ที่อาคารชินวัตร 3 กรุงเทพฯ 19 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอก “บิ๊กป้อม” ประกาศร่วมรัฐบาลต่อ ขึ้นอยู่กับพรรคตอบแทนไม่ได้ ขอให้ชัดเจน ชี้ หากมีปัญหาทำงานร่วมกันลำบาก เผยโหวตนายกฯ ไม่ใช่เครื่องการันตีโควตา ครม. ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ยัน ไม่เคยคุยคนไทยสร้างไทย มองเอกสิทธิ สส. โหวตใครก็ได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุพร้อมจะร่วมงานกับรัฐบาล ว่า ไม่อยากให้ข้อมูลสับสน มีอะไรระหว่างพรรคการเมืองก็ให้พูดกันในพรรคการเมือง ถ้ามาบอกว่าตนพูดอย่างนั้นอย่างนี้ก็จะมีปัญหา ที่ตนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปเมื่อเช้าก็ได้บอกไปแล้วว่า เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้กระบวนตรวจสอบประวัติต้องใช้เวลามากกว่าเดิม ทางกฤษฎีกาและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้พูดกับตนว่า มันต้องมีการปฏิบัติที่ยากเย็นและใช้เวลามากขึ้น ซึ่งตนก็โอเคดังนั้นจึงต้องรีบ จึงได้คุยกับหัวหน้าพรรค แกนนำตัวแทนต่างๆ ว่าให้รีบส่งรายชื่อมา เพื่อนำไปตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดโดยต้องทำให้เร็ว เพราะบ้านเมืองต้องการความต่อเนื่อง และให้เสร็จภายในวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.) ก่อนจะส่งให้กฤษฎีกาและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการต่อไป ส่วนแต่ละพรรคจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ให้สิทธิกับแต่ละพรรคดำเนินการเต็มที่
นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่าเมื่อช่วงเช้าสื่อมวลชนก็ได้ถามตนกรณีของ “วงษ์สุวรรณ” ตนก็บอกว่าอันนี้คงตอบแทนไม่ได้ ต้องให้พรรคการเมืองนั้นๆ เป็นผู้ตอบว่าตกลงจะยังร่วมกันอยู่หรือเปล่า เพราะได้ตกลงเลือกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เห็นว่าหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ไปโหวต และนักข่าวได้ถามเรื่องนี้ก็มีความไม่สบายใจ เราจึงบอกว่าก็ต้องถามท่าน ให้ตอบมาให้ชัดเจนว่าจะเอายังไง
“ทางพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้ติดปัญหาอะไรเพียงขอให้ชัดเจน และต้องเอาให้ชัดว่าจะร่วมงานกันยังไง ถ้าไม่ชัดเจนและมีปัญหาพูดเรื่องอะไรต่างๆ มันก็จะลำบาก การทำงานร่วมกันก็จะมีปัญหาได้ ก็อยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ” ก่อนที่นายภูมิธรรม จะระบุว่า “ตนพูดถึงทุกพรรค”
ส่วนการที่พลเอกประวิตร ประกาศชัดว่าร่วมรัฐบาลแน่ แต่หากส่งชื่อพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เราจะโอเคใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่า ให้ท่านตอบให้ชัดเจนและส่งรายชื่อมา และก็ต้องไปคุยภายในกับพรรคด้วย ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ได้คุยกับท่าน “อยู่ในกระบวนการส่งชื่อมาเราก็ส่งชื่อไป ไม่ส่งชื่อมาเราก็ไม่ว่า แล้วแต่พรรคจะตัดสินใจ”
เมื่อถามย้ำว่าหากส่งชื่อมาเราจะไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันเราทำตามกระบวนการ ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องตัวบุคคลเลย ตอนนี้เริ่มจากกระบวนการคัดคุณสมบัติมันยาวนาน ตนจึงอยากให้ส่งคนที่มีคุณสมบัติมาก่อน ตนพูดชัดเจนไปแล้วว่าถ้าจะร่วมกันก็ขอให้ชัดเจน “แต่ถ้าหากร่วมกันแล้ว ยังมีอะไรที่ทำให้คลางแคลงใจ มันก็เป็นเรื่องไม่สบายใจ”
เมื่อถามว่าในส่วนพรรคเพื่อไทย จะมีความชัดเจนเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม ระบุว่าไม่ใช่เฉพาะพรรคเพื่อไทย ทุกพรรคต้องคุยกันว่าใครจะนั่งตำแหน่งไหน และทุกพรรคต้องจบในวันพรุ่งนี้ ส่วนรายชื่อจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวมาคุยกัน
เมื่อถามว่าได้เน้นย้ำกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยเฉพาะการนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นบรรทัดฐานใหม่เรื่องคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี นายภูมิธรรม มองว่าไม่ได้คิดว่าเป็นมาตรฐานใหม่หรือเก่า ขณะนี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วเกิดปัญหาทางการเมือง สิ่งที่สำคัญขณะนี้เราดำเนินการตามกระบวนการและปกติเมื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลก็เปิดชื่อนายกรัฐมนตรีมาก่อน กระบวนการจากนี้จะปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาและถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนเรื่องคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรก็ให้สองหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ และเมื่อได้รายชื่อที่ทุกส่วนเห็นว่าเหมาะสมก็จะมาพิจารณาถึงกระทรวงต่างๆ อีกทั้งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการ เพื่อจัดทำนโยบายรัฐบาล
ส่วนบางพรรคการเมืองที่ยังมีความไม่ชัดเจนภายในและมีความขัดแย้ง พรรคเพื่อไทยได้เตรียมแผนสำรองดึงพรรคอื่นมาร่วมหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันไม่มีแผนสำรอง เป็นหน้าที่แต่ละพรรคต้องตัดสินใจ เราจะขอความชัดเจนจากพรรคร่วมที่ตัดสินใจแล้วจึงจะมาคิดว่าเราจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะเรายังไม่รู้ว่าส่วนที่พรรคที่มีปัญหาภายใน ถ้าจัดการกันได้ก็จบ แต่ย้ำว่ายังไงก็ต้องทำตามกรอบเวลา
ส่วนจะต้องเซฟนายกรัฐมนตรีไม่ให้มีบุคคลสุ่มเสี่ยงเข้ามาเป็นคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ให้เป็นไปตามกระบวนการ และตอนนี้เป็นกระบวนฟอร์มคณะรัฐมนตรีร่วมกัน มีความเห็นร่วมกันของนายกรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่าจะมีพรรคการเมืองเข้ามาเพิ่มเติมหรือไม่ นายภูมิธรรม บอกว่าเป็นคำถามเดิม ซึ่งพรรคที่จับมือกันและโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นพรรคที่จะร่วมมือกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกพรรคที่โหวตแล้วจะต้องมาตั้งคณะรัฐมนตรีร่วมกัน ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และขณะนี้ 6 พรรคการเมืองก็ได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ส่วนพรรคอื่นที่เติมมานั้นก็เป็นแต่ละเรื่องแต่ละส่วน และการตั้ง ครม. ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าจากผลโหวตนายกรัฐมนตรีถือเป็นการปิดประตูพรรคประชาธิปัตย์เลยหรือไม่ นายภูมิธรรม บอกว่า ยังไม่คิดอะไรถึงขนาดนั้น คิดถึงแค่ตรงนี้เพราะต้องนี้ก็ยังแก้ปัญหาอยู่
เมื่อถามว่าพรรคไทยสร้างไทยที่โหวตให้ 6 เสียงได้ต่อรองหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันยังไม่เคยคุยอะไรกับพรรคไทยสร้างไทยเลย ส่วนที่โหวตให้ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. .-316 – สำนักข่าวไทย