รัฐสภา 29 ก.ย.-“ชลน่าน” ซัด 4 เดือนรัฐบาลอนุทินไม่ใช่ยุบสภา แต่เป็นยุบคดี เชื่อสีน้ำเงินกินรวบ สส.-สว.-ขรก.-องค์กรอิสระ หวังผลเลือกตั้งสมัยหน้า ชี้นโยบายสวยหรู แต่คนทำมีมลทิน-ชาติหายนะ ตั้งฉายา “รัฐบาลหนูเน” ไม่ได้ใช้อํานาจที่แท้จริง
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสําคัญกับการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ติดตามตั้งแต่ท่านยังไม่ออกนโยบาย จนกระทั่งเข้ารับตําแหน่ง และนํานโยบายสู่สาธารณะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสําคัญต่อบ้านเมือง โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนในภาวะวิกฤติที่บ้านเมืองไม่เป็นปกติ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เวลา 6 ชั่วโมงจะทําหน้าที่ให้คุ้มค่าที่สุด และจะรักษาอภิปรายให้เป็นไปตามข้อบังคับ โดยมุ่งเน้น 3 ประเด็นหลัก คือ
1.ตัวนโยบายเหมาะสมหรือไม่ ทําได้หรือไม่ ทําดีหรือไม่ หรือทําเป็นหรือไม่ เพราะเรามองเวลาที่มีอย่างจํากัดใน 4 เดือน ว่าท่านทําได้หรือไม่ ทั้งนี้ ส่วนตัวขอชื่นชมคำแถลงนโยบายที่เขียนไว้ครอบคลุมในทุกมิติอย่างหาที่ติไม่ได้ และจะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะเป็นไปอย่างนั้นหรือไม่ ต้องติดตาม
2.ผู้ที่จะเข้ามาบริหารนโยบาย ซึ่งเราเห็นว่านโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาครั้งนี้จะไม่มีผลสําเร็จได้เลย หรือสําเร็จได้ก็อาจจะเป็นโมฆะ เพราะผู้บริหารนโยบายเป็นผู้ที่ไม่มีความเหมาะสมไม่มีคุณสมบัติ มีลักษณะต้องห้ามที่ไม่สามารถทํานโยบายนี้ได้
และ 3.โอกาสของพี่น้องประชาชนที่จะสูญเสียไป จากการดําเนินนโยบาย
นพ.ชลน่าน ยังระบุว่า 4 เดือนที่ท่านสัญญาว่าจะยุบสภา ตนมั่นใจว่ายุบสภาแน่นอน เพราะหากไม่ยุบจะเสียหาย แต่หากยุบจะได้คะแนนมหาศาล ขณะเดียวกัน มองว่าท่านจะใช้ระยะเวลา 4 เดือนนี้ในการ ดึง ถ่วง และยื้อคดีที่เป็นปัญหาอยู่
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน ว่า เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่ปฏิบัติตามบทเฉพาะกาล ซึ่งเราไม่อยากให้สร้างประเพณีรัฐบาลเสียงข้างน้อยในประเทศ แม้จะมีเกิดขึ้นในประเทศแคนาดาหรือออสเตรเลีย แต่ความเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่มอบหมายให้ไปใช้งบประมาณในการบริหารประเทศ ไม่ได้เป็นความไว้วางใจ แต่มอบหมายให้ทํางาน และมองด้วยว่า นโยบายที่เขียนไว้ทําไม่ได้ หรือทําได้เฉพาะที่บทเฉพาะการกําหนดไว้ให้เท่านั้น
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงนโยบายตาม MOA ว่า เป็นการเขียนนโยบายที่ชัดแต่ขยัก ที่ระบุว่าจัดทําประชามติแก้รัฐธรรมนูญในวันเลือกตั้ง ยุบสภาภายใน 4 เดือน ซึ่งสิ่งที่บันทึกใน MOA จัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นหายไป จะเบี้ยวหรือไม่ ขอให้ตอบตนและสภาแห่งนี้ ขณะเดียวกันรัฐบาลนี้จะต้องใช้ประโยชน์จากคะแนนนิยมของพี่น้องประชาชน เพื่อชนะการเลือกตั้งในวันที่ 22 หรือ 29 มีนาคม 2569 ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด เพื่อส่งให้ท่านสืบทอดอํานาจไปอีก 4 ปี
“สิ่งที่ท่านจัดรัฐมนตรีคนนอกเป็นภาพที่สวยงามมาก แต่นี่คือกลไกที่แยบยล เพราะรัฐมนตรีสามารถจัดการดูแลในพื้นที่อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพื่อให้ได้อํานาจมาภายใน 4 ปี ทําให้มองว่านโยบายที่แถลงมาจะเป็นปัญหามากกว่าทางออก เป็นหายนะที่ตนมองว่าทำไม่ได้ และ 4 เดือน ที่จะนํามาซึ่งการยุบสภา จะกลายเป็น 4 เดือน แห่งการยุบคดี” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน ระบุว่า เราต้องการประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขอย่างแท้จริง เราไม่ต้องการแค่เปลือก สิ่งที่เราเห็นใน 4 ปี การกัดกร่อนระบอบรัฐสภาในประชาธิปไตยจะรุนแรงมาก ซึ่งมีหลักฐานทางข้อกฎหมาย และในอนาคต การเลือกตั้งจะไม่ใช่อํานาจของประชาชนอย่างแท้จริง จะเป็นอํานาจการจัดการของตัวบุคคล นโยบาย การจัดการ ซึ่งเงินจะเป็นปัจจัยสูงสุดในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และตนไม่ได้บอกว่าท่านซื้อเสียง
“รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะถูกยกร่างด้วยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากสีน้ำเงิน และรัฐธรรมนูญฉบับนั้นจะเป็นสีน้ำเงิน ไม่ว่าจะผ่านร่างของเพื่อไทยเป็นหลัก ร่างของพรรคประชาชนเป็นหลัก หรือร่างภูมิใจไทยเป็นหลัก ล้วนแต่มีกลไกการจัดการเพื่อให้ได้สมาชิก ส.ส.ร. สีน้ำเงินเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องยากเพราะยากกว่านี้ก็ทำมาแล้ว ถ้าเขาต้องการก็ทําได้หมด นี่คือสิ่งที่คาดการณ์อนาคตของประเทศ และภาคประชาชนประกาศชัดว่าถ้า ส.ส.ร. สีน้ำเงิน รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นสีน้ำเงิน ประชามติรณรงค์ทั่วประเทศไม่ผ่าน ซึ่งจะเข้าทางไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ นี่คืออนาคตที่เราจะเจอ”
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงนโยบายเฉพาะกิจเพื่อการเลือกตั้ง รวมทั้งคนที่ตั้งเข้ามาล้วนแต่ทำเพื่อการนี้ ซึ่งตนมีสิทธิที่จะพูดและท่านมีสิทธิที่จะพิสูจน์ว่ามันไม่จริง
“หลายคนขนานนามว่ารัฐบาลอนุวิน ผมไม่รู้ว่าเขามาจากอะไร รัฐบาลเนทิน หรือรัฐบาลหนูเน นั่นหมายความว่านายกรัฐมนตรีของท่านไม่ได้ใช้อํานาจบริหารที่แท้จริง”
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึง 4 หายนะที่จะเกิดขึ้น ประกอบด้วย
1.หายนะทางประชาธิปไตย ในระบบเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) หรือ สส. ที่ประชาชนไม่ได้ตัดสินใจ เพราะเหมายกเข่ง ซื้อยกหน่วย 1,000-2,000 บาท
2.หายนะด้านความโปร่งใสและหลักนิติธรรม ไม่ใช่ไม่เก่ง แต่ผลประโยชน์ไม่ตกกับพี่น้องประชาชน เพราะคนที่เข้ามามีลักษณะผูกขาดตําแหน่ง ซึ่งตนไม่ได้กล่าวร้ายแต่เป็นกลไกที่สามารถทําได้ ซึ่งรัฐมนตรีบางคนมีแผล มีกรรมเก่าในอดีต 3.หายนะด้านการบริหารจัดการประเทศ และ 4.หายนะทางโอกาสของประชาชน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า บางนโยบาย เช่น การแก้ไขปัญหายาเสพติด ภัยพิบัติ แลนด์บริดจ์ การบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าชุมชน ทําไมถึงมาทําในรัฐบาลนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำไมไม่ทำในรัฐบาลของเรา 2 ปีที่ผ่านมา นโยบายดีๆ ท่านปัดตกหมด เช่น นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพและปริมณฑล 12-13 ล้านคนต่อวัน มีสถิติการใช้เพิ่มเติมแต่ท่านยกเลิก ถือเป็นการทําลายโอกาสของพี่น้องประชาชน และท่านอาจจะใช้มาตรการอื่นมากลบเกลื่อน แต่นี้ คือ นโยบายของพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ขอขอบคุณท่านที่สานต่อนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เป็นสิ่งที่พึงกระทําที่หลายรัฐบาลไม่อยากทำ รวมถึง หวยเกษียณ ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็น สลากเงินออม
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้ แต่สิ่งที่ตนกล่าวมาทั้งหมด ทั้งการวางกําลังพล และการจัดวางฐานอํานาจ สว. และ สส. ต้องยอมรับว่าท่านทําการเมืองอย่างเหนือชั้นทุกคนไหลเข้าหาท่านหมด เพราะรู้ว่าอยู่กับท่านแล้วปลอดภัย ได้เป็นรัฐบาลในสมัยหน้า แต่ท่านอย่าประมาทพี่น้องประชาชน เพราะ 4 เดือน ที่เข้ามาเพื่อยุบสภา จะบอกว่าท่านเข้ามาเพื่อยุบคดี
“อดีตอธิบดีกรมที่ดินออกมาแถลงชัด ซึ่งถือว่าแยบยลมาก เพราะแถลงในนามรัฐบาลรักษาการจะได้ไม่มาแปดเปื้อนท่าน ถือว่ายุทธศาสตร์ทางการเมืองของท่านลึกล้ำจริงๆ ซึ่งผมไม่รู้ว่าออกจากสมองใคร แต่ยกย่องให้จริงๆ ยอมเป็นลูกศิษย์ยอมกราบ
ถ้าจะเป็นผู้นําจิตวิญญาณที่อยู่ด้านหลัง ผู้นําจิตวิญญาณสีน้ำเงิน ผู้นําจิตวิญญาณแดง ผู้นําจิตวิญญาณส้ม หมายเลข 1 ฉลาดปราดเปลื้องหลักแหลม 4 เดือนที่ท่านทํา ท่านจะได้ 4 ปี และท่านจะกินรวบประเทศไทย อํานาจ สว. เป็นของพรรคสีน้ำเงิน อํานาจ สส. เป็นสีน้ําเงิน อํานาจองค์กรอิสระเป็นสีน้ำเงิน อํานาจราชการเป็นสีน้ําเงิน ทั้งประเทศน้ําเงินทั้งหมด
ท่านกําลังเอาสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีประเสริฐมาลงมาคลุกกับการเมือง ซึ่งหมายถึงเราไม่เคารพสีน้ำเงิน ซึ่งผมทนไม่ได้ ประมุขของประเทศอยู่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม สัญลักษณ์สีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์สีสถาบัน การเอาสีน้ำเงินลงมาในสิ่งที่ไม่ควรมิบังควร เป็นสิ่งที่พวกเราไม่สบายใจ และถ้าเราไม่ช่วยกันไม่ระวังการกินรวบทั้งประเทศจะเกิดขึ้น การลงทุนของพรรคประชาชนจะสูญเปล่า”
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวด้วยว่า ขอพูดในนามประชาชนว่า ตนอยากอยู่อย่างสงบสันติ ทําหน้าที่ของประชาชนหากินอย่างสงบมีอิสระเสรีภาพ ต้องการรัฐบาลที่ซื่อสัตย์คํานึงสิทธิประโยชน์ของประชาชนคํานึงถึงสถาบันหลักของชาติและสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชน ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจะขอกราบทุกคนทุกท่านที่นั่งอยู่ในบัลลังก์ที่แถลงนโยบายว่าจะทําหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต อย่าให้คําๆ นี้มันกัดกร่อนท่าน เพราะตนอยากเห็นรัฐมนตรีที่ทําหน้าที่อย่างจริงจัง.-316.-สำนักข่าวไทย