“ณัฐวุฒิ” รับหนังสือและกรอบเวลา ประชุม กมธ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข

รัฐสภา 7 ส.ค.-“ณัฐวุฒิ” เผย กมธ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ได้ข้อสรุปเรื่องเวลา เริ่มตั้งแต่ปี 48 จนกฎหมายบังคับใช้-จ่อเพิ่มในบัญชีแนบท้าย เป็น 25 ฐานความผิด วางกรอบแล้วเสร็จใน 2 เดือน ย้ำ ไม่ลืม ‘เสื้อแดง ปี 53’ ที่ยังไม่ได้ถูกเยียวยา ลั่น จะทำให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เพื่อเป็นเครื่องมือคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทย ให้คนสามารถเดินหน้าชีวิตในฐานะผู้บริสุทธิ์ต่อไป หลังรับหนังสือจาก ‘กลุ่มนิรโทษกรรมประชาชน’

กลุ่มเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน พร้อมด้วยทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข ซึ่งมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นตัวแทนรับ


โดยนางสาวพูนสุข พูนสุขเจริญ เป็นตัวแทนกล่าวว่า เนื่องจากเราเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติทั้ง 3 ฉบับ อาจจะไม่ครอบคลุมเพียงพอ ในการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองตลอดระยะเวลา 20 ที่ผ่านมา จึงมายื่นข้อเสนอถึงประธานคณะกรรมาธิการฯ 4 เรื่อง ดังนี้ 1.ระยะเวลาการนิรโทษกรรม ขอเสนอให้ครอบคลุมตั้งแต่ พ.ศ.2548-2568 หรือจนกว่าจะมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติ

2.ในส่วนฐานความผิด เมื่อพิจารณาจากบัญชีแนบท้ายร่างพระราชบัญญัติ ที่มีเพียง 12 ข้อ หรือถือเป็น 20 ฐานความผิด ซึ่งทำให้อาจตกหล่นบางฐานความผิดได้


3.คดีเยาวชน ตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นมา มีเยาวชนผู้ถูกดำเนินคดี 286 ราย ซึ่งเราคิดว่า เยาวชนควรจะได้รับการนิรโทษกรรมไปด้วยในครั้งนี้ ไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะไม่ควรรวมการนิรโทษกรรมให้กับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ในทุกฐานความผิด

4.คณะกรรมการ เสนอให้ควรจะมีองค์ประกอบของทางภาคการเมืองและภาคประชาชนเข้าไปด้วย เพราะในร่างพระราชบัญญัตินั้น องค์ประกอบหลัก จะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรืออดีตศาล อัยการ เป็นหลัก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่พิจารณาว่า คดีไหนถูกหรือผิด หรือเป็นการเมืองไม่ใช่การเมือง จึงควรจะมีคนที่ถูกดำเนินคดี และคนที่ติดตามสถานการณ์เรื่องนี้มาตลอด เข้าไปเป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการด้วย

รวมถึงระยะเวลาที่คณะกรรมาธิการฯ พิจารณา ที่ไม่ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ก็ตาม หากมีการกำหนดว่า คณะกรรมการนี้ จะยุบภายใน 6 เดือน หรือ 1 ปี หลังจากนั้น ก็ควรเปิดช่องให้ศาลยุติธรรมมีอำนาจในการพิจารณาคดี เผื่อมีคดีไหนตกหล่น และนอกเหนือจากที่คณะกรรมการ จะพิจารณาคดีนิรโทษกรรมแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่ควรพูดถึง คือเรื่องของการเยียวยา


ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ใน 2 ประเด็นแรก เป็นเรื่องที่เห็นตรงกันอยู่แล้ว และคณะกรรมาธิการฯ ได้มีการประชุมรวมถึงมีความเห็นร่วมกันเป็นมติของที่ประชุมไปแล้ว คือกรอบเวลาเริ่มต้นปี 48 จนถึงวันที่กฎหมายประกาศใช้ ส่วนเรื่องฐานความผิด ในบัญชีแนบท้ายนั้น แน่นอนว่ายังไม่ครอบคลุม และตกหล่นเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น ในสัปดาห์ที่แล้ว กรรมาธิการฯ จึงมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง และมีมติด้วยเสียงข้างมาก ว่าจะบรรจุบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติให้ระบุทั้งความผิด โดยหลักคิดตรงกันว่า จะต้องเพิ่มจาก 12 ฐานความผิดในขณะนี้ จากการอ้างอิงรายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่มีการระบุไว้ 25 ฐานความผิด อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการฯ ไม่ได้ปิดกั้น ที่จะมีการเพิ่มฐานความผิดอื่น หากพบข้อเท็จจริงว่า มีผู้ที่ถูกดำเนินคดียังคงตกหล่น ไม่ได้ระบุไว้ในร่างกฎหมาย ก็สามารถดำเนินการ ในขั้นตอนการพิจารณาได้

ส่วนเรื่องเยาวชนและองค์ประกอบของคณะกรรมการนั้น เนื่องจากยังไม่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่ตนขอรับไว้ จะมีการนำไปหารือจนมีข้อสรุป และรายงานให้ทราบต่อไป แต่โดยเบื้องต้นในหลักการไม่มีอะไรขัดกันกับข้อเสนอนี้

นายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า การทำงานของคณะกรรมการฯ นั่งรวมกัน โดยคนที่เห็นต่างหรือเห็นตรงในทางการเมือง เพียงแต่เมื่อมีเจตนาร่วมกันว่า จะผลักดันสังคมไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้ง โดยใช้การนิรโทษกรรมคดีความอันเกิดขึ้นจากการชุมนุมทางการเมืองหรือเกี่ยวเนื่องกับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในห้วง 20 ปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องมือหนึ่ง เราตั้งใจว่าจะทำเรื่องนี้ให้คืบหน้า และแล้วเสร็จในชั้นกรรมาธิการฯ โดยเร็ว จากที่วางกรอบไว้ว่า จะอยู่ในเวลา 2 เดือนบวกลบ แต่ก็ต้องดูภารกิจของสภาใหญ่ด้วย ย้ำว่า ทุกนัดที่มีการประชุม เราทำงานการเต็มที่ ล่าสุดก็มีการขยับเวลาเพิ่ม

“ผมก็ไม่เคยมาทำหน้าที่นี้ในสภานี้เลย แล้วก็ไม่คิดว่าจะมาเป็นกรรมการใดๆ ชุดไหนกับเขาด้วย แต่เรื่องนี้ผมตามมาตลอด ผมเคยไปแสดงความคิดเห็นในคณะกรรมาธิการศึกษาเรื่องการนิรโทษกรรม ผมยังคงนั่งคุยกับกลุ่มแกนนำทั้งที่เห็นด้วย และเคยเห็นต่าง เคยเผชิญหน้ากันทางการเมือง พูดคุยกับกลุ่มมวลชนฝ่ายต่างๆ พูดคุยกับตัวแทนคนหนุ่มสาวที่เขาออกมาต่อสู้ พูดคุยกับผู้รู้เรื่องกฎหมาย ผู้รู้เรื่องกระบวนการยุติธรรม หารือกับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายอื่นๆ และติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้ จนก่อนจะมีการนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในสภาวาระแรก แน่นอนว่า ทุกคนอยากให้ครอบคลุมที่สุด แต่ถ้าความจริงของสถานการณ์มันไปได้ไกลที่สุดแค่ไหน ก็ทำให้ได้มากที่สุดก็แล้วกัน ถ้ายังมีอะไรเหลืออยู่ ก็มาว่ากัน ณ เวลานั้นอีกครั้งหนึ่ง”

ดังนั้น เมื่อตนตัดสินใจว่า จะเข้ามาเป็นกรรมาธิการ และเมื่อกฎหมายได้ผ่านวาระแรกของสภา ตนได้เดินทางไปพบผู้ต้องขังคดีความทางการเมืองที่เรือนจำ และบอกกับเขาตรงๆ ว่า สภาฯ รับมาแบบนี้ และตนจะเข้ามาเป็นกรรมาธิการ ตนมั่นใจว่าตนเข้าใจพวกเขา และก็แน่ใจว่าเขาเข้าใจตน ย้ำว่า ภารกิจของคณะกรรมการธิการชุดนี้ ไม่ได้เป็นเพียงในห้องประชุมของคณะกรรมาธิการนี้ แต่ยังมีภารกิจบางด้านบางประการที่ต้องทำข้างนอก ซึ่งตนก็พยายามดำเนินการอยู่ และเชื่อว่าคณะกรรมาธิการทุกท่านก็กำลังพยายามดำเนินการอยู่

“เราจะทำให้มันออกมาดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เราจะทำให้มันออกมาเป็นเครื่องมือของการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทยให้ได้มากที่สุด แม้ว่าขณะนี้รูปลักษณ์ของความขัดแย้งทางความคิดยังคงชัดเจน และลึกซึ้งอยู่ก็ตาม แต่ไม่มีสังคมไหนไม่ขัดแย้งทางความคิด เราต้องทำให้สังคมนี้พร้อมที่จะเปิดโอกาสให้คนแต่ละกลุ่มได้ตั้งหลักตั้งต้น และเดินหน้าชีวิตในฐานะผู้บริสุทธิ์ต่อไป”

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงคนบางกลุ่ม ซึ่งบางทีสังคมอาจจะมองพร่าเลือนไปแล้ว เช่น คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชายชุดดำ เป็นกองกำลังติดอาวุธ ในการชุมนุม ปี 53 คนกลุ่มนี้ ถูกดำเนินคดี ถูกเอาไปขังในเรือนจำ และสู้คดีจนศาลยกฟ้อง เป็นผู้บริสุทธิ์จากกระบวนการยุติธรรม แต่คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับการเยียวยา ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงกลายเป็นว่าหลักเกณฑ์การเยียวยาชุดนั้น ได้สำหรับคนส่วนหนึ่ง และไม่ได้สำหรับคนอีกส่วน ซึ่งเป็นส่วนที่ข้อกล่าวหาฉกาจฉกรรจ์ นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตนไปนั่งคุยมา และได้ไปตามข้อมูลที่กรมคุ้มครองสิทธิ์กระทรวงยุติธรรม ได้ข้อมูลมาปึกหนึ่งจะนำมาผลักดัน และหาทางออกที่ดีที่สุดในคณะกรรมาธิการชุดนี้เช่นเดียวกัน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ลุยเอง นำทีมบุกจับบ่อนดอนเมืองในตำนาน

ดอนเมือง 28 ส.ค. – “ภูมิธรรม” นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “สิงห์ปราบพยศ” ทลายบ่อนเปิดซ้ำซากย่านดอนเมือง รวบ 200 นักพนัน เงินหมุนเวียนมหาศาลกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน ย้ำ “ขบวนการตาสับปะรดของประชาชนคือเบาะแสสำคัญ” ร่วมกันสร้างสังคมปลอดอบายมุข ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดปฏิบัติการสิงห์ปราบพยศ ปิดล้อมทลายบ่อนดอนเมืองในตำนาน เป็นจุดที่โดนทั้งตำรวจ ทหาร และกรมการปกครอง บุกเข้าจับกุมนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้กรมการปกครองนำกำลังเข้าพื้นที่ตามช่องทางเข้า-ออกทุกทาง พบมีประตูเหล็กขนาดใหญ่ปิดกั้นอยู่ จึงใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กเข้าตัดประตูเป็นช่องเพื่อให้เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปด้านใน ภายในพบนักพนันกว่า 200 คน โดยใช้พื้นที่ของสนามฟุตบอลหญ้าเทียม และพื้นที่อาคารที่อยู่ใกล้เคียง เป็นห้องพนันแบบครบวงจร 5 ห้อง นอกจากนี้ยังมีการตั้งร้านอาหารและน้ำดื่ม เหมือนเป็นตลาดนัดย่อมๆ ในพื้นที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาตรวจสอบในจุดดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า บ่นพนันดังกล่าวพบมียอดเงินหมุนเวียนกว่า 5-10 ล้านบาทต่อวัน มีเงินหมุนเวียนแล้วเดือนละ 300-400 ล้านบาท โดยจะเปิดให้เล่นตั้งแต่ […]

อุตุฯ เผยภาคเหนือฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ […]

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย