ผบ.ทสส. ถกบอร์ด ปชด. นัดแรก ปูทางส่งกลับคนจีน

กองทัพไทย 5 มี.ค.- ผบ.ทสส. ถกบอร์ด ปชด. นัดแรก ปูทางส่งกลับคนจีน คลายยาแรง ตัดไฟฟ้า-น้ำมัน เมียนมา โต้ใช้ กองทัพ ออกโรงปราบส่วยชายแดน หลังทหารถูกข่มขู่ เผย ผบ.ตร. ปรับจูนตำรวจ ห้ามมีอีก ย้ำ ทุกกระทรวง ทบวง กรม ให้หยุด


พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะ ประธานกรรมการ ปชด. ได้ประชุมนัดแรก โดยมี พลเอก ธิติชัย เทียนทอง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ,นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย,พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานกรรมการ ปชด. พร้อมตัวแทนในคณะกรรมการเข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง

ภายหลังมี คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 83/2568 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือคณะกรรมการ ปชด. ในการสนับสนุนรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และภัยคุกคามอื่น ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงชายแดน


พลเอก ทรงวิทย์ กล่าวถึงผลการประชุมว่า ภารกิจแรกศูนย์ การสร้างองค์กรที่ทำงานร่วมกัน ผ่านการประสานสอดคล้องกัน ในวันที่ 6 -9มีนาคมนี้ ทางการจีนจะมีการส่งเครื่องบินมารับเหยื่อแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ผ่านชายแดนไทยที่จังหวัดตาก ดังนั้นศูนย์นี้จะประสานงาน ตั้งแต่รับตัวจากฝั่งเมียนมา และเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้องตามกฏหมายไทย และส่งตัวขึ้นเครื่องบิน

ส่วนภารกิจที่สองคือการประเมินว่ามาตรการตัดไฟ ตัดน้ำมัน เมียนมาได้ผลมากน้อยเพียงใด ส่วน อินเทอร์เน็ตได้มอบให้กสทช. ดูว่าหลังตัดอินเตอร์เน็ตแล้วสัญญาณที่ส่งข้ามมายังประเทศไทยสามารถวัดได้หรือไม่จะมีการปฏิบัติการหรือใช้อินเตอร์เน็ตจากฝั่งไทยอีกหรือไม่ และ การช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรม ซึ่งทางเมียนมาได้มีการขอผ่านทางที่ประชุมไตรภาคี กรณีโรงพยาบาล ซึ่งคณะกรรมการนี้ก็จะพิจารณา แล้วส่งข้อมูลทั้งหมดไปยังรัฐบาล ว่าจะอนุมัติหรือไม่

พล.อ.ทรงวิทย์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนล่าสุด มีการลักรอบข้ามแดน หลังจากที่ฝั่งเมียนมารับ เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีจำนวนมากกว่า 7,000 คนไม่ไหว ว่า ขณะนี้ได้ตรึงกำลังไว้อย่างดี แต่สิ่งที่เป็นห่วงหากเขาเดือดร้อนจากมาตรการฝั่งไทยจะแตกกระจายออกมา และการควบคุมก็จะยากขึ้น ดังนั้นตนเองจึงขอให้ ผบ.ทบ. สั่งการให้กองกำลังป้องกันแนวชายแดน เจรจากองกำลังที่ควบคุมเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้อยู่ในพื้นที่ ส่วนไทยพยายามแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด
แต่ขออย่าสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น


ในขณะนี้การสอบสวนทางฝั่งเมียนมาร่วมกับจีนได้ดำเนินไปแล้วกว่า 3,000 คนและพร้อมที่จะส่งออกในห้วงวันที่6- 9 มีนาคมนี้ประมาณ 1,400 คน พร้อมกันนี้ตนก็ได้มีการขอให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) เป็นเสาหลักในการทำขบวนการเนรเทศ ไทยสามารถรับได้จำนวนกี่คนต่อวัน ซึ่งจะต้องเป็นข้อมูลจริงที่มีนำไปพูดคุยกับต่างชาติ ว่าจะไม่สามารถ ที่จะเร่งรัดขั้นตอนได้ เพราะต้องเป็นไปตามกฎหมายไทยหากเร่งรัดเจ้าหน้าที่ก็อาจจะเข้าข่ายมาตรา 157 ได้

เมื่อถามว่า ศูนย์นี้ดำเนินการตัดวงจรส่วยชายแดนด้วยหรือไม่ พลเอก ทรงวิทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อประเมินประสิทธิภาพของข้าราชการวันนี้ ผบ.ตร.ได้พูดชัดว่า ได้เข้าไปปรับกระบวนทัศน์ของตำรวจที่ทำงานในเรื่องนี้ทั้งหมด ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้กรมตำรวจจะไม่ยอมรับอีกต่อไป ประพฤติมิชอบและทำให้เกิดภัยคุกคามต่อประเทศ และได้มีการแสดงตัวอย่างของการลงโทษของเจ้าหน้าที่และมีอีกจำนวนมาก ตนขอให้แต่ละกระทรวง ทบวง กรมได้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของตนเองด้วยว่าสิ่งไหนที่เคยกระทำผิดวันนี้ต้องหยุด มิเช่นนั้นปัญหาเหล่านี้ก็จะกลับมาอีกในระยะยาว และเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นแผนระยะยาว เพราะอยู่ในข้อของการตรวจสอบประสิทธิภาพขององค์กรที่ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะตามแนวชายแดนทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดตาก

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าตำรวจข่มขู่ทหารในพื้นที่จึงต้องมีการตั้งคณะกรรมการปชด. โดยให้กองทัพคุม เพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าวว่า ในเรื่องประเด็นที่ทหารถูกตำรวจในพื้นที่ข่มขู่ตน ยังไม่ทราบรายละเอียด ส่วนการจัดตั้งคณะกรรมปชด. ที่มีผู้ช่วยผู้จัดการทหารสูงสุดเป็นประธาน โครงสร้างเดิม ที่เคยมีอยู่ในยุคของนายทักษิณ ชินวัตร และในยุคของพล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็เคยใช้โครงสร้างนี้แก้ไขปัญหาแพร่ระบาดโควิดตามแนวชายแดน

ส่วนปัญหาที่ฝั่งกัมพูชา พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าวว่าก็ยังอยู่ในความรับผิดชอบแต่วันนี้ไม่ได้มีวาระที่พูดถึง แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับว่า คนไทยที่พัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งกัมพูชามีมากกว่านี้ แต่เมื่อคลี่คลายปัญหาในฝั่งเมียวดีแล้ว คณะกรรมการนี้ก็ต้องไปดูที่จุดอื่นๆ ตามแนวชายแดน เช่น การแก้ไขปัญหาในฝั่งกัมพูชา หากจำเป็นต้องตั้งศูนย์ก็สามารถดำเนินการได้

สำหรับการประสานงานกับผู้นำชุมชนกลุ่มน้อย ที่ดูแล บุคคลสัญชาติต่างๆ ที่จะส่งกลับ ประเทศต้นทางนั้น ในที่ประชุม ตนได้ขออนุญาติ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นรองประธาน ศอป.ชด. ให้สั่งการกองกำลังชายแดน เพื่อไปประสานกับกองกำลังที่ควบคุมบุคคล สัญชาติสัญชาติต่างๆ ที่จะส่งกลับ ซึ่งการพูดคุยก็ไม่ได้มีกลุ่มเดียว ซึ่งทางกองกำลังชายแดนถือว่าเป็นข้อต่อในการสื่อสาร

“ในขณะเดียวกัน ก็ต้องติดต่อประสานงานกับทางรัฐบาลเมียนมาด้วย ตามช่องทาง TBC เป็นการพูดคุยกับตัวแทน รัฐบาลเมียนมาในจังหวัดเมียวด้วย ว่าในเบื้องต้นมีชาติที่ประสานงานมาเพื่อขอรับตัวบุคคลสัญชาติของตัวเองส่งกลับประเทศอีกหรือไม่ โดยตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าประชุมในวันนี้ตนได้ให้แจ้งให้ทำตาราง ว่ามีชาติใดประสานกลับมาแล้วบ้าง และจะรับตัว บุคคลสัญชาติตัวเองกลับเมื่อใด และได้กลับกี่คน อย่างไรก็ตามกระบวนการส่งกลับจะเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับขบวนการของเรา ซึ่งต้องที่ต้องมีการสอบสวนขยายผล”

สำหรับการสู้รบระหว่างชนกลุ่มน้อยและรัฐบาลเมียนมา เป็นการสู้รบโดยใช้กำลังทางอากาศ นั้นจากการประเมินสถานการณ์ ยังไม่มีผลกระทบในการส่งกลับบุคคลสัญชาติต่างๆเหล่านี้ โดยในวันพรุ่งนี้(6 มี.ค.) ศอป.ชด.ส่วนหน้า จะลงพื้นที่เป็นวันแรก เพื่อจะได้รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมให้มากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้เห็นว่าสถานการณ์พื้นที่เป็นอย่างไร -313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]