ผบ.ทสส. ถกบอร์ด ปชด. นัดแรก ปูทางส่งกลับคนจีน

กองทัพไทย 5 มี.ค.- ผบ.ทสส. ถกบอร์ด ปชด. นัดแรก ปูทางส่งกลับคนจีน คลายยาแรง ตัดไฟฟ้า-น้ำมัน เมียนมา โต้ใช้ กองทัพ ออกโรงปราบส่วยชายแดน หลังทหารถูกข่มขู่ เผย ผบ.ตร. ปรับจูนตำรวจ ห้ามมีอีก ย้ำ ทุกกระทรวง ทบวง กรม ให้หยุด


พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะ ประธานกรรมการ ปชด. ได้ประชุมนัดแรก โดยมี พลเอก ธิติชัย เทียนทอง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ,นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย,พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานกรรมการ ปชด. พร้อมตัวแทนในคณะกรรมการเข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง

ภายหลังมี คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 83/2568 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือคณะกรรมการ ปชด. ในการสนับสนุนรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และภัยคุกคามอื่น ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงชายแดน


พลเอก ทรงวิทย์ กล่าวถึงผลการประชุมว่า ภารกิจแรกศูนย์ การสร้างองค์กรที่ทำงานร่วมกัน ผ่านการประสานสอดคล้องกัน ในวันที่ 6 -9มีนาคมนี้ ทางการจีนจะมีการส่งเครื่องบินมารับเหยื่อแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ผ่านชายแดนไทยที่จังหวัดตาก ดังนั้นศูนย์นี้จะประสานงาน ตั้งแต่รับตัวจากฝั่งเมียนมา และเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้องตามกฏหมายไทย และส่งตัวขึ้นเครื่องบิน

ส่วนภารกิจที่สองคือการประเมินว่ามาตรการตัดไฟ ตัดน้ำมัน เมียนมาได้ผลมากน้อยเพียงใด ส่วน อินเทอร์เน็ตได้มอบให้กสทช. ดูว่าหลังตัดอินเตอร์เน็ตแล้วสัญญาณที่ส่งข้ามมายังประเทศไทยสามารถวัดได้หรือไม่จะมีการปฏิบัติการหรือใช้อินเตอร์เน็ตจากฝั่งไทยอีกหรือไม่ และ การช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรม ซึ่งทางเมียนมาได้มีการขอผ่านทางที่ประชุมไตรภาคี กรณีโรงพยาบาล ซึ่งคณะกรรมการนี้ก็จะพิจารณา แล้วส่งข้อมูลทั้งหมดไปยังรัฐบาล ว่าจะอนุมัติหรือไม่

พล.อ.ทรงวิทย์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนล่าสุด มีการลักรอบข้ามแดน หลังจากที่ฝั่งเมียนมารับ เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีจำนวนมากกว่า 7,000 คนไม่ไหว ว่า ขณะนี้ได้ตรึงกำลังไว้อย่างดี แต่สิ่งที่เป็นห่วงหากเขาเดือดร้อนจากมาตรการฝั่งไทยจะแตกกระจายออกมา และการควบคุมก็จะยากขึ้น ดังนั้นตนเองจึงขอให้ ผบ.ทบ. สั่งการให้กองกำลังป้องกันแนวชายแดน เจรจากองกำลังที่ควบคุมเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้อยู่ในพื้นที่ ส่วนไทยพยายามแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด
แต่ขออย่าสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น


ในขณะนี้การสอบสวนทางฝั่งเมียนมาร่วมกับจีนได้ดำเนินไปแล้วกว่า 3,000 คนและพร้อมที่จะส่งออกในห้วงวันที่6- 9 มีนาคมนี้ประมาณ 1,400 คน พร้อมกันนี้ตนก็ได้มีการขอให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) เป็นเสาหลักในการทำขบวนการเนรเทศ ไทยสามารถรับได้จำนวนกี่คนต่อวัน ซึ่งจะต้องเป็นข้อมูลจริงที่มีนำไปพูดคุยกับต่างชาติ ว่าจะไม่สามารถ ที่จะเร่งรัดขั้นตอนได้ เพราะต้องเป็นไปตามกฎหมายไทยหากเร่งรัดเจ้าหน้าที่ก็อาจจะเข้าข่ายมาตรา 157 ได้

เมื่อถามว่า ศูนย์นี้ดำเนินการตัดวงจรส่วยชายแดนด้วยหรือไม่ พลเอก ทรงวิทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อประเมินประสิทธิภาพของข้าราชการวันนี้ ผบ.ตร.ได้พูดชัดว่า ได้เข้าไปปรับกระบวนทัศน์ของตำรวจที่ทำงานในเรื่องนี้ทั้งหมด ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้กรมตำรวจจะไม่ยอมรับอีกต่อไป ประพฤติมิชอบและทำให้เกิดภัยคุกคามต่อประเทศ และได้มีการแสดงตัวอย่างของการลงโทษของเจ้าหน้าที่และมีอีกจำนวนมาก ตนขอให้แต่ละกระทรวง ทบวง กรมได้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของตนเองด้วยว่าสิ่งไหนที่เคยกระทำผิดวันนี้ต้องหยุด มิเช่นนั้นปัญหาเหล่านี้ก็จะกลับมาอีกในระยะยาว และเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นแผนระยะยาว เพราะอยู่ในข้อของการตรวจสอบประสิทธิภาพขององค์กรที่ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะตามแนวชายแดนทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดตาก

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าตำรวจข่มขู่ทหารในพื้นที่จึงต้องมีการตั้งคณะกรรมการปชด. โดยให้กองทัพคุม เพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าวว่า ในเรื่องประเด็นที่ทหารถูกตำรวจในพื้นที่ข่มขู่ตน ยังไม่ทราบรายละเอียด ส่วนการจัดตั้งคณะกรรมปชด. ที่มีผู้ช่วยผู้จัดการทหารสูงสุดเป็นประธาน โครงสร้างเดิม ที่เคยมีอยู่ในยุคของนายทักษิณ ชินวัตร และในยุคของพล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็เคยใช้โครงสร้างนี้แก้ไขปัญหาแพร่ระบาดโควิดตามแนวชายแดน

ส่วนปัญหาที่ฝั่งกัมพูชา พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าวว่าก็ยังอยู่ในความรับผิดชอบแต่วันนี้ไม่ได้มีวาระที่พูดถึง แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับว่า คนไทยที่พัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งกัมพูชามีมากกว่านี้ แต่เมื่อคลี่คลายปัญหาในฝั่งเมียวดีแล้ว คณะกรรมการนี้ก็ต้องไปดูที่จุดอื่นๆ ตามแนวชายแดน เช่น การแก้ไขปัญหาในฝั่งกัมพูชา หากจำเป็นต้องตั้งศูนย์ก็สามารถดำเนินการได้

สำหรับการประสานงานกับผู้นำชุมชนกลุ่มน้อย ที่ดูแล บุคคลสัญชาติต่างๆ ที่จะส่งกลับ ประเทศต้นทางนั้น ในที่ประชุม ตนได้ขออนุญาติ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นรองประธาน ศอป.ชด. ให้สั่งการกองกำลังชายแดน เพื่อไปประสานกับกองกำลังที่ควบคุมบุคคล สัญชาติสัญชาติต่างๆ ที่จะส่งกลับ ซึ่งการพูดคุยก็ไม่ได้มีกลุ่มเดียว ซึ่งทางกองกำลังชายแดนถือว่าเป็นข้อต่อในการสื่อสาร

“ในขณะเดียวกัน ก็ต้องติดต่อประสานงานกับทางรัฐบาลเมียนมาด้วย ตามช่องทาง TBC เป็นการพูดคุยกับตัวแทน รัฐบาลเมียนมาในจังหวัดเมียวด้วย ว่าในเบื้องต้นมีชาติที่ประสานงานมาเพื่อขอรับตัวบุคคลสัญชาติของตัวเองส่งกลับประเทศอีกหรือไม่ โดยตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าประชุมในวันนี้ตนได้ให้แจ้งให้ทำตาราง ว่ามีชาติใดประสานกลับมาแล้วบ้าง และจะรับตัว บุคคลสัญชาติตัวเองกลับเมื่อใด และได้กลับกี่คน อย่างไรก็ตามกระบวนการส่งกลับจะเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับขบวนการของเรา ซึ่งต้องที่ต้องมีการสอบสวนขยายผล”

สำหรับการสู้รบระหว่างชนกลุ่มน้อยและรัฐบาลเมียนมา เป็นการสู้รบโดยใช้กำลังทางอากาศ นั้นจากการประเมินสถานการณ์ ยังไม่มีผลกระทบในการส่งกลับบุคคลสัญชาติต่างๆเหล่านี้ โดยในวันพรุ่งนี้(6 มี.ค.) ศอป.ชด.ส่วนหน้า จะลงพื้นที่เป็นวันแรก เพื่อจะได้รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมให้มากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้เห็นว่าสถานการณ์พื้นที่เป็นอย่างไร -313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]