“จุลพันธ์” ยันแจกเงินหมื่นกลุ่มเปราะบาง เข้าบัญชีครบ

รัฐสภา 12 ก.ย.- “จุลพันธ์” ยันไม่แปลก นโยบายรัฐบาลจะเหมือนกับวิสัยทัศน์ “ทักษิณ” เหตุสืบทอดอุดมการณ์ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ย้ำเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ผ่านความเห็นชอบสภา-ครม.แล้ว อยู่ระหว่างปรับแก้กฎหมาย เชื่อเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบ ทำเศรษฐกิจโต 1% ยืนยันแจกเงินหมื่นกลุ่มเปราะบางเข้าบัญชี เตือนผู้ถือบัตรคนจนเหลืออีก 1 ล้าน ยังไม่ผูกบัญชี มั่นใจเงินถึงมือประชาชนครบ 10,000 บาทแน่นอน


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาวาระแถลงนโยบายรัฐบาล ถึงกรณีที่ไม่มีการลงรายละเอียดในแนวนโยบายแห่งรัฐ ว่าอยากให้แยกระหว่าง วิสัยทัศน์และแผนการดำเนินงาน หากดูจากแนวนโยบายแห่งรัฐจะรู้ว่าวิสัยทัศน์ของรัฐบาลจะเห็นว่ามีการวาดภาพรัฐบาลไปในทิศทางใด แต่ในส่วนของรายละเอียดเนื้อโครงการจะตามมา ซึ่งจะมีการลงลึกในรายละเอียด

ส่วนที่แนวนโยบายมีความคล้ายคลึงกับสิ่งที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เคยกล่าวปาฐกถาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเราได้สืบทอด อุดมการตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย สำหรับแกนนำรัฐบาล ก็คงไม่ต่างกัน ท่านก็สืบทอดเจตนารมณ์มาจากอดีตพรรคการเมืองหนึ่งเมื่อถูกยุบก็เปลี่ยนพรรค แต่แนวความคิดก็ยังสืบทอดต่อกันมาเป็นเรื่องปกติ จึงขอย้ำว่าสิ่งที่บรรจุไว้ในนโยบายเป็นวิสัยทัศน์ แต่สิ่งที่เห็นแตกต่างกันอย่างชัดเจน คือท่านมองว่าประเทศไทยเติบโตตามศักยภาพได้เพียงเท่านี้ แต่สำหรับรัฐบาลชุดปัจจุบัน พยายามจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอยู่ในจุดที่เหมาะสม และกระจายความมั่งคั่งให้กับประชาชนได้อย่างเป็นธรรม


นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ หรือสถานบันเทิงครบวงจร ในสภาผู้แทนราษฎรได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ตั้งแต่หนึ่งปีที่แล้วจนเสร็จสิ้น และเสนอให้ที่ประชุมให้ความเห็นชอบและส่งให้คณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ส่งให้กระทรวงการคลังไปศึกษาร่างกฎหมายและปรับแก้ให้มีความเหมาะสม ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้วค่อนข้างมาก ทางการแก้ไขกฎหมายให้เป็นไปตามระเบียบวิธีการของภาครัฐ และทำประชาพิจารณ์มีผู้เห็นชอบมากกว่า 80% ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนให้การยอมรับ ตามขั้นตอนทางกระทรวงการคลังจะเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีหากให้ความเห็นชอบก็จะส่งร่างไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ ก่อนจะส่งกลับมาเพื่อบรรจุเข้าสู่วาระของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา 3 วาระตามปกติ

ทั้งนี้ได้มีการทำแบบจำลองมิติผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยเทียบเคียงโมเดลของประเทศสิงคโปร์ แบ่งผลประโยชน์เป็น 2 ช่วง คือ

1. ในช่วงของการก่อสร้างซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี ซึ่งจะใช้เงินลงทุน อย่างน้อยจุดละ 100,000 ล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นจุดละ 0.23 รวม 3 ปี มีการลงทุนไม่ต่ำกว่าจุดละ 30,000 ล้านบาท


2. ช่วงเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบ จะสามารถเพิ่มรายจ่ายของนักท่องเที่ยวต่อหัวได้ไม่ต่ำกว่า 66,000 บาทต่อหัว ซึ่งหากคิดจากฐานตัวเลขของนักท่องเที่ยว 3.6 ล้านคน ทำให้เศรษฐกิจโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 1% ส่วนรายละเอียดเรื่องการดำเนินโครงการ รายได้ของรัฐ และการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนรัฐบาลจะขอรับไว้ เพื่อพิจารณาเพื่อผลักดันกฎหมายต่อไป

ส่วนโครงการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นายจุลพันธ์ ยืนยันว่าโครงการมีความพร้อมในเรื่องของเม็ดเงิน ต้องขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ให้ความเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณทั้งงบเพิ่มเติมปี 2567 และงบประมาณประจำปี 2568 ทำให้มีเงินอยู่ประมาณ 300,000 ล้านบาท ในการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งเฟสหนึ่งจะเป็นกลุ่มเปราะบาง ประกอบด้วยกลุ่มคนพิการ จะไม่มีการจำกัดอายุ และ กลุ่มเปราะบางซึ่งถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่เงินจะไม่ได้จ่ายผ่านบัตร แต่จะจ่ายผ่านบัญชี ซึ่งในกลุ่มนี้ยังมีประมาณ 1,000,000 คน ที่ไม่มีการผูกบัญชีเข้ากับระบบพร้อมเพล์ จึงขอให้เดินทางไปดำเนินการที่ธนาคารหรือตู้เอทีเอ็ม

โดยทั้ง 2 กลุ่มนี้เมื่อนำมารวมกัน และรายชื่อไม่ซ้ำจะมีอยู่ประมาณ 14.5 ล้านคน ซึ่งจะได้รับเป็นเงินสด เนื่องจากจากการรับฟังความคิดเห็นหลายภาคส่วนเห็นว่าควรเร่งให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงได้ปรับเปลี่ยนวิธีการแจกเงิน โดยกำหนดวันโอนเงินไว้ที่ 25 – 30 กันยายน

ส่วนงบประมาณส่วนที่เหลือ ซึ่งเป็นงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยืนยันว่าการแจกเงินจะยังคงเป็นในรูปแบบของดิจิทัล วอลเล็ต และบลอกเชน และกำหนดเงื่อนไข เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในเศรษฐกิจเหมือนเดิม และหลังจากนี้จะมีการประกาศวันแจกเงินที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่ที่สุดแล้ว เงินจะถึงมือประชาชนครบ 10,000 บาท จนได้ และจะทำให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานในเรื่องของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย