“พล.อ.อ.แอร์บูล” ว่าที่ ผบ.ทอ. โชว์ตัว ในงาน C-130H

กรุงเทพฯ 24 ก.ย.- “พล.อ.อ.แอร์บูล” ว่าที่ ผบ.ทอ. โชว์ตัวในงาน C-130H ครบ 40 ปี ด้านผู้บัญชาการทหารอากาศ บอกวางแผนระยะยาว ให้ซี130 อยู่กับกองทัพอากาศตลอดไป โดยพัฒนาความสามารถของดาต้าลิงก์ให้มากขึ้น เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจมีความแม่นยำ


พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในงานเกียรติยศ 40 ปี การบรรจุเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H) เข้าประจำการในกองทัพอากาศ ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง โดยมี พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ และ ว่าที่ ผบ.ทอ.ร่วมงาน ในฐานะอดีต ผู้บังคับการกองบิน 6

พล.อ.อ.มานัต กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมาที่ ซี130 หรือ Lucky เข้าประจำการภารกิจทั้งในและต่างประเทศ เช่น การรับส่ง วีไอพี การปฏิบัติการทางทหารตลอดจนถึงการบรรเทาภัยพิบัติ ในปัจจุบันยังคงทำหน้าที่เป็นกำลังหลัก ในการสนับสนุนภารกิจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การช่วยเหลือประชาชน ลำเลียงสิ่งของไปมอบให้ประชาชนเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข


ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า สำหรับภารกิจต่างประเทศได้สร้างชื่อเสียงมีมากมายจากการฝึกหลายรหัส ทั้งนี้ตนเคยนั่งซี 130 เมื่อปี 2533 ถือเป็นปีแรกที่เข้าประจำการ เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ เพื่อจะไปศึกษาต่างประเทศ จากนั้นก็เห็นความสำคัญของ ซี130 ตลอดมา ปัจจุบัน ซี130 ก็ยังคงรับใช้คนในกองทัพอากาศในทุกกองบิน ในครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมพัฒนาขีดความสามารถในปี 2548 โดยการอัพเกรด และ รีเฟอร์บิช เป็นครั้งใหญ่ จนถึงปัจจุบันจึงต้องพัฒนาขีดความสามารถโดยเฉพาะหน้าจอที่เสื่อมสภาพลง โดยการปรับปรุงนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าไปใส่ รวมถึงระบบช่วยทำการบิน ที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องต่อไป

พล.อ.อ.มานัต กล่าวว่า ได้วางแผนระยะยาวก่อนถึงปี 2580 ซึ่ง ซี130 ก็จะอยู่กับกองทัพอากาศตลอดไป โดยจะมีการพัฒนาความสามารถของดาต้าลิงค์ให้มากขึ้น เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจมีความแม่นยำ จากประสบการณ์การดับไฟป่า รวมถึงการทิ้งสิ่งของลงมา ซึ่งได้พัฒนาระบบ จีพีเอส รางคู่ ที่ต้องการความแม่นยำมากขึ้น โดยจะมี Data Link ซึ่งเป็น Link Thailand จะถูกใส่ลงไปอีก 5 ปีนับจากนี้

“ตอนนี้กองบิน 6 และ ซี130 อยู่คู่กัน พวกเราได้ทำหน้าที่ทางทหารได้อย่างสมบูรณ์ เราเป็นผู้นําทางทหาร ไม่ว่าจะเป็นนักรบ รวมถึงการเป็นทหารอาชีพ ความมีจิตวิญญาณ ความเป็นทหาร พวกเรามีครบถ้วนทุกคน แต่สิ่งที่สำคัญที่ ทหารนักบินและเจ้าหน้าที่ทุกคนจะละเลยไม่ได้คือการทำหน้าที่เป็นผู้นำทางสังคม ซึ่งพวกเราได้ปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างเยี่ยมยอด ที่จะนำขีดความสามารถ ที่มีอยู่ สนับสนุนด้านพลเรือน ช่วยพัฒนากิจการด้านการบินให้ทันสมัยและปลอดภัยมากขึ้น อานิสงส์ก็จะตกแก่บ้านเมือง” พล.อ.มานัต กล่าว


ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า สำหรับการบินลำเลียงและการบินไปต่างประเทศจะต้องต้องจรรโลง และอยู่กับประเทศไทยตลอดไปเพราะเป็นกำลังเจ้าภาพทางอากาศ ทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม สิ่งที่ไม่เคยทำเราได้ทำ เราจะทำในสิ่งที่ไม่เคยทำและเราจะไปในสิ่งที่ไม่เคยไป ภารกิจที่ท้าทายและการสนับสนุนจะมีมากขึ้น ขอให้ทุกคนได้ระลึกและเอาใจใส่ในสิ่งที่แปลกใหม่ สุดท้ายทำเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ

พล.อ.มานัต กล่าวว่า การจัดงานฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อชื่นชมและสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการและครอบครัว ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานกับเครื่องบิน C-130H ทั้งในอดีตและปัจจุบันที่ได้เสียสละทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ในการปฏิบัติภารกิจกับเครื่องบิน C-130H รวมถึงการสนับสนุนรัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ จนทำให้เครื่องบินดังกล่าวเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากประชาชน

สำหรับเครื่องบิน C-130 H บรรจุเข้าประจำการที่ฝูงบิน 601 กองบิน 6 ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2563 โดยตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา เครื่องบิน C-130 H ได้ปฏิบัติภารกิจสำคัญหลากหลายภารกิจ อาทิ เป็นเครื่องบินพระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อเสด็จฯ เยี่ยมสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งประชวรอยู่ที่ พระตําหนักดอยตุง

ภารกิจลำเลียงทางอากาศรับคนงานไทยในประเทศสาธารณรัฐเกาหลี การส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ การควบคุมไฟป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชน สนับสนุนการลำเลียงสิ่งของและคณะค้นหาช่วยชีวิตจากหน่วยงานต่างๆ ในภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่า ณ ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย การเสริมสร้างสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภารกิจลำเลียงของบริจาคเพื่อเยียวยาผู้ประสบภัย ลำเลียงผู้บาดเจ็บและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้เครื่องบิน C-130 H ยังได้เข้าร่วมการฝึกทางทหารที่สำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ การฝึกร่วม/ผสม COBRA GOLD การฝึกผสม COPE TIGER และการฝึกผสม RED FLAG ณ มลรัฐอลาสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นตัวแทนของประเทศที่ได้เข้าสู่การฝึกระดับนานาชาติ นำพาชื่อเสียงให้กับประเทศเป็นอย่างมากอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]