กต.ช่วยแม่คลอดลูกในมาเลเซีย ขอให้ส่งบุตรกลับไทย

กรุงเทพฯ 6 ส.ค.- โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยกรณีหญิงไทยที่คลอดบุตรชายที่โรงพยาบาลมาเลเซีย ขอความช่วยเหลือส่งบุตร ล่าสุดส่งตัวเด็กกลับไทยแล้ว โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์และมาเลเชียให้ความช่วยเหลือ ยัน กต.พร้อมดูแลคนไทยในต่างประเทศ


นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีการให้ความช่วยเหลือแก่หญิงไทยที่คลอดบุตรชายที่โรงพยาบาล Kajang ที่ประเทศมาเลเซีย ว่าตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นางสาวนูรฮาลีซา เจะอาแว คลอดบุตรชายที่โรงพยาบาล Kajang ที่ประเทศมาเลเซีย โดยเป็นการคลอดก่อนกำหนดทำให้บุตรจึงต้องอยู่รับการรักษาที่โรงพยาบาล ต่อมานางสาวนูรฮาลีซาฯ แจ้งโรงพยาบาลว่ามีความจำเป็นต้องกลับประเทศไทยเพื่อดำเนินการด้านเอกสาร และหลังจากนั้นโรงพยาบาลไม่สามารถติดต่อนางสาวนูรฮาลีซา ได้ จึงได้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2563 เพื่อขอให้ช่วยติดตามตัวมารดานั้น เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563

กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้รับแจ้งจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ว่า พบตัวนางสาวนูรฮาลีซา แล้ว ซึ่งได้ขอความช่วยเหลือในการส่งบุตรกลับไทยจากมาเลเซีย สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศและ ศอ.บต. ให้มารดามอบอำนาจให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ดำเนินการจดทะเบียนเกิดกับทางการมาเลเซียแทน โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ดำเนินการเสร็จสิ้น พร้อมกับได้ออกสูติบัตรไทย เอกสารเดินทางฉุกเฉิน และหนังสือรับรองการเดินทางกลับไทยให้บุตรของนางสาวนูรฮาลีซาฯ


โดยในช่วงเช้าของวันนี้ (6 สิงหาคม 2563) สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เช่ารถพยาบาลพร้อมด้วยพยาบาลประจำรถเพื่อส่งบุตรของนางสาวนูรฮาลีซา กลับไทยผ่านด่านพรมแดนถาวรสะเดา จังหวัดสงขลา และเดินทางถึงด่านสะเดา โดยมีเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง ช่วยอำนวยความสะดวกที่หน้าด่าน และได้ส่งมอบบุตรชายให้มารดา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับรถพยาบาลจากโรงพยาบาลปัตตานีเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศในฐานะหน่วยงานหลักในการดูแลคนไทยในต่างประเทศ ให้ความสำคัญอย่างสูงสุด ในการดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพของคนไทย สำหรับคนไทยในต่างประเทศที่ประสบปัญหาสามารถติดต่อไปยังสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยได้ตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น