ก.ต่างประเทศ 23 พ.ค-“มาริษ” หารือ รมว.กต.สปป ลาว ยกระดับความร่วมมือ เพิ่มความเข้มข้นปราบปราม อาชญากรรมข้ามชาติ-ยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์ ร่วมกันผุดแนวคิดใช้สนามบินสะหวันนะเขต แทนการก่อสร้างสนามบินมุกดาหาร ระหว่างรอจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายทองสะหวัน พมวิหาน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป ลาว ระหว่างวันที่ 21-23 พ.ค. ว่า ได้ให้การต้อนรับ นายทองสะหวัน ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและลาวมีมาอย่างยาวนานและดีเยี่ยม แต่สิ่งที่ต้องกระชับ คือความร่วมมือเป็นพื้นฐานสำคัญ จะนำไปสู่ความร่วมมือที่ดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น วันนี้การหารือกันในบรรยากาศที่เป็นมิตรภาพอย่างแท้จริงและยั่งยืน
นายมาริษ กล่าวต่อว่า ประเด็นหลักที่ได้หารือกัน คือการติดตามความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ที่นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้หารือกันก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้มีการพูดคุยกันไว้ จะเป็นโอกาสสำคัญในการฉลองความสัมพันธ์ 75 ปีระหว่างไทยกับลาวในปีนี้ โดยได้มีการหารือเรื่องความมั่นคง ที่จะมีการเพิ่มความเข้มข้น ในการร่วมมือกันตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ที่จะป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามเส้นทางแนวชายแดน ซึ่งต้องตัดตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ รวมถึงเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ต้องร่วมมือการควบคุม หรือมอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ หลังจากที่เราได้มีการสั่งตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต และตัดน้ำมันไปแล้ว แต่ยังมีการลักลอบ ซึ่งมีการพูดคุยกันว่าจะร่วมมือในการป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนไหวของสินค้า ที่จะทำให้เกิดไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังได้หารือในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ, ระบบขนส่งคมนาคม ที่จะมีการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ, ระบบการขนส่งสินค้า หรือโลจิสติกส์ ที่ต้องการผ่องถ่ายสินค้าไปยังประเทศจีนและต้องผ่านประเทศลาว เพื่อเป็นการเชื่อมต่อกันทำให้การขนส่งเป็นไปด้วยความสะดวก นอกเหนือ จากการขนส่งแล้วก็จะต้องมีการทำธุรกิจโลจิสติกส์ร่วมกัน ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดนครพนมที่ผ่านมา ได้มีการเสนอรัฐบาลให้มีการก่อสร้างท่าอากาศยานมุกดาหาร แต่การสร้างสนามบินต้องการลงทุนมหาศาล แต่ตัวเลขผู้โดยสาร ยังมีปริมาณน้อย จึงมองถึงความเป็นไปได้ในการใช้สนามบินของเมืองสะหวันนะเขต เป็นการชั่วคราว ระหว่างที่รอจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการเดินทางจากกรุงเทพไปสะหวันนะเขต และจากสะหวันนะเขตข้ามกลับมาทางมุกดาหาร ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 5-10 นาที ทั้งนี้ หากในอนาคตมีการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นก็อาจจะมีท่าอากาศยานนานาชาติที่ฝั่งไทย โดยสามารถให้ฝั่งลาวนั้น สามารถข้ามมาใช้ได้เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการเชื่อมต่อเพียงระบบคมนาคม แต่เป็นการเชื่อมต่อของภาคประชาชนเข้าด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม การเดินทางเยือนประเทศไทยครั้งนี้ ของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป ลาว ทำให้ผลประโยชน์ของประเทศไทยและของประเทศลาว ได้รับการเอาใจใส่มากยิ่งขึ้น และมีแผนการที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้น นำไปสู่ภาคปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือว่าเป็นกรอบความร่วมมือกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างกัน และจะได้นำไปรายงานให้กับนายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายทราบต่อไป.-315.-สำนักข่าวไทย