“สมศักดิ์” แจงสร้างศูนย์แพทย์แผนไทยที่คีรีมาส ไร้ผลประโยชน์

รัฐสภา 30 พ.ค.-“สมศักดิ์” แจงสร้างศูนย์แพทย์แผนไทยที่คีรีมาส สุโขทัย ไร้ผลประโยชน์โยงเอี่ยว “สาธารณสุข” เล็งรับนักศึกษาแพทย์จาก ม.เอกชน-ต่างประเทศ แก้โรงพยาบาลรัฐขาดแคลนหมอ ยอมรับอาจทำให้นักศึกษาแพทย์โรงพยาบาลรัฐตกงาน

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เป็นวันที่สาม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงถึงงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขว่า ส่วนที่มีคำถามว่าศูนย์อาคารสาธารณสุขเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย ที่จะตั้งที่จ.สุโขทัย และมีการตั้งงบประมาณไว้ 140 ล้านบาทนั้น จริงๆ มีการตั้งงบประมาณไว้ 50 ล้านบาท แต่อีก 90 ล้านบาทเป็นงบประมาณผูกพันไว้สำหรับศูนย์อื่นๆ ที่สร้างไปแล้ว


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนที่ต้องไปตั้งที่ อ.คีรีมาส จ.สุโขทัย เพราะ อ.คีรีมาส เป็นเขาสมุนไพรตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และการที่บอกมีการตั้งรางวัลจำนวน 60 ล้านบาทนั้น ก็ไม่ใช่การตั้งรางวัลแต่เป็นการประชาสัมพันธ์กับแต่ละโรงพยาบาลที่ให้เลิกใช้ยาฝรั่ง แต่ให้มาใช้ยาแผนไทย

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่เพื่อนสมาชิกตั้งคำถามถึงการเชื่อมต่อระบบบริการสุขภาพดิจิทัลหรือ Thailand health Atlas ใช้ได้หรือไม่ ทำไมจึงไม่มีในเล่มงบประมาณขาวคาดแดงนั้น ขอเรียนว่า เรามีและมีการตั้งงบประมาณไว้ 17.55 ล้านบาท อยู่ในเล่มที่ 11 หน้า 70 บรรทัดที่ 4 อยู่ในโครงการใหญ่ Health data hub


นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนรู้สึกประทับใจที่สมาชิกส่วนใหญ่ชื่นชมการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขมากกว่าตำหนิ เพราะตนพยายามตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถโดยเฉพาะนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ โดยในปี 2569 กระทรวงสาธารณสุข มีวงเงินงบประมาณ 372,662.11 ล้านบาท ประกอบด้วย 10 กรม วงเงิน 175,286 ล้านบาท 6 หน่วยงานในกำกับ 2,352 ล้านบาท กองทุน 195,022 ล้านบาท ซึ่งแบบออกเป็นวงเงินตามนโยบาย 242,477 ล้านบาท แยกเป็น 8 ส่วน คือ 1.โครงการพระราชดำริ 1,303 ล้านบาท 2. ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ 160,241 ล้านบาท 3.สุขภาพจิตและบำบัดยาเสพติด 1,140 ล้านบาท 4.คนไทยห่างไกลโรคและภัยสุขภาพ 37,792 ล้านบาท 5.สนับสนุนการดำเนินงาน อสม. 30,418 ล้านบาท 6.กลุ่มเปราะบางและพื้นที่พิเศษ 7,606 ล้านบาท 7.เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพ 335 ล้านบาท 8.บริการจัดการทรัพยากรสาธารณสุข 3,638 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีวงเงินอื่นๆ จำนวน 130,184 ล้านบาท สำหรับการดำเนินงานตามภารกิจพื้นที่ประจำ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีคนวิพากษ์วิจารณ์กองทุน 30 บาทรักษาทุกที่ มีโอกาสล้มละลายภายใน 3 ปี ตนอยากบอกว่าหากปล่อยปะละเลยโดยเฉพาะบางอย่างที่มองเห็นแล้ว มันอาจจะเป็นอย่างที่ถูกวิจารณ์ แต่ตนเห็นว่าปัญหาอื่นเป็นเรื่องเล็ก ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือโรค NCD เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลของหลักประกันสุขภาพสำหรับการใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ กรณีผู้ป่วยนอก ปี 2567 พบว่า มีผู้ป่วยโรคนี้เข้ารับการรักษา 220 ล้านครั้ง โดยเป็นผู้ป่วย NCD 167 ล้านครั้ง หรือ 76% ถ้าเราแก้ไขปัญหานี้ได้ ปัญหาอื่นเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว เพราะงบประมาณสูง โดยในปี 2560 ใช้งบประมาณ 62,138 ล้านบาท หรือ 48 % ของงบประมาณภาพรวมนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ และปี2567 ใช้งบประมาณ 79,537 ล้านบาท หรือ 52 % ของงบประมาณภาพรวม เฉพาะหากจัดการเรื่องนี้ได้งบประมาณกองทุนจะเหลือเฟือ ซึ่งหากจัดการกับโรคเบาหวาน และการฟอกไต จะลดงบประมาณไปได้ 44,000 ล้านบาท จะช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล และช่วยให้แพทย์มีเพียงพอ จึงต้องทำให้ อสม.มั่นคง ซึ่งตนมั่นใจว่ามาตรการนับคาร์บ ภายใน 2 ปี คนป่วย NCD เข้าโรงพยาบาลจะน้อยลง แต่คนที่ป่วยอยู่แล้วคงรักษาแบบประคับประคอง

ส่วนที่มีการตั้งงบประมาณ โครงการนับคาร์บ 1,200 ล้านบาท นั้นมีกิจกรรมจำนวนมาก เช่น การส่งเสริมความรู้ประชาชน อบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อบรมเสริมศักยภาพ อสม. และหาเครื่องสนับสนุนการทำงานของ อสม. เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องเจาะน้ำตาล ระบบเก็บข้อมูล


พร้อมกันนี้นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์ว่า พื้นที่ที่ขาดแคลนแพทย์ ได้ถูกประกาศเป็นพื้นที่พิเศษ ทั้งจังหวัดบึงกาฬ แม่ฮ่องสอน และตาก บางพื้นที่ เพื่อเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษ ขั้นต่ำตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป พร้อมทั้งรับนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยเอกชนและจบจากมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศที่แพทยสภายอมรับได้ จึงอยากไปถึงแพทย์ทั่วประเทศว่าหากเริ่มรับแล้วจะต้องรับไปเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้แพทย์จากมหาวิทยาลัยรัฐต้องเสียสิทธิ์ แต่เพื่อแก้ปัญหาจึงจำเป็นต้องประกาศพื้นที่พิเศษ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่กรณีที่มีการเอ่ยชื่อบุคคลที่นามสกุลเดียวกับตน เป็นหลานชายตนนั้น พ่อเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับตน เขาชื่อมหาคุณ เทพสุทิน เป็นเจ้าของร้านตำหรับไทย ขอเรียนว่าเขาไม่มีธุรกิจ ธุรกรรมอะไรกับกระทรวงสาธารณสุขเลย แม้แต่บาทเดียวก็ไม่ได้ทำธุรกิจกับกระทรวงสธารณสุข แต่คอยช่วยตนตั้งแต่สมัยที่มีโควิดเข้ามา เขาแนะนำตนในเรื่องฟ้าทะลายโจร เดี๋ยวฟ้าทะลายโจรจะขึ้นราคา หากเราไม่มีฟาวิพิราเวียร์ก็ให้สต็อกฟ้าทะลายโจร

“อย่าไปคิดเลยว่ามหาคุณจะได้ประโยชน์จากกระทรวงสาธารณสุข เขาเป็นร้านตำหรับไทย เปิดร้านมาแล้ว 20 กว่าปี ปัจจุบันมี 80 กว่าสาขาทั่วประเทศ ทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 19 ปี อยู่ม.6 เคยฝึกงานอยู่บู๊ท 4 เดือนก่อนที่เจ้าของเขาจะขายให้มหาคุณในราคา 7 หมื่น แต่ตอนนี้เขาอายุ 40 กว่าปี มีธุรกิจตำหรับไทย 80 กว่าสาขา” นายสมศักดิ์ กล่าว

จากนั้น นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ใช้สิทธิ์ซักถามว่า โครงการ NCD ที่เป็นโครงการใหม่ของท่าน ทำให้งบประมารไปจมอยู่ตรงนั้นเยอะ มีงบ 1,200 ล้านบาทนั้น จะนำไปอบรมทั้งหมดหรืออย่างไร ขอให้ช่วยชี้แจง

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ความจริง 1,200 ล้านบาทนั้นไม่พอ โครงการโรค NCD แค่ 2 โรค 4.4 หมื่นล้านบาท และมีทำให้มีโรคอื่นๆ ตามมาอีก ย้ำว่าในจำนวน 1,200 ล้านบาทนั้นไม่เพียงพอ เพราะยังมีเรื่องของเครื่องมือต่างๆ และการบันทึกข้อมูลด้วย ทั้งนี้ WHO ยังไม่สามารถดำเนินการได้ มีเพียงประเทศไทยที่สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้มาฟัง นพ.วาโย อภิปราย เพราะมีงานที่เซ็นทรัลพระราม 2 ซึ่งจะมาตอบคำถามอีกครั้งในวันที่ 31 พฤษภาคม หรืออาจจะขอส่งเป็นเอกสารให้ นพ.วาโย หากต้องการ.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]