ป.ป.ช.ตรวจทุจริตพื้นที่ตรัง พบปัญหาทิ้งร้างการก่อสร้าง

ตรัง 5 ก.พ.- “สาโรจน์” นำทีมลงตรวจทุจริตพื้นที่ตรัง พบปัญหาทิ้งร้างการก่อสร้างวงเงินกว่า 2 พันล้านบาท พร้อมเปิดข้อมูลร้องทุจริตภาค 9 สูง รับออกเลข 388 เรื่อง ถูกร้องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มากสุด ตามด้วยปัญหาจัดซื้อจัดจ้าง ขณะที่ อปท. เป็นหน่วยงานถูกร้องมากที่สุด ในระดับภาคอันดับ 1 “ตรัง” แชมป์จังหวัดถูกร้อง 61 เรื่อง


นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อติดตามภารกิจป้องกันและปราบปรามการทุจริตในพื้นที่จังหวัดตรัง ระหว่างวันที่ 5-7 ก.พ.2568 พร้อมจัดเสวนาในประเด็น สถิติเรื่องร้องเรียนของสำนักงานป.ป.ช.ภาค 9 การบุกรุกที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ หาดเจ้าไหม พื้นที่เกาะกระดาน ความเสี่ยงในการจัดจ้างต่อเติมงานก่อสร้างหอศิลป์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ

นายสาโรจน์ กล่าวเปิดงานว่า การลงพื้นที่จังหวัดตรังเป็นโอกาสครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช. ทั้งนี้ป.ป.ช.ทำงานหลายมิติทั้งป้องกัน ปราบปราม การตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อรักษาสมบัติชาติ อย่างที่ทราบไม่ว่าจะมีการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมากน้อยแค่ไหน แต่ปัญหาการทุจริตในบ้านเรายังเป็นปัญหาสำคัญ ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศชาติ ดังนั้น การทำงานปราบปรามการทุจริต จึงต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ถ้า ป.ป.ช. มัวแต่ปราบอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่มีทางหมด เพราะจะมีการทุจริตที่ยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่มาในวันนี้คือการป้องกันการทุจริต และหาบทเรียน ทั้งมุมที่ประสบความสำเร็จและมุมที่เป็นปัญหาเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริต


“ป.ป.ช. มีศูนย์ป้องกันและปรับทำการทุจริตแห่งชาติมีการเปิดรับข้อมูลชี้ช่องแจ้งเบาะแส หากประชาชนเห็นพฤติกรรมที่คิดว่าน่าจะมีพิรุธ หรือมีเหตุสงสัยก็ขอให้แจ้งเข้ามาแล้วเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ จะหาข้อมูลในลักษณะของการเฝ้าระวัง ป้อมปราบก่อนการกระทำความผิด” นายสาโรจน์

นายสาโรจน์ ยังกล่าวว่า การลงพื้นที่ดูแลสภาพปัญหาต่างๆ ซึ่งมีทั้งมุมบวกและมุมลบ กรณีที่เป็นมุมบวกก็จะนำไปเป็นโมเดลเผยแพร่ให้กับหน่วยงานอื่นๆ รับให้ดำเนินการต่อไป ถ้าเป็นมุมลบก็ถือโอกาสในการป้องปรามและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายสาโรจน์ กล่าวอีกว่า กรณีมีเรื่องร้องเรียนเข้ามานั้น แม้จะมีจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะมีความผิด ทั้งนี้ต้องพิจารณาว่าการกระทำที่ถูกกล่าวหาเป็นไปในลักษณะใด ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในพื้นที่ภาค 9 ทุกภาคก็มีข้อมูลเรื่องการทุจริตและเรื่องร้องเรียนครบถ้วน ดังนั้น ป.ป.ช. จึงมีการวางแนวทาง การทำงานว่า ต้องเร่งรัดการทำงานในคดีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล โดยสำนักงานป.ป.ช. ส่วนกลางจะเป็นผู้รับดำเนินการดำเนินการให้เร็ว ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วตามกรอบของกฎหมายกำหนด ว่าจะต้องดำเนินการไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี แต่สามารถขยายเพิ่มเติมได้อีก 1-3 ปี จะช้าหรือเร็วอยู่ที่ปริมาณงานและความยุ่งยากของคดีที่ไม่เท่ากัน ซับซ้อนและการหาข้อมูลถึงการได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน อย่างไรก็ตามการดำเนินการไม่จำเป็นต้องต้องใช้เวลาครบตามกรอบที่กฎหมายกำหนดขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์และครบถ้วนของคดี


ด้านนายทวิชาติ นิลกาญจน์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ภาค 9 กล่าวว่า ในพื้นที่ภาค 9 ประกอบด้วย 7 จังหวัดกับ 1 ภาค มีเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ตำแหน่งพนักงานไต่สวนทั้งของภาคและจังหวัดรวม 41 คน มีการรับเรื่องออกเลขดำตรวจสอบเบื้องต้น 388 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จเข้าสู่ที่ประชุมจนได้เลขแดง 43 เรื่อง อยู่ในชั้นรอการพิจารณาอีก 25 เรื่อง ทั้งนี้ มีเรื่องไต่สวนเหลือในมือมี 345 เรื่อง เข้าที่ประชุม ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเสร็จ 34 เรื่อง รอการพิจารณา 52 เรื่อง เหลือค้างในชั้นพนักงานไต่สวนอีก 193 เรื่อง เฉลี่ยเจ้าหน้าที่ 1 คนต้องดูแลคดี 7-8 เรื่อง ต้องขอบอกว่า เรื่องที่เข้าสู่ชั้นไต่สวนนั้น 70% จะถูกชี้มูล ซึ่งช่องทางในการร้องเรียนมายัง ป.ป.ช.คือ ประชาชนเดินเข้ามายื่นเรื่องร้องเรียนมากที่สุด รองลงมาคือเป็นบัตรสนเทศ ส่งทางเว็บไซต์ แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความตื่นตัว

สำหรับเรื่องที่ถูกร้องเรียนมากที่สุด คือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 รองลงมาคือการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนเยอะที่สุด แต่ยังไม่ได้หมายความว่ากระทำความผิด คือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเป็นหน่วยงานที่มีจำนวนมาก 7,850 แห่ง เป็นหน่วยงานที่ดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย มีฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล จึงมีโอกาสถูกร้องเรียนเยอะเป็นเรื่องธรรมดา

ขณะที่หน่วยงานราชการ ที่ถูกร้องเรียนมากที่สุด คือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 64 เรื่อง รองลงมาคือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง มากที่สุด กรมที่ดิน และ สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย (สปมท. ) มีผู้ว่าและอดีตผู้ว่าที่ถูกกล่าวหาเข้ามาจำนวน 10 เรื่อง

ตามมาด้วยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 40 เรื่อง ในจำนวนนี้เป็น การร้องเรียนกรมชลประทาน 27 เรื่องกระทรวงสาธารณสุข ถูกร้องเรียน 20 เรื่อง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถูกร้องเรียน 31 เรื่อง ในจำนวนนี้เป็นของกรมอุทยานแห่งชาติ 20 เรื่อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติจำนวน 27 เรื่องสถาบันอุดมศึกษา 20 เรื่อง และหน่วยงานทหารอีก 10 เรื่อง

สำหรับจังหวัดที่มีการร้องเรียนมากที่สุดในพื้นที่ภาค 9 ได้แก่ ตรัง 61 เรื่อง นราธิวาส 46 เรื่อง สงขลา 45 เรื่องปัตตานี 44 เรื่อง พัทลุง 40 เรื่อง และสตูล 22 เรื่อง สำหรับ จ.ตรังที่มีการร้องเรียนมากที่สุด อาจจะถือได้ว่าประชาชนในจังหวัดมีความตื่นตัว เวลาพบเห็นสิ่งผิดปกติจะร้องเรียน ซึ่งเรารับไว้ตรวจสอบเบื้องอยู่

นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ป.ป.ช.ตรัง ไม่ได้ละเลยโครงการใดที่มีความสุ่มเสี่ยง คาดว่าจะเกิดปัญหาหรือมีแนวโน้มว่าการดำเนินการเป็นไปไม่ได้ ก็จะลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบ เช่น โครงการก่อสร้างอาคารสนามบินจังหวัดตรัง โครงการจัดจ้างต่อเติมงานก่อสร้างหอศิลป์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ รวมทั้งโครงการอื่นๆ ในจังหวัดตรัง กว่า 23 โครงการ งบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท ที่ทิ้งร้างเกิดปัญหา

นายสาโรจน์ กล่าวเสริมตอนท้ายว่า กรณีการเกิดทุจริตในพื้นที่จังหวัดตรังว่า ดูจากจังหวัดตรังจังหวัดเดียวมีมูลค่าความเสียหายถึง 2,000 ล้านบาท หากมองไปในระดับประเทศก็พบว่าหลายจังหวัดก็มีลักษณะการทุจริตสร้างเสียหายหลายพันล้าน ซึ่งงบประมาณที่เสียไปไม่สามารถที่จะเรียกร้องกลับมาได้ ดังนั้นเราต้องหยุดโครงการทิ้งร้าง ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. มีมาตรการป้องกัน ปราบปรามและเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการทุจริต รวมทั้งเห็นว่าหากมีโครงการทิ้งร้างแม้ไม่มีผู้ร้องเรียนเข้ามา ป.ป.ช. ชุดสืบสวนออกไปหาข้อมูลและสามารถที่จะหยิบยกขึ้นมาตรวจสอบได้เพราะอยู่ในอำนาจหน้าที่ ทางการรวบรวมข้อมูลเสนอแนะเสนอแนะแนวทางและมาตรการต่อคณะรัฐมนตรีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้สื่อมวลชนก็ยังมีส่วนสำคัญที่จะช่วยจุดสร้างประเด็น ให้แต่ละหน่วยงานได้เข้ามาแก้ปัญหา รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ไปต่อหรือพอแค่นี้ .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 13 ก.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน […]

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย