ครม.เคาะโอนงบดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้าน กระจาย 4 โครงการ

ทำเนียบ 20 พ.ค.-นายกฯ เผย ครม.เคาะโอนงบแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้านบาท กระจาย 4 โครงการ ลงทุนน้ำ-คมนาคม-ท่องเที่ยว-ส่งออก ชี้มีปัญหาแทรกต้องคำนึงคนทั้งประเทศ ชะลอให้เงินคนบางกลุ่ม ลั่นไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่เป็นเหตุสุดวิสัย ให้ สส.ช่วยแจงประชาชน บอกหวังเศรษฐกิจดี กลับมาเดินหน้าต่อ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ตามมติคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประชุมครม.เห็นชอบ ทบทวนค่าใช้จ่ายงบปี 2568 ในส่วนของงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ได้มีการรับฟัง และข้อเสนอแนะจากหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ฯ ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก เมื่อรับฟังแล้วจึงจะจำเป็นต้องเร่งปรับนโยบายเศรษฐกิจที่มีความจำเป็นและเร่งด่วนเพื่อสร้างรากฐานการเติบโตในระยะยาว และการพัฒนาเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับแผนและเปลี่ยนเงินในส่วนงบกลางมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาบุคคล ระยะยาว กระทรวงการคลังจะมีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม


เมื่อถามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟสหนึ่ง เฟสสอง กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ และเฟสสาม เป็นเพราะไม่มีเงินหรือไม่ แล้วจะทำความเข้าใจกับประชาชนที่รอเงิน 10,000 นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเป้าหมายการค้าที่เศรษฐกิจของประเทศทั้งหมด ครั้งแรกกับครั้งที่สองจ่ายไปแล้วในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง แต่ขณะนี้เรื่องกำแพงภาษีสหรัฐก็ต้องพิจารณาทบทวนและได้ข้อเสนอจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย และสภาพัฒน์ ให้ ให้ทบทวนเรื่องนี้ใหม่ว่าเงินก้อนนี้จะสามารถใช้อะไรที่เป็นความจำเป็นและเร่งด่วนกว่าเรื่องการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยการเปลี่ยนรูปแบบการกระตุ้นและเรียงลำดับความสำคัญว่าอะไรที่เป็นความจำเป็นขณะนี้เพื่อเกิดผลต่อประเทศมากและสูงสุด

ส่วนการใช้คำว่าชะลอประชาชนจะยังหวังเงินดิจิทัล 10,000 ได้หรือไม่ หรือเพียงแค่ไม่กล้าพูดคำว่ายกเลิกเพราะมันกระทบถามเสียง นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ต้องพูดกันให้เข้าใจก่อนว่าตอนนี้ปัญหาที่เข้ามาแทรกคิดว่าประเทศไหนก็ ไม่มีใครอยากได้ปัญหานี้ เพราะฉะนั้นเงินก้อนนี้ทั้งก้อนเกิดประโยชน์สูงสุดที่ตรงไหนเราจะเน้นที่ตรงนั้นมากกว่า และที่เราไม่บอกว่ายกเลิกหากเรากลับมาทำอีกครั้งในสถานการณ์ที่ดีขึ้นและเศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว การกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบนี้จะได้ผลมากที่สุด เราก็มีความหวังว่าอะไรที่เป็นประโยชน์สูงสุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศก็ต้องได้ทำ ดังนั้นจากการทบทวนของคณะกรรมการฯมองว่าการจ่ายเงินดิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังไม่ใช่ตัวกระตุ้นที่ดีที่สุดเพราะฉะนั้นเราก็ต้องรับฟังและถามว่าตัวกระตุ้นไหนดีที่สุดสำหรับประเทศนั่นคือสิ่งที่เราทำอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีเรื่องกำแพงภาษีเข้ามา


เมื่อถามว่าการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในอนาคตอะไรที่สัญญาไว้แล้วแต่ไม่เป็นไปตามนั้นจะทำให้หาเสียงยากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยเวลาหาเสียง ก็ประเมินสถานการณ์ว่าเราทำได้จริง แต่ว่าไม่มีใครพูดถึงเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐที่จะขึ้นมาและเรื่องนี้ไม่มีประเทศไหนคาดคิดไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยอย่างเดียว ซึ่งเป็นสถานการณ์พิเศษซึ่งตัวเลขเปอร์เซ็นต์ภาษีที่ออกมาก็ทำให้ทุกคนตกใจกันหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่หากถามว่าทุกอันไม่สามารถทำไม่ได้จริงหรือไม่ ยืนยันว่าไม่จริง และได้ทำไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่ว่านโยบายนี้ทำไม่ได้เลยแต่มีสถานการณ์ที่แทรกเข้ามาเป็นสถานการณ์สุดวิสัย ไม่ใช่ว่าทำอยู่แล้วยกเลิก หรือว่าไม่ทำแล้วชะลอ เราก็ไม่ได้ชะลอ แต่สองครั้งที่เราทำมาผ่านความคิดเห็นและสามารถทำได้ แต่ครั้งนี้มีเหตุการณ์ใหม่คือเรื่องภาษีเข้ามามันผ่านไปได้ ความจริงก็แค่นั้นเอง

ส่วนที่ประชาชนผิดหวังจะต้องให้ สส.ไปทำความเข้าใจหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าแน่นอนจะต้องมีการทำความเข้าใจ แต่ถามว่าเงินก้อนนี้ไปไหน เรานำมาทำโครงสร้างพื้นฐานของประเทศใหม่ อย่างโครงการที่เสนอไปแล้ว เช่น เรื่องน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำท่วมน้ำแล้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากต่อประเทศทุกคนได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องการทำน้ำสะอาดที่จะได้ใช้ทุกพื้นที่ นี่คือความจำเป็นที่ต้องโยยกเงินก้อนนี้ไปทำตามที่คณะกรรมการลงความเห็นแล้วว่าต้องทำก่อนการจ่ายเงิน 10,000 ที่จะเกิดขึ้นกับเพียงบางกลุ่ม

เมื่อถามว่ามีความกังวลว่าการโยกเงิน 1.57 แสนล้าน จะสามารถรับมือกับกำแพงภาษีได้หรือไม่จะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เงินก้อนนี้ 1.57 แสน เป็นก่อนที่จะมาจากงบกลาง ซึ่งจะต้องใช้ให้หมดภายใน 30 กันยายน 2568 นี้ ไม่ใช่เงินในส่วนที่จะไปจัดการเรื่องกำแพงภาษี แต่ต่อสู้กับกำแพงภาษีเป็นเรื่องของนโยบายว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอะไร กับทางสหรัฐ และเราจะต้องมีส่วนของอัดฉีดเงินเข้าระบบหรือไม่ ต้องรอดูเพราะเป็นคนละเรื่องกัน


ดังนั้นจึงต้องวางแผนว่าระยะสั้นนี้ที่จะใช้เงินก่อนได้จะสร้างประโยชน์อะไรให้กับประชาชนได้บ้าง และหลัง 30 กันยายนเป็นต้นไป จะมีนโยบายใดบ้างในระยะกลางและระยะยาวเพื่อรองรับต่อจากเงินก้อนนี้ เพื่อไม่ให้เงินก้อนนี้ใช้แล้วหายไป ซึ่งต้องใช้เพื่อเป็นการลงทุนในก้อนแรกเพื่อต่อนโยบายระยะกลางและระยะยาวต่อไปนี่คือสิ่งที่ต้องทำ

เมื่อถามว่าในระหว่างที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ชะลอไป จะมีโครงการอะไรเพื่อมาชดเชยความรู้สึกของประชาชนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเงินที่เราจะลงเป็นโครงสร้างทั้งประเทศ ตรงนี้อาจจะไม่ได้ลงไปถึงรายบุคคลแต่เป็นภาพรวมทั้งประเทศจะได้ประโยชน์ร่วมกัน เรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือช่วยกันสื่อสารว่าเมื่อมีเรื่องแทรกเข้ามาทำให้ต้องชะลอเรื่องการให้เงินคนบางกลุ่มก่อน ตอนนี้ต้องเป็นภาพที่ต้องให้คนทั้งประเทศก่อน นี่คือสิ่งที่เราต้องเรียงลำดับความสำคัญ ส่วนเรื่องการชะลอ เพราะเราต้องทบทวน ว่าเงินก้อนนี้มันสำคัญจะต้องทำอะไรก่อนเพื่อกอบกู้การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจไว้

ส่วนเงินที่จะมาสู้กับกำแพงภาษีสหรัฐ อยู่ในงบ 1.57 ล้าน หรืออยู่ในส่วนของเงินที่กำลังพิจารณาจะออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในนี้มีส่วนหนึ่งที่อยู่ในก้อน 1.57 แสนล้านบาท แต่ส่วนที่จะเห็นชัดเป็นรูปธรรมคือต้องการให้เงินก้อนนี้ออกมาเป็นรูปธรรมได้ แต่ในส่วนของกำแพงภาษีก็จะมีเงินอีกก้อนหนึ่งที่เราใช้ รายละเอียดขอให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ชี้แจง

เมื่อถามว่าเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐมีนักธุรกิจรายใหญ่ของไทยไปพบ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เกี่ยวข้องกับดูที่นายกฯ เคยพูดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ไปจึงไม่ทราบว่าคุยอะไรกัน กับนักธุรกิจใหญ่บ้าง ซึ่งตนก็เคยบอกไปแล้วว่าเสียดายที่นายทักษิณไม่ได้ไป ไม่เช่นนั้นก็ได้คุยกันแล้ว

ส่วนจะมีการดึงตัวนาย สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารของกัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ มาช่วยเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าต้องทำตามระบบก่อน แต่เป็นนักธุรกิจไม่ว่าจะเป็นเจ้าไหน ถ้าจะเกิดประโยชน์ต่อรัฐบาล เชื่อว่าทุกฝ่ายคงความร่วมมือกันไม่ว่าจะธุรกิจใหญ่หรือธุรกิจเล็ก ถ้าสามารถช่วยรัฐบาลได้ก็ยินดี.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” สีหน้ายิ้มแย้ม เครื่องบินส่วนตัวแลนดิ้งดอนเมือง

ดอนเมือง 8 ก.ย.-เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” แลนดิ้งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดย “ทักษิณ” มีใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร 8 ก.ย.68 บริเวณทางเข้าออกลานจอดเครื่องบินส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง พบสื่อมวลชนเดินทางมาติดตามบรรยากาศเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับแจ้งข้อมูลเรดาร์เครื่องบินส่วนตัวรุ่น Bombardier Global 7500 ออกเดินทางจากสนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.54 น. ที่ผ่านมา เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ลงจอดบริเวณสนามบินส่วนตัว ประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกหนัก ขณะที่นายทักษิณ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ก่อนจะขึ้นรถเบนซ์แล่นออกจากสนามบินไป พร้อมกับรถยนต์และรถตู้อีกคัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ มีผู้โดยสารเดินทางมา 6 คน โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมชาย ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับผู้ติดตาม.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 8 ก.ย.- โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน “ไผ่ ลิกค์-สัมพันธ์” หลุดโผ กล้าธรรมดัน “นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ-อามินทร์” เสียบแทน รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจากนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อนั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง สำหรับการจัด ครม.ครั้งนี้ มีการใช้รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม […]

“แพทองธาร” บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความยินดี “อนุทิน” ตั้งแต่วันแรก

พรรคเพื่อไทย 8 ก.ย.- “แพทองธาร” เข้าพรรคเพื่อไทย บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความแสดงความยินดี “อนุทิน” นั่งนายกตั้งแต่วันแรก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้ทักทายสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าสบายดีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า สบายดีค่ะ เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ถามกลับว่า วันนี้หรือเดี๋ยวรอดูแล้วกัน แต่ว่ากลับมาแน่นอน เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร จะไปรอรับด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงไม่ได้ไปรับ พอดีวันนี้ติดงานตอนบ่ายจึงไม่ได้ไป เมื่อถามว่า ตอนนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกฯ มีอะไรฝากถึงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ส่งข้อความไปยินดีเรียบร้อยแล้ว ส่งตั้งแต่วันแรกเลย ส่วนวันนี้ที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยมีประชุมอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และขึ้นด้านบนอาคารทันที .-316 […]

จันทรุปราคา

ชาวตรังแห่ชม จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย

ตรัง 8 ก.ย.- ชาวตรังตื่นตา ชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่ำคืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ชาวตรังรวมตัวกันที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาตรัง ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เพื่อเฝ้าชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่เกิดขึ้นระหว่างเวลา 00.31 – 01.53 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้มีฝนโปรยปรายลงมาบางช่วง แต่ประชาชนไม่พลาดเก็บภาพความสวยงามของพระจันทร์สีแดงอิฐ พร้อมกันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด คืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ท้องฟ้าเหนือจังหวัดตรัง ปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนชาวตรัง โดยเฉพาะที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง มีประชาชนออกมาเฝ้าชมและบันทึกภาพพระจันทร์ที่ถูกเงาโลกบังจนกลายเป็นดวงจันทร์สีแดงอิฐ สวยงามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ช่วงเวลาสำคัญเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 00.31 น. ซึ่งเป็นจังหวะที่พระจันทร์ถูกเงาโลกบังทั้งดวง มองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า […]