ตั้งเป้า ปี 68 ภาครัฐใช้ “ระบบ e-Office” 1 ล้าน User

กรุงเทพ 5 ก.พ.- ดีอี ตั้งเป้า ปี 68 ภาครัฐใช้ “ระบบ e-Office” 1 ล้าน User ชวนหน่วยงานรัฐ ร่วมก้าวสู่ “สังคมไทยไร้กระดาษ”


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า กระทรวงดีอี ได้ดำเนินนโยบายการปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยดำเนินการยกระดับหน่วยงานภาครัฐใช้ระบบงานเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) ในระบบ e-Office ภายใต้ GDCC ซึ่งจัดทำและให้บริการ โดยกระทรวงดีอี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้านเอกสาร และระบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องภายในองค์กร สนับสนุนการปรับเปลี่ยนสู่รัฐบาลดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ลดการใช้กระดาษ ลดการตัดต้นไม้ และลดขยะที่ต้องเผาทำลาย ซึ่งเป็น 1 ในสาเหตุการเกิดมลพิษทางอากาศ และ PM 2.5

นอกจากนี้จุดเด่นของระบบ e-Office ยังสามารถช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้ทุกที่ (Work From Anywhere) สะดวก รวดเร็ว ลดการเดินทาง ลดการใช้พลังงานในสำนักงาน ลดการลงทุนภาครัฐที่ซ้ำซ้อน และมีความปลอดภัยสูง


ทั้งนี้ปัจจุบันมีหน่วยงานใช้งานระบบแล้วราว 100,000 users และขยายการใช้งานในหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยมีกรอบแนวทางการขับเคลื่อนภาครัฐผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลแบบไร้กระดาษ ( Paperless Government) สู่รัฐบาลดิจิทัลทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ดังนี้

1.กลไกส่วนภูมิภาค : โดยกระทรวงดีอี ได้ขับเคลื่อน ระบบ e-Office ในส่วนภูมิภาค ภายใต้โครงการ “Digital Korat: The Future Starts now – โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดต้นแบบในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการภาครัฐ นอกจากนี้ยังมีจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดชลบุรี ฯลฯ โดยมอบหมายให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สำนักงานสถิติจังหวัด) เป็นผู้ประสานการขอใช้งานในระดับจังหวัด

2.กลไกส่วนกลาง : กระทรวงดีอีได้ร่วมขับเคลื่อนระบบ e-Office ในระดับกระทรวงและหน่วยงานราชการส่วนกลาง โดยมีการจัดทำ MOU ขับเคลื่อนการใช้งานเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในระบบ e-Office ภายใต้บริการคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC กับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานศาลยุติธรรม


“ขณะนี้มีหน่วยงานรัฐ ได้ดำเนินการเปิดใช้งานระบบ e-Office แล้วประมาณ 100,000 User และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2568 สามารถรองรับการใช้งานของหน่วยงานรัฐที่จะเข้าร่วมการยกระดับการทำงานผ่านระบบ e-Office ได้ถึง 1,000,000 User โดยการยกระดับหน่วยงานภาครัฐผ่านระบบ e-Office จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการองค์กรและการให้บริการประชาชนเพิ่มมากขึ้น ผ่านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อก้าวสู่สังคมไทยไร้กระดาษ” นายประเสริฐ กล่าว

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาครัฐ (ส่วนกลาง ภูมิภาค ท้องถิ่น และสถานศึกษาของรัฐ) สามารถขอรับการสนับสนุนการใช้งานระบบ e-Office ภายใต้บริการคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC พร้อมทั้งให้ CA (Certification Authority) สำหรับผู้มีอำนาจลงนามหนังสือภายนอก โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mdes.go.th. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้