ศึกษาผลกระทบอุปสรรคการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป

รัฐสภา ​27 มี.ค.- “กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ” หารือ กต.-พาณิชย์ ศึกษาผลกระทบจากอุปสรรคการเจรจา FTA ไทย – สหภาพยุโรป หลังไทยโดนประณามส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ด้านตัวแทนหอการค้ายืนยันไทยได้เดินตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ ปกป้องมนุษยชน จึงไม่ควรนำประเด็นนี้มาอยู่ในกรอบของ FTA


นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) พัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวก่อนการประชุมเรื่อง “ผลกระทบจากอุปสรรคในการเจรจา FTA ไทย – สหภาพยุโรป การยกระดับมาตรการกีดกันทางการค้า และสงครามการค้า ต่อเศรษฐกิจไทย” ว่า การเชิญกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหอการค้าและสมาพันธ์เอสเอ็มอี มาสอบถาม และรับทราบมุมมองว่าเหตุการณ์ส่งอุยกูร์กับประเทศจีนผลกระทบอย่างไรบ้าง เพราะเบื้องต้นคาดว่ามีผลกระทบไม่มากก็น้อยในมิติการค้าระหว่างประเทศที่สหภาพยุโรปมีมติประณามไทย ซึ่งจะมีการสอบถามถึงผลกระทบต่อการทำข้อตกลงทั้ง เอฟทีเอไทย-อียู ที่เดิมรัฐบาลบอกว่าจะเสร็จในสิ้นปีนี้ จะมีการชะลอการลงนามหรือไม่ และยังมีประเด็นที่ไทยกำลังอยู่ในกระบวนการเข้าเป็นประเทศสมาชิก OECD ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบด้วยหรือไม่ รวมถึงจะส่งผลกระทบต่อกรณีที่ทางสหรัฐฯเตรียมออกบัญชีรายชื่อประเทศ ที่จะขึ้นภาษีอากรนำเข้าสินค้า และจะมีผลกระทบกับ การค้าระหว่างไทยกับประเทศมุสลิมต่างๆด้วยหรือไม่

เมื่อถามว่ารัฐบาลระบุว่าได้เชิญทูตยุโรปมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วสามารถช่วยได้หรือไม่ นายสิทธิพลกล่าวว่า รัฐบาลพยายามทำให้ผลกระทบเกิดขึ้นน้อยที่สุด แต่การที่เราเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาในวันนี้ ก็จะทำให้เราเข้าใจมากขึ้นและมองเห็นว่าปัจจุบันถึงขั้นตอนไหนแล้ว


ส่วนกลุ่มประเทศ OECD ไทย อาจจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกได้ยากเพราะติดในเรื่องปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น นั้น ตนมองว่าทางประเทศกลุ่มยุโรปให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพต่างๆก็คงต้องหารือกันว่า กลุ่มประเทศOECDมองว่าการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนมีผลกระทบกับด้านสวัสดิภาพเขามากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำให้ทั่วโลกมั่นใจว่าไม่กระทบกับสิทธิเสรีภาพของชาวอุยกูร์

เมื่อถามว่าเรื่องการส่งชาวอุยกูร์กับประเทศควรจะต้องมีหน่วยงานไหนรับผิดชอบเป็นหลักหรือไม่ นายสิทธิพล กล่าวว่า สมควรอย่างยิ่งแม้รัฐบาลจะพยายามย้ำว่าการส่งกลับชาวอุยกูร์ในครั้งนี้พิจารณาอย่างรอบด้านแล้วและเป็นประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย แต่ในอนาคตผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในมิติเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมควรที่รัฐบาลจะต้องเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะในสงครามการค้าที่จะเกิดขึ้น แม้ว่าไม่มีเรื่องนี้สงครามการค้าก็จะกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรงเพราะเราเป็นคู่ค้ากับสหรัฐฯในลำดับที่ 10 เราเกินดุลมาตลอดเราอยู่ในลิสต์อยู่แล้ว สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มมีแนวโน้มซ้ำเติมสงครามการค้าให้รุนแรงขึ้น

พร้อมกันนี้ นายสิทธิพล ให้ข้อเสนอแนะกับเรื่องนี้ว่ารัฐบาลจำเป็นต้องกำหนดยุทธศาสตร์อย่างจริงจังทั้งในมิติของสงครามการค้าและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากเอฟทีเอ-ไทยสหภาพยุโรป ไม่สามารถเซ็นข้อตกลงได้ภายในปีนี้ตามที่รัฐบาลคาดหวัง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุม
ตัวแทนหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ให้ข้อมูล เกี่ยวกับข้อกังวลและสัญญาณจากกรณีที่เกิดขึ้น จากการค้าต่างประเทศ ประเทศไทยได้ รับการยอมรับว่ามีความมุ่งมั่น ในการปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในกลุ่มเอกชน ตั้งแต่มีปัญหาเรื่อง IUU เทียร์3 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และเมื่อ2 สัปดาห์ก่อนได้จัดวงเสวนามีตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศด้านเศรษฐกิจเข้ามาร่วมไม่ได้มีการพูดถึงประเด็น “อุยกูร์“ จึงขอเป็นเรื่องการเมือง
เศรษฐกิจ

และจากที่ทราบหน่วยงานเอกชนต่างๆของต่างประเทศไม่ได้มีข้อห่วงกังวลแนะนำในเรื่องดังกล่าว ในการทำธุรกิจ และยืนยันว่าได้ทำตามแนวทางของยูเอ็นมาโดยตลอด ซึ่งทางหัวหน้าส่วนของ IUU เอง เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศต้นแบบของอาเซียนได้ และทางหอการค้ามั่นใจว่าสามารถตอบคำถามได้ทุกประเด็นได้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ทั้งอเมริกาและยุโรป หรือผู้ค้าด้วยกันเองก็ไม่ได้มีข้อสงสัยในประเด็นดังกล่าว

”หลักการหอการค้าเรื่องอุยกูร์ ทำตามยูเอ็นแนะนำ ในการปกป้องสิทธิมนุษยชนทุกประเทศ ก็มีสิทธิในการส่งชาวต่างด้าวกับประเทศ เป็นปกติ ไม่ว่าที่อเมริกาหรือยุโรป เพราะในอเมริกาในวันนี้ก็มีหลายเคส ที่ต่างชาติมีปัญหาเรื่องออริจิ้น เป็นเรื่องปกติ ปัจจุบันทางยุโรปโดยเฉพาะฝรั่งเศสเป็นประเทศต้นแบบของสิทธิมนุษยชนก็มีปัญหากับประเทศอัลจีเรีย“ ตัวแทนหอการค้ากล่าว

ตัวแทนหอการค้ากล่าว ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าหากยืนยันในกรอบกฎหมายระหว่างประเทศและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งภาคเอกชนได้มีการอธิบายซึ่งมีคำถามเกิดเกิดขึ้นน้อยมากในเรื่องนี้ และได้อธิบายว่าไทยได้เดินตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ ในการปกป้องมนุษยชน และส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรนำประเด็นนี้มาอยู่ในกรอบของ ข้อตกลงเสรีทางการค้า FTA เพราะยุโรปและไทยมีความต้องการในฐานเดียวกันใน ข้อตกลงเสรีทางการค้า 2 ฝ่าย โดยเฉพาะภาคเอก และสถานการณ์ปัจจุบัน เมื่อคืนเพิ่งประกาศภาษี 25% กระทบหนักมากโดยเฉพาะเยอรมนี.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]