“โรม” แนะ กต.ทำงานเชิงรุก โอดหลายประเด็นยังไม่ชัดเจน

รัฐสภา 9 ม.ค.- “โรม” โอด กมธ.มั่นคงฯ ไม่ได้ความชัดเจนใดๆ ทั้งปม 4 ลูกเรือประมง -ว้าแดง – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ บอกรัฐบาลไทยเสียเหลี่ยม แนะ กต.ทำงานเชิงรุก ยันไทยมีแต้มต่อ


นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณากรณี 4 ลูกเรือประมงไทย ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ว่า 4 ลูกเรือประมงไทย ที่ถูกทางการเมียนมาควบคุมตัว จะได้กลับมาประเทศไทยเมื่อไหร่ โดยได้มีการซักถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าไม่มีการให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายใด ซึ่งเข้าใจว่าทางการไทยไม่ทราบมาก่อนว่า ในวันที่มีคำพิพากษาจะเป็นวันดังกล่าว ทำให้ไม่มีการเตรียมความพร้อม และที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระบุว่าไทยได้ประท้วงกรณีดังกล่าวนั้น ก็ได้ข้อมูลว่าไม่มีการประท้วงใดๆ จากการสอบถามผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศก็ยืนยันว่าไม่มีแนวทางที่จะประท้วง แต่กรรมาธิการฯ ก็ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า ควรมีมาตรการเชิงรุก และกระทรวงต่างประเทศควรประท้วงไป เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้น มีความรุนแรง และมีข้อคิดเห็นอีกหลายอย่างว่า ประเทศไทยมีแต้มต่อ มีไพ่หลายอย่าง ที่จะนำมาใช้ในการต่อรองได้ ก็ควรที่จะใช้ เพื่อให้ 4 คนนี้สามารถกลับสู่มาตุภูมิได้

“ต้องบอกว่ารัฐบาลไทยของเราเสียเหลี่ยมทางการเมืองในเรื่องนี้ การให้สัมภาษณ์จากกระทรวง และการส่งสัญญาณเป็นระยะ ว่าเรื่องนี้ควรจะใจเย็นนั้น เราต้องตั้งต้นว่า เราเป็นประเทศประชาธิปไตย สื่อมวลชนมีสิทธิ์ทำข่าว ประชาชนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น เรามีสิทธิ์ที่จะเป็นทุกข์เป็นร้อนต่อพลเมืองของเรา การจะให้คนในประเทศห้ามพูด เพราะรัฐบาลเมียนมาต้องการเช่นนั้นเช่นนี้ไม่ได้ สิ่งสำคัญ คือ รัฐบาลไทยมีหน้าที่ปกป้องพลเรือนของเรา และยังอยากได้คำตอบ เพราะวันนี้เข้าใจว่าหน่วยงานที่เขาชี้แจงไม่ได้รับอำนาจในการตอบอย่างตรงประเด็นนัก” นายรังสิมันต์ กล่าว


ส่วนกรณีที่ว้าแดงเข้ามาตั้งฐานทัพในไทยนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ยังไม่มีคำตอบเช่นเดียวกันว่า สุดท้ายแล้วจะมีการถอนทัพออกจากประเทศไทยเมื่อไหร่ สิ่งที่เราเห็นและประชาชนกังวล คือเรื่องหมุดโกดังเก็บยาเสพติดในแผนที่ ซึ่งเราพยายามสอบถามว่า มีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่หน่วยงานก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีจริงหรือไม่

นายรังสิมันต์ ชี้ว่า ปัญหานี้ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณามากขึ้นอีก เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณป่าต้นน้ำ ซึ่งมีความสำคัญ เนื่องจากแม่น้ำดังกล่าวจะไหลลงสู่แม่น้ำปาย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย และยังได้รับรายงานอีกว่า ปกติเมื่อก่อนชาวบ้านสามารถข้ามแม่น้ำได้ แต่ปัจจุบันไม่สามารถทำได้ เนื่องจากทางว้าไม่อนุญาต หมายความว่าว้ากำลังมีปฏิบัติบางอย่างหรือไม่ จึงเป็นปัญหาความมั่นคงที่ยังตอบไม่ได้ ว่าสุดท้ายจะมีการดำเนินการอย่างไร ทั้งยังมีข้อสงสัยว่า แหล่งน้ำนี้อาจจะเป็นแหล่งน้ำในการผลิตยาเสพติดอีกด้วย

สำหรับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่าผู้ที่มาชี้แจง มีคำตอบคล้ายเดิม คือไม่มีความชัดเจนว่าจะเอาอย่างไร ได้รับเพียงข้อมูลเพิ่มเติมว่ามี 40 แห่ง จากข้อมูลเดิม 35 แห่ง หมายความว่ามีเพิ่มมา 5 แห่ง หากรวมกันทั้งหมดรอบประเทศของเรา จะมีถึง 75 แห่ง คือ เมียนมา 40 แห่ง สปป.ลาว 5 แห่ง กัมพูชา 30 แห่ง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มหาศาล ที่ยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีแนวทางในการปราบปราม และแก้ปัญหานี้อย่างไร


“ผู้ที่มาตอบคำถาม โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ในภาพรวมเราได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน หากให้ตนมองในฐานะหน่วยงาน เขาก็พยายามทำเต็มที่ แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือระดับนโยบาย ว่าตกลงแล้ว รัฐบาลจะมีแนวนโยบายอย่างไร ย้ำว่า หัวต้องขยับก่อน หากรัฐบาลไม่มีนโยบายในเรื่องนี้ ก็จัดการไม่ได้ หากหัวไม่ขยับ ก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ ขณะที่กองทัพก็ย้ำว่า พร้อมปฏิบัติการ และควรทำภายใต้กรอบที่กระทรวงการต่างประเทศมี หากจะยกระดับการเจรจาต่อรอง ก็ต้องใช้กลไกที่มากกว่ากระทรวงการต่างประเทศ ดังนั้น รัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ควรดำเนินการให้เกิดการบูรณาการ ซึ่งผมยังไม่เห็นในจุดนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว

ส่วนที่มีข้อเสนอว่า ทางการไทยควรจะติดต่อไปยังศูนย์กลางอำนาจของเมียนมา แต่เราไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของรัฐบาล และมิน อ่อง ลาย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ดีเท่ายุคของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ว่าดีหรือไม่ดี เชื่อว่าในทุกระดับของกองทัพน่าจะมีการติดต่ออยู่ นางสาวแพทองธารเคยพบมิน อ่อง ลายด้วย วันนี้เรารู้ว่ารัฐบาลเมียนมาต้องการเงิน เพื่อไปรบกับชมกลุ่มน้อย รัฐบาลไทยจึงอำนวยความสะดวก การขึ้นทะเบียนแรงงานจะต้องมีสถานเอกอัครราชทูตเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งขั้นตอนนี้จะสร้างรายได้ให้รัฐบาลทหารเมียนมากว่า 1 หมื่นล้านบาท กรณีนี้ชัดเจนว่ารัฐบาลไทยน่าจะมีสายสัมพันธ์ที่ดี เพราะอำนวยความสะดวกให้กับรัฐบาลเมียนมา เรามีกลไกหลายอย่างที่จะต่อรอง อยู่ที่ว่ารัฐบาลไทยจะทำหรือไม่

อย่างไรก็ตามวันนี้มีข่าวดาราจีนที่หายตัวไปตั้งแต่ 20 ธ.ค.67 ซึ่งดูจะซ้ำรอยกับนายซิงซิง นายรังสิมันต์ กล่าวว่ากรณีของนายซิงซิงมีการขายต่อไปยัง 3 บริษัทที่อยู่ในพื้นที่เมียนมา อีกทั้งยังมีข่าวคุณพ่อท่านหนึ่งที่ออกมาเรียกร้องให้กับลูกสาววัย 21 ปี เป็นเหตุที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายจะนำไปสู่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเรื่องการท่องเที่ยว รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิด อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องของประเทศนั้น ๆ ให้สถานเอกอัครราชทูตไปติดตาม ติดต่อเอาเอง ประเทศไทยเป็นแค่ทางผ่าน หากคิดแบบนี้ชื่อเสียงของประเทศไทยป่นปี้แน่นอน

เราต้องยอมรับความจริงว่า นักท่องเที่ยวเริ่มรู้สึกว่าการมาประเทศไทยไม่ปลอดภัย หากไม่ปลอดภัยแบบนี้ รัฐบาลไทยจะดำเนินการอย่างไร เราจะปล่อยปล่อยไปเรื่อย ๆ ให้การท่องเที่ยวพังแล้วค่อยว่ากัน ตนเองรับไม่ได้ การช่วยนายซิงซิงเป็นเรื่องดี แต่ยังมีอีกหลายคนที่รอคอยความช่วยเหลือ เราคงต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ยอมรับว่าคำตอบที่ได้ในการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่เรายังไม่ยอมแพ้จะเดินหน้าต่อ เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ แสวงหาข้อมูล และแสวงหาความร่วมมือในการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตามที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าคนมีสีในประเทศประเทศไทยได้ผลประโยชน์จากการส่งต่อนายซิงซิง ไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงอยากให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบัน ตรวจสอบองค์กรตัวเองให้เรียบร้อย ช่วยปัดกวาดให้เรียบร้อย ส่วนตัวเชื่อว่าคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องแน่นอน

เมื่อถามว่า ประเด็นเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์จะมีในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายรังสิมันต์ระบุว่า วิธีการของตนเองคือจะพยายามไม่พูดเยอะ เพราะจะได้เห็นกัน แต่ทุกเรื่องสามารถอยู่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทั้งสิ้น เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ฝ่ายค้านอย่างเดียว แต่อยู่ที่พฤติกรรมของรัฐบาล หากรัฐบาลมีแนวทางที่ชัดเจน สามารถสร้างความไว้วางใจได้ คงไม่เหมาะสมที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องนั้น

แต่หากฝ่ายค้านพบว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่ยอมแก้ ไม่มีเจตจำนงจะแก้ และสร้างความเสียหาย จนนำไปสู่การที่สภาไม่ให้ไว้วางใจกับฝ่ายบริหารและรัฐมนตรี ก็สามารถนำไปอภิปรายได้ คงไม่อยากสรุปตอนนี้ว่ามีเรื่องใด แต่ยืนยันอีกครั้งว่า เราจับตามองท่านอยู่

“กรณีคอลเซ็นเตอร์อาจจะไม่ถึงขั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่อยู่ในอภิปรายทั่วไป ซึ่งก็เป็นน้องๆ อภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อแถลงนโยบายก็หยิบยกมา เพราะรัฐบาลสัญญากับประชาชนไว้เรื่องนี้ แต่ถึงเวลากลับตรงกันข้าม ภาพลักษณ์ของประเทศไทยถูกทำลายลงไปเรื่อยๆ โดยไม่มีมาตรการอะไรเลย” นายรังสิมันต์ กล่าว

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศเอาจริงเรื่องปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนเกิดข้อครหาว่า นายทักษิณพูดอะไร รัฐบาลรับลูกหมด นายรังสิมันต์ ย้ำว่า ตอนนี้ตนเองอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหามาก การที่นายทักษิณพูด เราก็คงรู้ว่ากันว่านายทักษิณมีอิทธิพลอย่างไรกับรัฐบาล แต่ตนเองพยายามมองข้ามเรื่องนั้นไปก่อนในตอนนี้ เพื่อเอาวาระการแก้ไขปัญหาให้สำเร็จ

“ทำยังไงก็ได้เถอะครับ แก้ปัญหาเสียที ความเสียหายกว่าแสนล้านของประเทศไทยที่เงินไหลออก มันรุนแรงเกินไปแล้ว ตอนนี้เรื่องท่องเที่ยวจะตาม อยากให้รัฐบาลเอาจริง อย่าให้เสียของ ท่านอุตส่าห์ทุกทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลขนาดนี้ ช่วยทำให้เกิดประโยชน์โภชผลต่อประชาชนบ้าง” นายรังสิมันต์ กล่าว. 312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชาติดเชื้อในกระแสเลือด

จันทบุรี 21 มิ.ย. – น้ำใจคนไทย! เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชา วัย 67 ปี ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ส่งรักษา รพ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ 20 มิ.ย. เวลา 21.00 น. กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด (กปช.จต.) โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ชุดเคลื่อนที่เร็วทหารผ่านนาวิกโยธินที่ 4 (ชค.ทพ.นย.4) หมวดอาวุธสนับสนุนที่ 4 จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ได้รับการประสานจาก นปพท.จันทบุรี ให้อำนวยความสะดวกในการผ่านแดนให้กับนางหยาง ทัช อายุ 67 ปี ผู้ป่วยฉุกเฉินชาวกัมพูชา พร้อมผู้ร่วมเดินทาง รวมจำนวน 4 คน เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิต มีไข้สูง หนาวสั่น และปวดศีรษะรุนแรง เพื่อไปรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพจันทบุรี เนื่องจากทาง รพ.กัมพูชา ไม่สามารถรักษาได้ เพราะเครื่องมือทางการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ไม่มี จึงขอประสานส่งตัวที่บริเวณสะพานคลองตะเคียน […]

แบ่งงานรองนายกฯ ใหม่ หลัง ภท. ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – นายกฯ ลงนามคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯใหม่ หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิธรรม” กำกับดูแล “มหาดไทย” ไร้ชื่อ “พีระพันธุ์” กำกับงานส่วนไหนเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 184/2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 มิ.ย.68 โดยรายละเอียดในคำสั่งมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบันฑิตยสภา) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐนตรี มอบอำนาจให้กำกับบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัมนตรี มอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ […]

“ฮุนเซน” เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้ กระทบตัวเอง

กัมพูชา 21 มิ.ย.-“ฮุนเซน” โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้กัมพูชา จะกระทบบริษัทของไทยเอง ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก เฟซบุ๊ก “ฮุนเซน” เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ผ่านมา โพสต์ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยว่า เกมแห่งการคุกคามที่อาจนำไปสู่การทำลายตัวเอง วันนี้ พรรคฝ่ายค้านของไทยได้เสนอให้รัฐบาลไทยหยุดขายน้ำมันให้กับกัมพูชา เพื่อกดดันให้กัมพูชายอมจำนน ในการนี้ เราขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชาจะไม่ล้มเหลวเพียงเพราะไม่ได้ซื้อน้ำมันจากประเทศไทย ในทางกลับกัน อาจเป็นบริษัท PTT ของไทยเองที่ต้องเผชิญกับผลกระทบ คุณต้องการให้บริษัท PTT ของไทยล่มสลายใช่หรือไม่? ถ้าคุณต้องการเช่นนั้น ก็จงเดินหน้าต่อไปตามแผนของคุณ กัมพูชาพร้อมแล้วที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่คุณใช้คุกคามเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า แรงงาน และตอนนี้น้ำมันก็ถูกใช้เป็นอาวุธอีกหนึ่งอย่างในเกมนี้ ในอดีตคุณเคยดูถูกและเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชา ใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือต่อรอง แต่เมื่อเราประกาศว่าจะรับแรงงานกลับประเทศ คุณก็เปลี่ยนท่าทีทันที กลับมาปลอบโยนและดูแลแรงงานเหล่านั้น ทำไม? เพราะถ้าแรงงานกัมพูชาถอนตัวจากโรงงาน ฟาร์ม บริษัท และไซต์ก่อสร้าง ธุรกิจจำนวนมากในไทยอาจต้องปิดตัวลงเพราะขาดแรงงาน หากคุณกล้าจริง ก็ลองไล่แรงงานกัมพูชาออกให้หมด แล้วมาดูกันว่าจะกระทบเศรษฐกิจไทยแค่ไหน น้ำมันก็เช่นเดียวกัน ลองดูได้เลย แต่อย่าลืมปรึกษาบริษัท PTT ของไทยก่อน เพราะนั่นอาจหมายถึงการทำลายธุรกิจของพวกเขา […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ยันการเมืองไม่กระทบการทหาร

นครพนม 21 มิ.ย.-พล.ท.บุญสิน แม่ทัพภาคที่ 2 เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงสงบ ความตึงเครียดส่วนใหญ่เป็นการเมืองภายใน ระบุไม่กระทบการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพ ภายหลังเป็นประธานในพิธีถวายพระพุทธรูป และประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดสว่างสุวรรณาราม จ.นครพนม พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ว่า ยังคงสงบ ไม่มีเหตุรุนแรงหรือการขยับกำลังทหารที่น่าเป็นห่วง ฝ่ายกัมพูชายังอยู่ในเขตแดนของตนไม่มีการรุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย ความตึงเครียดส่วนใหญ่เกิดจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทยมากกว่า ซึ่งทางกองทัพจะยังคงมุ่งเน้นการรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ การเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในประเทศ ไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพในการดูแลรักษาชายแดน ส่วนที่มีกลุ่มชาวกัมพูชาร้องเพลงที่ปราสาทตาควายนั้น กองทัพไทยได้ประสานกับทางการกัมพูชาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางทหารโดยตรง ส่วนข่าวความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแม่ทัพนั้น เป็นเพียงความเข้าใจผิดและได้มีการชี้แจงและขอโทษกันแล้ว ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของกองทัพแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย