“เรืองไกร” ร้องซ้ำ สอบปม “แพทองธาร” ลาออก กก. 20 บริษัท

กกต. 23 ก.ย.- “เรืองไกร” ร้องซ้ำ สอบปม “แพทองธาร” ลาออกจากกรรมการ 20 บริษัท ผิดหลักกฎหมาย เทียบชัดกรณี “ซาบีดา” เซ็นเอกสาร เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เอาให้ชัดแบบไหนถูก แบบไหนผิด


นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นหนังสือถึงประธาน กกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบการลาออกจากกรรมการบริษัท 20 แห่ง ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เทียบเคียงกับการลาออกจากบริษัทของ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ​กระทรวงมหาดไทย โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ระบุห้ามรัฐมนตรีรวมถึงนายกรัฐมนตรีถือหุ้นเกินร้อยละ 5 หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใด โดยการถือหุ้นร้อยละ 5 นั้นมีเงื่อนไขคือต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดการหุ้นส่วน และหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ 2543 หมายความว่าหากเกินร้อยละ 5 และอยากจะถืออยู่ก็จะต้องไปแจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ต้องไปหาบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เป็นคนจัดการ ซึ่งเรื่องนี้ในเว็บไซต์ของ ป.ป.ช.ก็มีรายละเอียดหลายราย เช่น กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นต้น

แต่กรณีนี้จะเห็นว่าการลาออกจากกรรมการ และผู้ถือหุ้นของบริษัทท่าทรายหนองมะโมง จำกัด ของ น.ส.ซาบีดา นั้นจะเห็นว่า มีการเขียนคำขอและเซ็นต์เอกสารโดย น.ส.ซาบีดา และนายปภณ จบศรี ไปยื่นขอจดทะเบียน แบบ บอจ. 1 แต่ถ้าเทียบกับกรณีน.ส.แพทองธาร ไม่ได้เซ็นอะไรเลย ดังนั้นมีอะไรถูก อะไรผิด ก็ต้องไปดูที่เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งสรุปว่ากรณีกรรมการออกต้องไปจดแจ้ง ส่วนกรรมการสามารถยื่นหนังสือลาออกตามกฎหมายที่นายทักษิณ ชินวัตร เคยแก้ไว้เมื่อปี 2549 โดยขั้นตอนการจดทะเบียนทำได้ 2 วิธี คือเมื่อกรรมการลาออกแล้ว บริษัทจะต้องประชุม 2 แบบแบบที่ 1 เรียกประชุมกรรมการบริษัท แบบที่ 2 เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ซึ่งกรณีน.ส.ซาบีดา ได้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 2 ก.ย. 2567 จากนั้นวันที่ 3 ก.ย 2567 ก็มาจด และเซ็นเอกสารแทบทุกหน้า ซึ่งเป็นไปตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยสรุปมาจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หมวดกรรมการซึ่งมีอยู่ประมาณ 20 มาตรา


นายเรืองไกร กล่าวว่า ดังนั้นตนจึงมาร้องย้ำขอให้ กกต.ย้อนตรวจสอบกรณีน.ส.แพทองธารว่า การยื่นลาออกจากกรรมการนั้น ได้จดทะเบียนประชุมกรรมการบริษัท เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และขั้นตอนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุไว้หรือไม่ ทั้งนี้ ในท้ายของเอกสาร ข้อที่ 1 เขียนเอาไว้ชัด และเขียนคำเตือน ว่าผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 มาตรา 267 และ 268 ข้อ 2 นายทะเบียนอาจเพิกถอนการจดทะเบียน ถ้าปรากฏว่าข้อความอันเป็นสาระสำคัญที่ผู้จดทะเบียน ไม่ถูกต้องหรือเป็นเท็จ

“หมายความว่าถ้าการขอจดทะเบียนของน.ส.ซาบีดา ถูกต้อง เทียบกับของน.ส.แพทองธาร ถูกหรือไม่ กกต.ก็ต้องไปถามนายทะเบียนหุ้นส่วน ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องเพิกถอน และถ้าเพิกถอน วันนี้ความเป็นกรรมการก็ยังอยู่ใช่หรือไม่ ถ้าความเป็นกรรมการยังอยู่ทั้ง 20 บริษัท ก็จะเข้าขายเป็นลูกจ้างตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 เพราะฉะนั้นอยู่ที่กกต.จะรีบตรวจสอบดำเนินการหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายกระบวนการยุติธรรมมีการกำหนดระยะเวลาอยู่ วันนี้ผมคิดว่าข้อมูลน่าจะเพียงพอที่ท่านจะรีบสรุป ท่านจะตั้งอนุกรรมการ หรือ กรรมการไต่สวนอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้องทำคือการถามไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตามสำเนาที่ผมส่งไปก่อนหน้านี้กว่าร้อยหน้า และของน.ส.ซาบีดา มายืนยัน ผมว่าของผมครบถ้วน จะตัดแต่งข้อความอันเป็นเท็จหรือไม่ ท่านต้องยืนยันตรงนั้นและตรวจสอบต่อไป” นายเรืองไกร กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีมีการแก้ไขหลังจากนั้น นายเรืองไกร กล่าวว่า การแก้ไขหลังมีข่าว นั่นแสดงว่าตั้งแต่วันที่เป็นนายก 16 ส.ค 2567 จนถึงวันที่แก้ไข ถือว่าเป็นกรรมการไปแล้วจะทำอย่างไร เป็นวันเดียวก็ผิด ที่ผ่านมามีการประชุมผู้ถือหุ้นมีการประชุมกรรมการหรือไม่ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยเก่งๆ ทั้งนั้นมีส.สเป็นร้อยคนจบกฎหมายก็เยอะ นอกจากอภิปรายอวยกันในสภาแล้วไปอ่านกฎหมาย ซึ่งตนพูดถึงเฉพาะหมวดกรรมการ ซึ่งหากกระบวนการจดแจ้งวันที่ 15 ส.ค.แล้วไปจดแจ้งวันที่ 19 ส.ค.ไม่ชอบด้วยขั้นตอนของกฎหมาย เขาถึงเขียนข้างล่างว่า ให้นายทะเบียนเพิกถอน ซึ่งหากตรวจสอบแล้ว เท่ากับว่าตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.จนถึง 23 ก.ย. เป็นกรรมการอยู่ 20 บริษัท แล้วจะหลุดจากมาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญ จะบอกว่าเป็นการยื่นเพิ่มเติมไม่ได้ เพราะการยื่นเพิ่มเติมหมายความว่าขาดตกบกพร่อง เช่นกรณีน.ส.ซาบีดา เซ็นเอกสารคู่กับนายปภณ แต่เซ็นต์อีกช่องหนึ่ง แบบนี้ถือเป็นกรณีผิดหลงได้ ไม่เป็นสาระไม่แก้ก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้มีหนังสือเชิญประชุม ไม่ได้ประชุมกรรมการและไม่ได้เซ็นเอกสาร ใน 20 บริษัทไม่มีลายเซ็นน.ส.แพทองธารเลย แต่น.ส.ซาบีดาเซ็นทุกหน้า ตรงนี้ต่างหากที่จะถามว่า ที่ถูกที่ผิดคืออะไร ไปแก้ไขให้ดี


นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ตนมายื่นร้องเรียนตามสิทธิในรัฐธรรมนูญมาตรา 41 และมาตรา 50 ไม่ได้ร้องเพราะปริมาณ ไม่ได้ร้องทุกวันไม่ได้ร้องเรื่องเล็กเรื่องน้อย แต่ร้องเรียนตามสิทธิ์และหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญให้ไว้ จะผิดจะถูกอย่างไร ตนจะเคารพความเห็นขององค์กรอิสระ ของกกต. ของป.ป.ช. ของศาล จะไม่นำความเห็นของแต่ละคนที่ให้ตนร้องเรื่องนั้นเรื่องนี้ เพราะคนเหล่านั้นถ้าเห่งก็ไปร้องเองตามสิทธิ์ ตนไม่ได้รับจ้าง ไม่ใช่ลูกไล่ที่จะมาบอกให้ตนไปร้องเรียน ถ้าทำเท่ากับว่าตนขาดอิสระ รับจ้างร้อง ดังนั้นคนที่ชอบพูดให้สำเนียกไว้ด้วยว่าใช้สิทธิของตัวเอง ตนใช้สิทธิของตัวเองไม่ได้ไปละเมิดสิทธิของคนอื่น .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลจัดงานสโมสรสันนิบาต เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันฉัตรมงคล

รัฐบาลจัดงานสโมสรสันนิบาต เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2568

วันฉัตรมงคล

เหล่าทัพยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2568

เหล่าทัพพร้อมใจ ยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2568

เชื้อแอนแทรกซ์ในซากวัว

พบเชื้อแอนแทรกซ์ในซากวัวที่มุกดาหาร ปศุสัตว์เข้มควบคุมโรค

กรมปศุสัตว์เผย พบเชื้อแอนแทรกซ์ในซากวัว รวมถึงเขียงและมีดที่ใช้ชำแหละ พร้อมเก็บตัวอย่างดินมาตรวจสอบพบเชื้อปนเปื้อนจากการชำระล้าง

หนีแตนตกเหว

หนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์วิบาก หนีฝูงแตนตกเหวตาย

หนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์วิบาก หนีฝูงแตนไล่ต่อย พลัดหลงกับก๊วน หายไปตั้งแต่ 1 พ.ค. เพื่อนช่วยกันออกตามหา แต่ไร้วี่แวว ล่าสุดพบร่างตกเหว เขาห้วยผีหลอก