“เปรมศักดิ์” ลั่นไม่แย่งชิงเก้าอี้ประธาน แนะ “ตัวเต็ง” ดูสุขภาพให้ดี

รัฐสภา 12 ก.ค.-“เปรมศักดิ์” ยันกลุ่ม สว.สีขาว คนละกลุ่มกับ สว.พันธุ์ใหม่ ไม่มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ไม่แย่งชิง ‘เก้าอี้ประธาน‘ ขอสลายสีร่วมกันทำงาน แนะ “ตัวเต็ง” ดูสุขภาพให้ดี อย่ามาเสี่ยง ลั่นอย่ามาอ่อยผลประโยชน์ มีเงินเยอะอยู่แล้ว ไม่อยากเป็นลูกน้องใคร

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภากลุ่มที่ 4 สาธารณสุข ชูริสแบนสีขาว ที่เป็นสัญลักษณ์ ของกลุ่ม สว.สีขาว ที่เป็น อิสระ โดย ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับกลุ่มของ นางนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ที่เป็นกลุ่ม “สว.พันธุ์ใหม่” และไม่มีพรรค หรือสีใด หรือใครบงการสนับสนุน แต่มาทำหน้าที่ด้วยความรักในอุดมการณ์ และต่อสู้ทางการเมืองด้วยความอิสระ พร้อมเรียกร้องไปยัง สว.ที่มีสีให้สลายสี เพราะรัฐธรรมนูญ กำหนดให้ สว.เป็นอิสระ ปราศจากพรรคการเมือง และจะต้องร่วมกันฝ่าฟันปัญหาต่าง ๆ ใน 5 ปีนี้ จึงขอให้สลายสี และร่วมกันทำงาน ร่วมกันนำประสบการณ์ที่มีมาทำให้ประเทศชาติเดินหน้า


นพ.เปรมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการเลือกประธานวุฒิสภาว่า กลุ่มของตนเอง ไม่ประสงค์ช่วงชิง หรือแก่งแย่ง และยังมีขั้นตอนต่าง ๆ ก่อนถึงการเลือก ซึ่งการช่วงชิงตำแหน่ง อาจเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี จึงควรปล่อยให้ไปตามระยะเวลาที่เหมาะสม ส่วนใครเป็นเป็นตัวเต็ง หลายคนเหมือนในการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ตัวเก็ง กลายเป็นตัวเกร็งไปแล้ว จึงขอเตือนว่า อย่าเก็งมาเพราะเดี๋ยวจะเกร็งไปซะก่อน

ส่วนกระแสข่าวที่มีกลุ่มเบื้องหลัง หรือเงาทมิฬ เสนอผลประโยชน์ให้กับ สว.เพื่อชักชวนให้ไปอยู่ในเครือข่าย เพื่อรับเงินเดือน รถ เสื้อผ้า ผู้ติดตาม และเงินเดือนตลอดการทำหน้าที่นั้น นายแพทย์เปรมศักดิ์นพ.เปรมศักดิ์ ยอมรับว่า ได้รับการติดต่อในลักษณะดังกล่าว แต่ตนมีเงิน และไม่ต้องการเป็นลูกน้องใคร เพราะตนเอง เคยเป็นลูกน้องพรรคการเมืองมาแล้ว 6 พรรค แต่ละพรรคก็มีกฎเหล็ก เมื่อสมาชิกตัดสินใจไม่ตรงใจพรรค ก็ต้องมีอันเป็นไปทางการเมือง ถูกขับออกจากพรรค หรือเป็นแกะดำ จนตนเองต้องหนีไปบวช จึงคิดว่า สว.ใหม่ ควรร่วมกันขจัดเงาทมิฬ และทำงานด้วยกันอย่างอิสระ


นพ.เปรมศักดิ์ ยังบอกด้วยว่า เงื่อนไขเพื่อแลกกับผลประโยชน์ดังกล่าวนั้นมีมาก และไม่ทราบว่า สว.คนอื่นเห็นแล้วจะหวั่นไหวหรือไม่ แต่ทราบเพียงว่า มีการดักบริเวณจุดรายงานตัวที่ กกต.จนมีผู้ที่เปลี่ยนใจไปแล้วก็มี ตนเองจึงคิดว่า การเปลี่ยนใจจากการเป็น สว.อิสระไปอยู่ในค่าย ต้องคิดให้ดี เพราะบางครั้งก็ไม่คุ้ม เนื่องจากการมีปลอกคอ หรืออยู่ในค่าย ผู้ลงทุนต้องคาดหวังผลประโยชน์มาก และ สว.ต้องทำหน้าที่อย่าง 5 ปี ดังนั้น ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรีน่าจะดีกว่า แม้จะกินไม่ได้ แต่ก็ภูมิใจ และสามารถพ้นจากหน้าที่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี เพราะทรัพย์สินไม่ตายก็สามารถหาใหม่ได้

ส่วนการทำหน้าที่ของ สว.กลุ่มอิสระในอนาคต จะถูกกลุ่มการเมืองในวุฒิสภากลืนไปหรือไม่นั้น นพ.เปรมศักดิ์ ได้ย้อนถามว่า เหตุใด สว.อิสระจะไม่กลืนกลุ่มการเมืองบ้าง และเชื่อว่า ใน 5 ปี อาจมีวิกฤต ที่ทำให้ สว.คิดได้ว่า การเป็น สว.อิสระ ดีกว่าการถูกจองจำ หรือกักขัง บังคับให้อยู่ในค่ายใดค่ายหนึ่ง และเชื่อว่า หากการทำหน้าที่ของ สว.สีขาวเป็นไปอย่างมีเหตุมีผล แม้จะลงมติแพ้ ก็เชื่อว่า จะชนะในประชาชนได้ และค่าตอบแทนที่ได้รับจากรัฐสภา ก็คุ้มค่าพออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปรับลาภที่ไม่ควรได้จากที่ใดอีก

นพ.เปรมศักดิ์ ยังกล่าวถึงคุณสมบัติของประธานวุฒิสภาคนใหม่ที่ควรมีว่า จะต้องมีสุขภาพ เพื่อควบคุมการประชุมให้มีคุณภาพ และตัวเต็งต่าง ๆ ควรไปตรวจสุขภาพก่อน เพราะงานวุฒิสภา เป็นงานหนัก นอกจากนั้น จะต้องมีความรู้ ความสามารถ และมีแนวทางการทำงาน มีวุฒิภาวะ รับฟังเสียงข้างน้อย เพราะบางครั้งอาจถูกมูมเมอร์แรงสะท้อนกลับได้ และหากไม่สังกัดกลุ่ม เป็นอิสระ สีขาวยิ่งดี เพราะจะได้ไม่ต้องคำนึงถึงใครนอกจากประชาชน และที่สำคัญ จะต้องควบคุมการประชุมได้ เพราะทักษะการทำงานระบบรัฐสภา ต่างจากทักษะรับราชการ หรือวิชาการ และต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง


ทั้งนี้การงาน 5 ปีของ สว. นพ.เปรมศักดิ์ เชื่อว่า น่าจะรอด เพราะ สว.ทั้ง 200 คน มีคุณภาพทั้งนั้น และอย่ามองว่า สว.จบปริญญาใดมา เพราะกฎหมายไม่ได้บัญญัติ และบัญญัติให้มีเพียงประสบการณ์ในวิชาชีพ 10 ปีเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อมาทำหน้าที่ สว. ก็เชื่อว่า จะสามารถเรียนรู้กับเพื่อน สว.ได้ และเชื่อว่า การกลั่นกรองกฎหมายจาก สว.ชุดนี้ จะรอบคอบ มีความหลากหลายในการอภิปราย แตกต่างจาก สว.ชุดก่อนที่ไม่มีข้อแตกต่าง จึงขออย่าเพิ่งสบประมาท สว.ชุดใหม่.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]