“วราวุธ” ขึ้นเวที UN เปิดประชุม รมต.ภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก

19 พ.ย. – “วราวุธ” ขึ้นเวที UN เปิดประชุม รมต.ภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ทบทวนความก้าวหน้า ความท้าทาย ตามปฏิญญาปักกิ่ง พร้อมขอบคุณทุกองค์กร ช่วยขับเคลื่อนพลังสตรี


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกเพื่อการทบทวนความก้าวหน้าและความท้าทาย ในการปฏิบัติตามปฏิญญาปักกิ่งและแผนปฏิบัติการเนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี (Asia-Pacific Ministerial conference on the Beijing+30 Review) โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะผู้บริหาร เข้าร่วม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

นายวราวุธ กล่าวว่า ในนามของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ขอต้อนรับทุกท่านสู่การประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชีย-แปซิฟิกเพื่อทบทวนปักกิ่ง +30 (Asia – Pacific Ministerial Conference on the Beijing +30 Review) ที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร และขอแสดงความขอบคุณต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UN-ESCAP) และสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ UN Women สำหรับความพยายามร่วมกัน ในการจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีในครั้งนี้ เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญในการก้าวไปสู่การบรรลุพันธกรณีภายใต้วาระสำคัญที่ว่า “สิทธิมนุษยชนคือสิทธิสตรี… และสิทธิสตรีคือสิทธิมนุษยชน” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของปฏิญญาและแผนปฏิบัติการกรุงปักกิ่ง (BPfA)


นายวราวุธ กล่าวว่า ในปีหน้า 2568 เราจะได้เฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 30 ปีของการประชุมระดับโลกครั้งที่ 4 เกี่ยวกับสตรีและการรับรอง BPfA ซึ่งหลายประเทศได้พยายามส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ เสริมพลังให้สตรี และสร้างหลักประกันว่าสิทธิของสตรีและเด็กหญิง ยังคงเป็นหัวใจสำคัญลำดับแรกในการพัฒนา เราต่างเรียกร้องความรับผิดชอบซึ่งกันและกัน และเรายินดีที่ได้เห็นความคืบหน้าที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ด้าน แม้จะมีความคืบหน้าที่น่าชื่นชม แต่สังคมโลกยังคงเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ อาทิ ความรุนแรงทางเพศและการเลือกปฏิบัติ ยังคงเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้า นอกจากนี้ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัล ความผันผวนทางเศรษฐกิจ โรคระบาด และวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่อื่นๆ ได้ทำให้ช่องโหว่ทวีความรุนแรงขึ้นและความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป้าหมายที่ 5 ว่าด้วยเรื่องความเท่าเทียมทางเพศลดลง นั่นคือเหตุผลที่ความพยายามของเราในการบรรลุหลักเกณฑ์ที่ระบุไว้ในปฏิญญาปักกิ่งยังคงมีความสำคัญ การเพิ่มการลงทุน ความมุ่งมั่นทางการเมือง และการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิมนุษยชนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

นายวราวุธ กล่าวว่า การเพิ่มความพยายามของเราในวาระนี้เป็นสิ่งจำเป็น ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นว่าเพื่อเร่งดำเนินการในประเด็นดังกล่าว ผู้ชายและเด็กชายควรมีส่วนร่วมและมีบทบาทสำคัญในฐานะพันธมิตร ตัวแทนแห่งการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนผู้ได้รับประโยชน์จากความเท่าเทียมทางเพศ การบรรลุความเท่าเทียมทางเพศต้องอาศัยการมีส่วนร่วมและการมุ่งมั่นอย่างแข็งขันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในการทำงานร่วมกัน เพื่อทลายอุปสรรคในระบบและส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ทั้งนี้ ประเทศไทย เรายังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชนของผู้หญิง เด็กผู้หญิง LGBTQI+ และบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เผชิญกับการเลือกปฏิบัติในรูปแบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เรากำลังสร้างการเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ในความเท่าเทียมทางเพศโดยการออกกฎหมายสำคัญฉบับหนึ่ง คือ “กฎหมายความเท่าเทียมในการสมรส” ซึ่งปกป้องสิทธิมนุษยชนสากลในการสร้างครอบครัว กฎหมายฉบับนี้ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศที่ 3 ในเอเชีย และประเทศที่ 37 ของโลกที่บังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบในวันที่ 22 มกราคม 2568 ไม่เพียงแต่ทำให้การแต่งงานถูกกฎหมายเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่าความรักอยู่เหนือขอบเขต กฎหมายฉบับนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกฎหมายครอบครัวของประเทศไทย
 
นายวราวุธ กล่าวว่า เราเหลือเวลาอีกไม่ถึง 4 เดือนก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี สมัยที่ 69 ซึ่งจะมีการเปิดเผยถึงความสำเร็จและความท้าทายในการดำเนินการตาม BPfA และคาดว่าในที่สุดพันธกรณีทางการเมืองในความเท่าเทียมทางเพศจะเข้มข้นมากขึ้น ดังนั้น ตนหวังว่าการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งนี้ จะเป็นโอกาสพิเศษสำหรับเราทุกคนในการสร้างฉันทามติในระดับภูมิภาคเกี่ยวกับการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อเร่งดำเนินการตามพันธกรณีที่ให้ไว้ ใน BPfA ซึ่งจะต้องนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของภูมิภาคในการประชุมครั้งที่ 69 ของคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรีในปี 2568 และประเทศไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประเทศสมาชิก ESCAP ประเทศสมาชิกสมทบ ตลอดจน CSO และองค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาหลักการของปฏิญญาปักกิ่ง โดยมั่นใจว่าเราจะไม่หลงทางในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนข้อที่ 5 ว่าด้วยเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ .-314-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เรียกรัฐมนตรี-คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ประชุมกรอบงบฯ 69

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก 3 รมต.คลัง-ที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ หารือสรุปทิศทางการทำงบประมาณปี 69 มั่นใจใช้งบที่มาจากภาษีประชาชน แก้ไขปัญหาพัฒนาประเทศได้ตรงจุด

สส.ศรีสะเกษ เพื่อไทย เล่านาทีกระป๋องนมเฉี่ยวไปนิดเดียว

“สส.ศรีสะเกษ เพื่อไทย” เล่านาทีระทึก กระป๋องนมเฉี่ยวไปนิดเดียว เชื่อมีคนเขวี้ยงมาแน่ บอกมันดังมากเลยนะ งง! จะหล่นมาจากฝ้าได้อย่างไร ด้าน “เลขาฯ สภา” แจงแล้ว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบตกจากเพดาน คาดคนงานขึ้นไปซ่อมฝ้า ดื่มนมแล้วทิ้งไว้

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

รมช.คลัง เร่งดัน กม.สถานบันเทิงครบวงจร ยันไร้เส้นสาย-เกี้ยเซียะ

‘รมช.คลัง’ ลั่นเร่งดันกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บอกทุนจดทะเบียนหมื่นล้าน ไม่จำกัดสัญชาติ แต่ต้องมีคุณภาพ ยันไม่มีเส้นสาย-เกี้ยเซียะในรัฐบาล