กรุงเทพฯ 24 ก.ย.- “พล.อ.อ.แอร์บูล” ว่าที่ ผบ.ทอ. โชว์ตัวในงาน C-130H ครบ 40 ปี ด้านผู้บัญชาการทหารอากาศ บอกวางแผนระยะยาว ให้ซี130 อยู่กับกองทัพอากาศตลอดไป โดยพัฒนาความสามารถของดาต้าลิงก์ให้มากขึ้น เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจมีความแม่นยำ
พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในงานเกียรติยศ 40 ปี การบรรจุเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H) เข้าประจำการในกองทัพอากาศ ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง โดยมี พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ และ ว่าที่ ผบ.ทอ.ร่วมงาน ในฐานะอดีต ผู้บังคับการกองบิน 6
พล.อ.อ.มานัต กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมาที่ ซี130 หรือ Lucky เข้าประจำการภารกิจทั้งในและต่างประเทศ เช่น การรับส่ง วีไอพี การปฏิบัติการทางทหารตลอดจนถึงการบรรเทาภัยพิบัติ ในปัจจุบันยังคงทำหน้าที่เป็นกำลังหลัก ในการสนับสนุนภารกิจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การช่วยเหลือประชาชน ลำเลียงสิ่งของไปมอบให้ประชาชนเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข
ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า สำหรับภารกิจต่างประเทศได้สร้างชื่อเสียงมีมากมายจากการฝึกหลายรหัส ทั้งนี้ตนเคยนั่งซี 130 เมื่อปี 2533 ถือเป็นปีแรกที่เข้าประจำการ เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ เพื่อจะไปศึกษาต่างประเทศ จากนั้นก็เห็นความสำคัญของ ซี130 ตลอดมา ปัจจุบัน ซี130 ก็ยังคงรับใช้คนในกองทัพอากาศในทุกกองบิน ในครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมพัฒนาขีดความสามารถในปี 2548 โดยการอัพเกรด และ รีเฟอร์บิช เป็นครั้งใหญ่ จนถึงปัจจุบันจึงต้องพัฒนาขีดความสามารถโดยเฉพาะหน้าจอที่เสื่อมสภาพลง โดยการปรับปรุงนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าไปใส่ รวมถึงระบบช่วยทำการบิน ที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องต่อไป
พล.อ.อ.มานัต กล่าวว่า ได้วางแผนระยะยาวก่อนถึงปี 2580 ซึ่ง ซี130 ก็จะอยู่กับกองทัพอากาศตลอดไป โดยจะมีการพัฒนาความสามารถของดาต้าลิงค์ให้มากขึ้น เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจมีความแม่นยำ จากประสบการณ์การดับไฟป่า รวมถึงการทิ้งสิ่งของลงมา ซึ่งได้พัฒนาระบบ จีพีเอส รางคู่ ที่ต้องการความแม่นยำมากขึ้น โดยจะมี Data Link ซึ่งเป็น Link Thailand จะถูกใส่ลงไปอีก 5 ปีนับจากนี้
“ตอนนี้กองบิน 6 และ ซี130 อยู่คู่กัน พวกเราได้ทำหน้าที่ทางทหารได้อย่างสมบูรณ์ เราเป็นผู้นําทางทหาร ไม่ว่าจะเป็นนักรบ รวมถึงการเป็นทหารอาชีพ ความมีจิตวิญญาณ ความเป็นทหาร พวกเรามีครบถ้วนทุกคน แต่สิ่งที่สำคัญที่ ทหารนักบินและเจ้าหน้าที่ทุกคนจะละเลยไม่ได้คือการทำหน้าที่เป็นผู้นำทางสังคม ซึ่งพวกเราได้ปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างเยี่ยมยอด ที่จะนำขีดความสามารถ ที่มีอยู่ สนับสนุนด้านพลเรือน ช่วยพัฒนากิจการด้านการบินให้ทันสมัยและปลอดภัยมากขึ้น อานิสงส์ก็จะตกแก่บ้านเมือง” พล.อ.มานัต กล่าว
ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า สำหรับการบินลำเลียงและการบินไปต่างประเทศจะต้องต้องจรรโลง และอยู่กับประเทศไทยตลอดไปเพราะเป็นกำลังเจ้าภาพทางอากาศ ทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม สิ่งที่ไม่เคยทำเราได้ทำ เราจะทำในสิ่งที่ไม่เคยทำและเราจะไปในสิ่งที่ไม่เคยไป ภารกิจที่ท้าทายและการสนับสนุนจะมีมากขึ้น ขอให้ทุกคนได้ระลึกและเอาใจใส่ในสิ่งที่แปลกใหม่ สุดท้ายทำเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ
พล.อ.มานัต กล่าวว่า การจัดงานฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อชื่นชมและสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการและครอบครัว ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานกับเครื่องบิน C-130H ทั้งในอดีตและปัจจุบันที่ได้เสียสละทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ในการปฏิบัติภารกิจกับเครื่องบิน C-130H รวมถึงการสนับสนุนรัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ จนทำให้เครื่องบินดังกล่าวเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากประชาชน
สำหรับเครื่องบิน C-130 H บรรจุเข้าประจำการที่ฝูงบิน 601 กองบิน 6 ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2563 โดยตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา เครื่องบิน C-130 H ได้ปฏิบัติภารกิจสำคัญหลากหลายภารกิจ อาทิ เป็นเครื่องบินพระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อเสด็จฯ เยี่ยมสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งประชวรอยู่ที่ พระตําหนักดอยตุง
ภารกิจลำเลียงทางอากาศรับคนงานไทยในประเทศสาธารณรัฐเกาหลี การส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ การควบคุมไฟป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชน สนับสนุนการลำเลียงสิ่งของและคณะค้นหาช่วยชีวิตจากหน่วยงานต่างๆ ในภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่า ณ ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย การเสริมสร้างสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภารกิจลำเลียงของบริจาคเพื่อเยียวยาผู้ประสบภัย ลำเลียงผู้บาดเจ็บและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้เครื่องบิน C-130 H ยังได้เข้าร่วมการฝึกทางทหารที่สำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ การฝึกร่วม/ผสม COBRA GOLD การฝึกผสม COPE TIGER และการฝึกผสม RED FLAG ณ มลรัฐอลาสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นตัวแทนของประเทศที่ได้เข้าสู่การฝึกระดับนานาชาติ นำพาชื่อเสียงให้กับประเทศเป็นอย่างมากอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย