ครม.เคาะโอนงบดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้าน กระจาย 4 โครงการ

ทำเนียบ 20 พ.ค.-นายกฯ เผย ครม.เคาะโอนงบแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้านบาท กระจาย 4 โครงการ ลงทุนน้ำ-คมนาคม-ท่องเที่ยว-ส่งออก ชี้มีปัญหาแทรกต้องคำนึงคนทั้งประเทศ ชะลอให้เงินคนบางกลุ่ม ลั่นไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่เป็นเหตุสุดวิสัย ให้ สส.ช่วยแจงประชาชน บอกหวังเศรษฐกิจดี กลับมาเดินหน้าต่อ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ตามมติคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประชุมครม.เห็นชอบ ทบทวนค่าใช้จ่ายงบปี 2568 ในส่วนของงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ได้มีการรับฟัง และข้อเสนอแนะจากหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ฯ ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก เมื่อรับฟังแล้วจึงจะจำเป็นต้องเร่งปรับนโยบายเศรษฐกิจที่มีความจำเป็นและเร่งด่วนเพื่อสร้างรากฐานการเติบโตในระยะยาว และการพัฒนาเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับแผนและเปลี่ยนเงินในส่วนงบกลางมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาบุคคล ระยะยาว กระทรวงการคลังจะมีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม


เมื่อถามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟสหนึ่ง เฟสสอง กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ และเฟสสาม เป็นเพราะไม่มีเงินหรือไม่ แล้วจะทำความเข้าใจกับประชาชนที่รอเงิน 10,000 นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเป้าหมายการค้าที่เศรษฐกิจของประเทศทั้งหมด ครั้งแรกกับครั้งที่สองจ่ายไปแล้วในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง แต่ขณะนี้เรื่องกำแพงภาษีสหรัฐก็ต้องพิจารณาทบทวนและได้ข้อเสนอจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย และสภาพัฒน์ ให้ ให้ทบทวนเรื่องนี้ใหม่ว่าเงินก้อนนี้จะสามารถใช้อะไรที่เป็นความจำเป็นและเร่งด่วนกว่าเรื่องการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยการเปลี่ยนรูปแบบการกระตุ้นและเรียงลำดับความสำคัญว่าอะไรที่เป็นความจำเป็นขณะนี้เพื่อเกิดผลต่อประเทศมากและสูงสุด

ส่วนการใช้คำว่าชะลอประชาชนจะยังหวังเงินดิจิทัล 10,000 ได้หรือไม่ หรือเพียงแค่ไม่กล้าพูดคำว่ายกเลิกเพราะมันกระทบถามเสียง นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ต้องพูดกันให้เข้าใจก่อนว่าตอนนี้ปัญหาที่เข้ามาแทรกคิดว่าประเทศไหนก็ ไม่มีใครอยากได้ปัญหานี้ เพราะฉะนั้นเงินก้อนนี้ทั้งก้อนเกิดประโยชน์สูงสุดที่ตรงไหนเราจะเน้นที่ตรงนั้นมากกว่า และที่เราไม่บอกว่ายกเลิกหากเรากลับมาทำอีกครั้งในสถานการณ์ที่ดีขึ้นและเศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว การกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบนี้จะได้ผลมากที่สุด เราก็มีความหวังว่าอะไรที่เป็นประโยชน์สูงสุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศก็ต้องได้ทำ ดังนั้นจากการทบทวนของคณะกรรมการฯมองว่าการจ่ายเงินดิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังไม่ใช่ตัวกระตุ้นที่ดีที่สุดเพราะฉะนั้นเราก็ต้องรับฟังและถามว่าตัวกระตุ้นไหนดีที่สุดสำหรับประเทศนั่นคือสิ่งที่เราทำอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีเรื่องกำแพงภาษีเข้ามา


เมื่อถามว่าการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในอนาคตอะไรที่สัญญาไว้แล้วแต่ไม่เป็นไปตามนั้นจะทำให้หาเสียงยากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยเวลาหาเสียง ก็ประเมินสถานการณ์ว่าเราทำได้จริง แต่ว่าไม่มีใครพูดถึงเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐที่จะขึ้นมาและเรื่องนี้ไม่มีประเทศไหนคาดคิดไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยอย่างเดียว ซึ่งเป็นสถานการณ์พิเศษซึ่งตัวเลขเปอร์เซ็นต์ภาษีที่ออกมาก็ทำให้ทุกคนตกใจกันหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่หากถามว่าทุกอันไม่สามารถทำไม่ได้จริงหรือไม่ ยืนยันว่าไม่จริง และได้ทำไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่ว่านโยบายนี้ทำไม่ได้เลยแต่มีสถานการณ์ที่แทรกเข้ามาเป็นสถานการณ์สุดวิสัย ไม่ใช่ว่าทำอยู่แล้วยกเลิก หรือว่าไม่ทำแล้วชะลอ เราก็ไม่ได้ชะลอ แต่สองครั้งที่เราทำมาผ่านความคิดเห็นและสามารถทำได้ แต่ครั้งนี้มีเหตุการณ์ใหม่คือเรื่องภาษีเข้ามามันผ่านไปได้ ความจริงก็แค่นั้นเอง

ส่วนที่ประชาชนผิดหวังจะต้องให้ สส.ไปทำความเข้าใจหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าแน่นอนจะต้องมีการทำความเข้าใจ แต่ถามว่าเงินก้อนนี้ไปไหน เรานำมาทำโครงสร้างพื้นฐานของประเทศใหม่ อย่างโครงการที่เสนอไปแล้ว เช่น เรื่องน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำท่วมน้ำแล้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากต่อประเทศทุกคนได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องการทำน้ำสะอาดที่จะได้ใช้ทุกพื้นที่ นี่คือความจำเป็นที่ต้องโยยกเงินก้อนนี้ไปทำตามที่คณะกรรมการลงความเห็นแล้วว่าต้องทำก่อนการจ่ายเงิน 10,000 ที่จะเกิดขึ้นกับเพียงบางกลุ่ม

เมื่อถามว่ามีความกังวลว่าการโยกเงิน 1.57 แสนล้าน จะสามารถรับมือกับกำแพงภาษีได้หรือไม่จะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เงินก้อนนี้ 1.57 แสน เป็นก่อนที่จะมาจากงบกลาง ซึ่งจะต้องใช้ให้หมดภายใน 30 กันยายน 2568 นี้ ไม่ใช่เงินในส่วนที่จะไปจัดการเรื่องกำแพงภาษี แต่ต่อสู้กับกำแพงภาษีเป็นเรื่องของนโยบายว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอะไร กับทางสหรัฐ และเราจะต้องมีส่วนของอัดฉีดเงินเข้าระบบหรือไม่ ต้องรอดูเพราะเป็นคนละเรื่องกัน


ดังนั้นจึงต้องวางแผนว่าระยะสั้นนี้ที่จะใช้เงินก่อนได้จะสร้างประโยชน์อะไรให้กับประชาชนได้บ้าง และหลัง 30 กันยายนเป็นต้นไป จะมีนโยบายใดบ้างในระยะกลางและระยะยาวเพื่อรองรับต่อจากเงินก้อนนี้ เพื่อไม่ให้เงินก้อนนี้ใช้แล้วหายไป ซึ่งต้องใช้เพื่อเป็นการลงทุนในก้อนแรกเพื่อต่อนโยบายระยะกลางและระยะยาวต่อไปนี่คือสิ่งที่ต้องทำ

เมื่อถามว่าในระหว่างที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ชะลอไป จะมีโครงการอะไรเพื่อมาชดเชยความรู้สึกของประชาชนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเงินที่เราจะลงเป็นโครงสร้างทั้งประเทศ ตรงนี้อาจจะไม่ได้ลงไปถึงรายบุคคลแต่เป็นภาพรวมทั้งประเทศจะได้ประโยชน์ร่วมกัน เรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือช่วยกันสื่อสารว่าเมื่อมีเรื่องแทรกเข้ามาทำให้ต้องชะลอเรื่องการให้เงินคนบางกลุ่มก่อน ตอนนี้ต้องเป็นภาพที่ต้องให้คนทั้งประเทศก่อน นี่คือสิ่งที่เราต้องเรียงลำดับความสำคัญ ส่วนเรื่องการชะลอ เพราะเราต้องทบทวน ว่าเงินก้อนนี้มันสำคัญจะต้องทำอะไรก่อนเพื่อกอบกู้การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจไว้

ส่วนเงินที่จะมาสู้กับกำแพงภาษีสหรัฐ อยู่ในงบ 1.57 ล้าน หรืออยู่ในส่วนของเงินที่กำลังพิจารณาจะออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในนี้มีส่วนหนึ่งที่อยู่ในก้อน 1.57 แสนล้านบาท แต่ส่วนที่จะเห็นชัดเป็นรูปธรรมคือต้องการให้เงินก้อนนี้ออกมาเป็นรูปธรรมได้ แต่ในส่วนของกำแพงภาษีก็จะมีเงินอีกก้อนหนึ่งที่เราใช้ รายละเอียดขอให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ชี้แจง

เมื่อถามว่าเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐมีนักธุรกิจรายใหญ่ของไทยไปพบ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เกี่ยวข้องกับดูที่นายกฯ เคยพูดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ไปจึงไม่ทราบว่าคุยอะไรกัน กับนักธุรกิจใหญ่บ้าง ซึ่งตนก็เคยบอกไปแล้วว่าเสียดายที่นายทักษิณไม่ได้ไป ไม่เช่นนั้นก็ได้คุยกันแล้ว

ส่วนจะมีการดึงตัวนาย สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารของกัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ มาช่วยเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าต้องทำตามระบบก่อน แต่เป็นนักธุรกิจไม่ว่าจะเป็นเจ้าไหน ถ้าจะเกิดประโยชน์ต่อรัฐบาล เชื่อว่าทุกฝ่ายคงความร่วมมือกันไม่ว่าจะธุรกิจใหญ่หรือธุรกิจเล็ก ถ้าสามารถช่วยรัฐบาลได้ก็ยินดี.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย