึ่งประเทศเรากับหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ใช้นิติรัฐ ใช้กฎหมายในการปกครอง ดูแลประชาชนและคุ้มครองความปลอดภัยของสาธารณะ ดังนั้นการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นใคร นักการเมือง นักธุรกิจ หรือผู้มีชื่อเสียง หากฝ่าฝืนกฎหมาย จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย


“ส่วนที่ตัวเองเพลี่ยงพล้ำ แล้วมาใส่ไคล้ว่ากระบวนการยุติธรรมที่มีเจตนาแอบแฝง ในลักษณะที่เป็นนิติสงครามเพื่อทำลายกลุ่มตรงข้าม หากไปคิดอย่างนั้น สังคมจะอยู่กันได้อย่างไร หากเราไม่ยึดหลักกฎหมาย แต่ถ้าจะอ้างที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็มองว่าในเมื่อกฎหมายเขียนอย่างนั้น จะให้คนอื่นไปแต่งตั้งหรือเสนอใครแต่งตั้งก็คงไม่ได้” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า นักการเมืองทุกพรรค เมื่อผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว จะมีทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ก็ต้องรอทำหน้าที่ไปจนครบ 4 ปี แล้วมาแข่งขันเลือกตั้งกันใหม่ เมื่อตัวเองพลาดพลั้งด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา แล้วในที่สุดก็นำมาสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเมื่อศาลเอาผิดลงโทษ ก็มาโทษ มาใส่ไคร้ว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วไปปลุกระดมกระทำการในลักษณะฝ่าฝืนกฎหมาย ปลุกระดมเด็กเยาวชน และพวกเดียวกันกับฝ่ายตัวเองให้มาก่อม็อบ ซึ่งทุกม็อบที่ผ่านมา เรารู้ว่าเป็นม็อบที่ผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะไม่มีหมายเรียกหมายจับเอาผิดใครได้ ดังนั้นมองว่านักการเมืองที่ดี จะต้องรอเป็น เมื่อหมดวาระของผู้ที่ชนะการเลือกตั้งไปแล้ว 4 ปี ก็ต้องกลับมาต่อสู้กันด้วยการลงเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนเลือกใหม่ จึงจะถือว่าเป็นพรรคการเมืองและนักการเมืองที่ดี และจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับอนุชนต่อไป

“แต่นักการเมืองไทยรอไม่ได้ พอตัวเองพลาดพลั้ง ไม่ได้เป็นผู้ถืออำนาจ ก็กลับมาใช้วิธีการอื่นที่นอกกฎหมาย แล้วมาประดิษฐ์ประดอยถ้อยคำว่าเป็นนิติสงคราม ซึ่งเป็นการเอาคำมาขยายผลเพื่อเล่นลิ้น สร้างความฮึกเหิมให้กับฝ่ายเดียวกันขึ้นมา ซึ่งไม่ได้ส่อไปในทางที่จะให้เกิดประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือนิติรัฐของประเทศเลย อย่างไรก็ตาม มองว่านักการเมืองต้องปฏิรูปตัวเอง ไม่ใช่ปฏิรูปสถาบัน หรือโครงสร้างของรัฐ ต้องเน้นปฏิรูปตัวเองก่อน” นายศรีสุวรรณ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]