รัฐสภา 28 พ.ค.- “โรม” เห็นด้วย ทำสงครามยาเสพติด “ว้าแดง” ชี้ ควรเป็นหน้าที่นายกฯ เร่งทำ ไม่ใช่รอ “ทักษิณ” มาพูด ระบุ “ว้า” ไม่เกรงใจรัฐบาล เหตุมองไทยไร้น้ำยา ซัด พ่อควรหนุนบทบาทลูก ไม่ใช่ให้เป็นนอมินี
นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ารัฐบาลต้องทำสงครามยาเสพติดกับรัฐว้าแดง ว่า ยืนยันตามนั้น เพราะวันนี้ แหล่งยาเสพติดใหญ่ระดับโลกคือที่ว้า โดยเฉพาะยาเสพติดประเภทแอมเฟตามีน และยาบ้า ดังนั้นหากไม่ทำอะไร ยาเหล่านี้ก็จะแพร่ระบาดในเมืองไทย และแย่ลงแน่นอน เพราะวันนี้สถานะของประเทศไทยต่อเรื่องยาเสพติดมี 2 แบบ คือ 1.เป็นปลายทาง 2.เป็นฮับในการส่งออกไปประเทศอื่น นอกจากนี้ ว้าแดงก็มีพฤติกรรมไม่ได้เกรงใจรัฐบาลไทยหรือประชาชน เพราะธุรกิจที่พวกว้าทำคือเหมืองทอง เหมืองแร่แรร์เอิทร์ และปล่อยสารพิษลงแม่น้ำกกจนเกิดการชุมนุมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย แต่ถามว่าว้าหยุดไหม ก็ไม่หยุด เพราะเขารู้สึกว่าประเทศไทยจะไปทำอะไรเขาได้ เขาไม่คิดว่ารัฐบาลไทยจะมีน้ำยาอะไรไปดำเนินการ ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน แต่คำถามคือจะใช้มาตรการอะไร
ทั้งนี้ตนเห็นด้วย หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะไปคุยกับประเทศต่างๆ ในอาเซียน แต่ย้ำว่าต้องคุยกับประเทศจีนด้วย เพราะมีพรมแดนติดกับเมียนมา ส่วนกลุ่มว้า ต้องมีมาตรการไล่จากเบาไปหาหนัก สำคัญคือต้องมีการขีดเส้นตาย
เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ระบุว่า จะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวไปเจรจากับเพื่อนบ้าน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่รัฐบาล อยากให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำในเรื่องนี้ ตนเข้าใจว่านางสาวแพทองธารอาจจะขอคำปรึกษาจากนายทักษิณ เพราะเป็นพ่อลูกกัน แต่หากประชาชนไม่ได้ยินว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร และต้องมารอฟังจากนายทักษิณ คิดว่าประเทศเรามีปัญหา และคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ว้าไม่เกรงใจประเทศไทยหรือไม่ เพราะเขาไม่รู้สึกว่านางสาวแพทองธารมีความเป็นผู้นำเพียงพอที่จะแก้ปัญหาหรือทำอะไรเขาได้ ตนคิดว่านายทักษิณควรส่งเสริมบทบาทของลูกสาวตัวเองให้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแท้จริง ส่วนใครจะช่วยอะไรก็ขอให้วางบทบาทเป็นผู้หนุนนายกฯ ไม่ใช่ให้นายกฯเป็นนอมินี แล้วเอาตัวเองเป็นนายกแห่งความเป็นจริง.-315 -สำนักข่าวไทย