รัฐสภา 23 ก.ค. – “หมอเปรม” แสดงวิสัยทัศน์ชิงประธานวุฒิสภา มุ่งมั่นอาสาแก้ไขภาพลักษณ์ด้านลบ ชี้ สว. ต้องอิสระ เป็นกลาง ไม่เช่นนั้นจะถูกตราหน้าว่าสภาใบสั่ง สภารีโมท สภาหวยล็อก สภาบล็อกโหวต
นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ว่าครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงการเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากฐานอาชีพต่างๆ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากว่าไม่ตรงปก รวมถึงมีการครอบงำจากกลุ่มต่างๆ ทำให้ไม่เป็นผลดีต่อสมาชิกทั้ง 200 คน ตนจึงขอมุ่งมั่นอาสาดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา เพื่อแก้ไขภาพลักษณ์และสิ่งที่ปรากฏในด้านลบแก่วุฒิสภา เพราะเป็นสภาสูง เป็นสภาที่ทรงเกียรติ และประชาชนคาดหวังในการทำงาน
“เสื้อของเรานั้นถ้ากลัดกระดุมเม็ดแรกผิดจะผิดไปทั้งหมด กระดุมเม็ดแรกของวุฒิสมาชิกคือการที่ต้องเป็นเป็นอิสระ เป็นกลาง ไม่ถูกครอบงำ ไม่ว่าจะจากพรรคการเมือง ฝ่ายรัฐบาลหรือพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ดังนั้น หลายคนวิจารณ์ที่มาของเราว่ามาจากแบบนั้นแบบนี้ ตนคิดว่าที่มาห้ามยาก เพราะเรามากันแล้ว แต่ที่ไปเป็นสิ่งที่เราเลือกได้ว่า 5 ปีหลังจากนี้เราจะไปอย่างไร ถ้าเราเลือกที่จะเป็นกลาง เลือกที่จะเป็นอิสระเราก็จะได้รับความชื่นชมจากประชาชนอย่างแน่นอน แต่ถ้าเราเลือกอีกด้านหนึ่งก็จะถูกตราหน้าว่าสภาใบสั่ง สภารีโมท สภาหวยล็อก สภาบล็อกโหวต” นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าว
นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวว่า กลไกสำคัญของวุฒิสภาอันดับแรกคือการกลั่นกรองกฎหมายจากสภาผู้แทนราษฎร สิ่งเหล่านี้ตรวจสอบควบคุม ระดับการบริหารโดยใช้กฎหมาย เพราะฉะนั้นกฎหมายมาจากผู้แทนราษฎรต้องไม่มีคำชี้นำจากพรรคการเมือง อีกทั้งการเห็นชอบองค์กรอิสระอย่าให้มีใบสั่งว่ามาจากบ้านนั้นบ้านนี้ หรือมาจากผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นคนนี้ ไม่เช่นนั้นจะไร้ความหมายและเกิดปัญหาการยอมรับต่อประชาชนอย่างที่เป็นมาแล้วในอดีต และการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน การตั้งกระทู้สดเป็นอาวุธสำคัญของสมาชิกวุฒิสภา ในการควบคุมบริหารของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีต้องมาตอบกระทู้สดด้วยตนเอง เราต้องยืนยันศักดิ์ศรีของวุฒิสภาในการตรวจสอบ ทั้งกระทู้ถาม ญัตติด่วน หรือในระดับของกรรมาธิการต่างๆ จะต้องมีความศักดิ์สิทธิ์เพื่อดำรงไว้ในการควบคุมรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งหมดประธานวุฒิสภาจะทำได้ต้องมีสุขภาพที่ดี พร้อมยกตัวอย่างว่าที่ผ่านมาประธานวุฒิสภามีความจำเป็นต้องลุกไปห้องน้ำจนทำให้ต้องปิดประชุมกะทันหัน ซึ่งรองประธานขึ้นมารับช่วงต่อไม่ทัน ทำให้ต้องปิดประชุม ดังนั้น ประธานวุฒิสภาสุขภาพต้องดี บางคนเก่ง แต่กาลเวลาผ่านไปก็แพ้สังขาร จึงขออย่ามองเป็นเรื่องเล่นๆ ถ้าไม่ไหวอย่าฝืน
”ตนอายุ 59 ปี ถ้าบวกอีก 5 ปี คือ 64 ปี พร้อมจะทำหน้าที่เป็นประธานที่มีสุขภาพที่ดี ขอให้สมาชิกพิจารณาด้วยเนื้อผ้า อย่าพิจารณาโดยที่บอกว่ามีเสียงล่วงหน้ามาแล้ว แบบนี้สภาของเราจะไม่พ้นคำครหา“ นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าว .-315-สำนักข่าวไทย