“อิทธิพร” เผยมี 27 คำร้องเข้าข่ายฮั้วเลือก สว.

แจ้งวัฒนะ 20 มี.ค.-“อิทธิพร” ประธาน กกต. เผยมี 27 คำร้องเข้าข่ายฮั้วเลือก สว. ยันดีเอสไอตั้งสอบฟอกเงิน สว.ไม่กระทบไทม์ไลน์การทำงานของ กกต. เชื่อเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน ยันทำไม่ช้า แต่ต้องไม่กระทบกระบวนการยุติธรรม มอง สว.สำรองร้อง 157 เลขาฯ กกต. เป็นสิทธิ แต่ กกต.ทำตามกฎหมายชี้แจงได้

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนการฮั้วเลือก สว.ที่หลายฝ่ายอยากให้ดำเนินการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ว่า กกต.ดำเนินการไม่ชักช้า จะพยายามรีบเร่ง แต่ต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนเกี่ยวทั้งผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง เปิดโอกาสให้ได้รับทราบและชี้แจ้งข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน การตรวจสอบบางครั้งใช้เวลาเพราะเกี่ยวข้องกับหลายคน หากมีพยานหลายคน หรือมีข้อสงสัย มีผู้เกี่ยวข้องเยอะเป็นร้อยคนก็ต้องใช้เวลา ถ้าไปสรุปก็จะไม่ได้รับความยุติธรรม หรือถ้าเร่งดำเนินการและเรื่องมาถึงสำนักงาน เลขาฯกกต.เห็นว่าการสอบสวนไม่ครบถ้วน อาจจะสั่งให้ไปสอบเพิ่มเติม เมื่อมาถึงคณะอนุกรรมการไต่สวน ก็อาจจะบอกว่าประเด็นนี้ยังไม่มีความชัดเจนอาจให้ไปทำเพิ่ม มาถึง กกต.ก็มีหลายกรณีที่บอกว่าต้องไปสอบเพิ่มอีก ซึ่งกระบวนการก็จะเร่งรัดอยู่เสมอว่าทำโดยไม่ชักช้า แต่ไม่กระทบสิทธิผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง


เมื่อถามว่าระยะเวลาในการเลือก สว.ผ่านมาเป็นระยะเวลานาน จะเป็นอุปสรรคหรือมีข้อจำกัดในการรวบรวมพยานหลักฐานในการตรวจสอบการฮั้ว สว.ด้วยหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต.เริ่มรับคำร้อง หลังการเลือกระดับอำเภอเมื่อ 9 มิ.ย.2567 เมื่อรับเรื่องกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานก็เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น แต่ถ้าเมื่อมาร้องหลังการเลือก สว. การรวบรมพยานหลักฐานก็จะยากขึ้น หากมีพยานบุคคลที่ต้องสอบเยอะก็ต้องใช้เวลา เพราะถ้าไม่ครบจะไม่เกิดความยุติธรรมกับใคร

เมื่อถามอีกว่า คณะสว.สำรองไปร้องให้ตรวจการทำหน้าที่ของนายแสวง บุญมี เลขา กกต. ตามมาตรา 157 นายอิทธิพร กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของทุกคน เพราะว่า กกต.ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการ หรือสำนักงาน เจ้าหน้าที่ ถ้าปฏิบัติหน้าที่แล้วคนอื่นหรือใครก็ตาม ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเห็นว่าปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง ก็เป็นสิทธิของเขาที่จะใช้สิทธิ หากทำตามกฎหมายก็สามารถชี้แจงได้


เมื่อถามว่ากรณีการตรวจสอบการฮั้ว สว. ไม่ใช่ถือเรื่องไว้ ให้ผ่านไปปีนึง แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ยกเรื่องไปใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่าทุกอย่างที่ทำอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น

ส่วนกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษจะตรวจสอบ จะทำให้การทำงานของกกต.ล่าช้าหรือไม่ หรือยังอยู่ในกรอบเวลา นายอิทธิพร ระบุว่า อำนาจหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวน การกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย สว. เป็นหน้าที่ของ กกต. การกระทำใดที่เป็นความผิดตามกฎหมายอื่นก็เป็นหน้าที่หน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่รักษากฎหมาย จะไม่เกี่ยวกัน

เมื่อถามย้ำว่าการดำเนินการจะไม่ล่าช้าไปกว่าดีเอสไอ เพราะดีเอสไอเพิ่งตั้งเรื่อง ถ้าเขาเสร็จก่อนจะไม่เป็นการเสียหน้าใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ดีเอสไอเพิ่งแจ้งให้ กกต.ทราบว่ามีผู้มาร้อง เกี่ยวกับการกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย สว. กกต.ก็มาดูว่าเรามีมติให้รับมาทำเอง เรารับด้วยเหตุผลที่ว่าความปรากฎต่อ กกต.มีผู้มาร้องต่อดีเอสไอ จึงรับมาทำเอง ด้วยเหตุความปรากฎตามกฎหมาย และ กกต.ก็สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ดีเอสไอทำนำมารวมกันกับที่ กกต.พิจารณา ซึ่งมี 3 เรื่องที่อยู่กับดีเอสไอ โดยคำร้องการเลือกสว.ฝ่าฝืนตามมาตรา 77 (1) หรือที่เรียกว่าฮั้ว มีผู้มาร้องต่อ กกต.ทั้งสิ้น 220 เรื่อง และ กกต.จะรับจากดีเอสไออีก 3 เรื่อง เมื่อรับมาแล้วก็ตั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเป็นคณะสืบสวนไต่สวนร่วมกับ กกต.ด้วย เมื่อทำเช่นนี้แล้วก็มีความมั่นใจ ว่ากระบวนการไม่ได้เริ่มต้นจากหนึ่ง แต่จะดำเนินการต่อเนื่องจาก 3 เรื่อง ของดีเอสไอ


เมื่อถามว่าคำร้อง 220 เรื่อง มีหลักฐานอะไรที่จะมองได้ว่าเป็นการฮั้ว สว. นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องยังไม่ถึงที่ประชุม กกต. บางเรื่องก็มาถึงแล้ว แต่หลักฐานไม่ชัดเจน ยังไม่ถึงขั้นจะเป็นการฮั้ว แต่ดูแล้วเรื่องที่จะเข้าข่ายการฮั้วมี 27 เรื่อง แต่เรื่องยังมาไม่ถึงที่ประชุม กกต. เมื่อมาถึงแล้ว กกต.ก็สามารถพูดได้ว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอในการตัดสินหรือไม่ จะต้องสอบสวนต่อ เพราะถ้าเป็นการฮั้วก็จะทราบดีว่าจะทำเป็นกระบวนการใช้คนเยอะ ดังนั้นพยานบุคคล และผู้สอบก็มีเยอะ ถ้าสอบสวนมีการนัดแล้ว แต่เจ้าตัวไม่สะดวกก็ต้องนัดใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะต้องใช้เวลา แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ช้าต้องทำให้เร็ว เพราะ กกต.กำหนดกรอบเวลาไว้แล้ว ก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้แล้วเสร็จด้วยความรวดเร็ว แต่บางครั้งก็ไม่สามารถทำให้เสร็จเร็วได้ เพราะจะกระทบกับความยุติธรรม ส่วนเรื่องการกันบุคคลไว้เป็นพยาน หรือขอความคุ้มครอง ขณะนี้ยังไม่มีพยานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือก สว. และไม่คิดว่าจะมี เพราะถ้ามีต้องเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ให้ความเห็นชอบ ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็น.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]