รัฐสภา 30 ก.ค.- “เปรมศักดิ์” พร้อม 20 สว.ชิงยื่นร่างข้อบังคับวุฒิสภาฉบับแรก เพิ่มกมธ.เป็น 28 คณะ ให้ตอบโจทย์สาขาอาชีพและทำงานตรงเป้า วอนประธานวุฒิฯ ปลดล็อกกลุ่ม เลือกคนเหมาะกับงาน พร้อมมองเพิ่มงบเล็กน้อยมากหากเทียบโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่ชาติได้ประโยชน์
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.สีขาว เปิดเผยว่า ตนพร้อมเพื่อน สว. 20 คนได้ร่วมกันเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ซึ่งเป็นญัตติแรกที่หวังว่าจะได้พิจารณาในที่ประชุมวุฒิสภาลำดับแรก โดยเสนอให้มีคณะกรรมาธิการสามัญ เพิ่มจาก 26 คณะเป็น 28 คณะ เพราะเห็นว่าน่าจะมีคณะกรรมาธิการที่ตรงกับสายงานหรือกลุ่มอาชีพที่สมัครสมาชิกวุฒิสภามาจากระดับอำเภอผ่านมาจังหวัดและมาเลือกในระดับประเทศทั้ง 20 กลุ่มอาชีพ ตนจึงนำเอาความเห็นของเพื่อนวุฒิสภามาประกอบการยกร่าง และมองว่าเรามีระบบการบริหารราชการแผ่นดินซึ่งเป็นการบริหารงานของรัฐบาลมีทั้งหมด 20 กระทรวง ซึ่งมีหน่วยงานหลายอย่างที่มีความแตกต่างกัน แต่เอามารวมกันโดยที่การทำงานไม่เป็นเนื้อเดียวกัน ขณะที่กรรมาธิการบางชุดเป็นลักษณะงานที่กว้าง บางอย่างเป็นลักษณะที่ลึกเช่นคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ ที่คนดูภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ เชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ว่าจะทำอย่างไรให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลดียิ่งขึ้น ขณะที่เรื่องของการเงินการคลังและสถาบันการเงินยังเป็นปัญหา จึงเห็นว่าคนแยกออกมา เช่นเดียวกันกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นงานคนละอย่าง จึงแยกเป็นคณะกรรมาธิการการกีฬา 1 คณะและคณะกรรมการการท่องเที่ยว 1 คณะ เพราะมีสว.มาจากฐานการท่องเที่ยวเยอะมากและมีความประสงค์จะทำงานในด้านนี้ ขณะที่สว. ด้านกีฬา หรือ กระบวนการยุติธรรมหรือความเสมอภาคในการใช้กฎหมาย จึงเสนอเป็นคณะกรรมาธิการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 1 คณะและแยกคณะกรรมาธิการการตำรวจออกมา
นพ.เแรมศักดิ์ กล่าวว่าการนำเสนอครั้งนี้เพื่อต้องการเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบรัฐบาล เพราะหากเราหวังจากกรรมาธิการของส.ส.ซึ่งมีจำนวน 38 คณะนั้น ส่วนใหญ่รัฐมนตรีอยู่กระทรวงไหน พรรคนั้นก็จะส่งคนเป็นกรรมาธิการ แล้วจะตรวจสอบได้อย่างไร ดังนั้นมองว่ากระบวนการตรวจสอบที่ตรงไปตรงมาน่าจะเป็นของวุฒิสภามากกว่า จึงคิดว่าอย่าไปวิตกว่าของส.ส.มี 38 คณะของวุฒิสภามี 28 คณะจะเป็นอย่างไร และเสนอว่าให้มีกรรมาธิการได้คณะและ 8-18 คนและสามารถเชิญบุคคลภายนอกมาเป็นอนุกรรมาธิการได้ด้วยจากการเสนอของคณะกรรมการชุดนั้นๆ โดยเปิดให้มีคณะอนุกรรมที่การได้ไม่เกินกรรมาธิการละ 5 คณะอนุกรรมาธิการฯไม่เกินชุดละ12 คนเพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างครบถ้วน
นพ.เปรมศักดิ์ ย้ำว่าสิ่งที่เสนอนี้เป็นการมองถึงประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับ ส่วนที่มองว่าเป็นการเพิ่มงบประมาณนั้นมองว่าเป็นงบประมาณที่เล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับ Digital wallet เป็นแสนล้าน อันนั้นน่าสงสัยว่าชอบมาพากลหรือไม่มากกว่า จึงไม่อยากให้ฝ่ายบริหารที่นำประเด็นว่ากรรมาธิการของสภา เพิ่มขึ้นใช้งบเพิ่มขึ้นไม่กี่สตางค์แต่เพื่อความปลอดภัยของประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมาธิการจะได้ขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องรอว่าเมื่อไหร่จะตั้งคณะกรรมาธิการเสร็จ ดังนั่นขอเชิญชวนสมาชิกวุฒิสภาทุกคนให้มาช่วยงานโดยไม่ต้องคำนึงว่ามีที่มามาจากที่ไหน เพราะกลไกที่จะเดินไปตลอด 5 ปี อยากขับเคลื่อนให้ วุฒิสภาเป็นที่ยอมรับ จึงขอเรียกร้องให้สว. ปลดล็อคและมาช่วยกันทำงานให้เป็นกรรมาธิการที่ผสมผสานจากคนละที่มาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาจากที่มาเดียวกัน และไม่ต้องไปกังวลถึงเรื่องตำแหน่งในหน้าที่ของกรรมาธิการ หากใคร มาจะเป็นประธานก็ควรเลือกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม put the right man on the right Job ใช้คนให้ถูกกับงาน อย่าไปผิดฝาผิดตัว ไม่งั้นงานจะไม่เดินขอฝากไปถึงประธานวุฒิสภา ในฐานะประมุขว่าจะ ให้โอกาสทุกคนทุกกลุ่มโดยไม่คำนึงว่ามาจากกลุ่มไหน เพราะถ้ายังล็อกไปทุกจังหวะ จากพื้นที่ ก็ล็อก เลือกประธาน ก็ ล็อก เลือกประธานกรรมาธิการ ก็ล็อก ประเทศจะไม่ไปไหน ดังนั้นขอให้ปลดล็อกและขอให้ระลึกถึงคำปฏิญาณว่าจะทำงานเพื่อชาติ ส่วนที่บอกว่ามีฝ่ายค้านอยู่แล้วนั้น ในส่วนของวุฒิสภาอาจจะตรวจสอบคนละมิติกับฝ่ายค้านเพราะขณะนี้ฝ่ายค้านก็ไม่มีสมาธิมัวแต่ยุ่งกับคดียุบพรรค .-312 -สำนักข่าวไทย