รัฐสภา 12 ก.ค.-“เปรมศักดิ์” ยันกลุ่ม สว.สีขาว คนละกลุ่มกับ สว.พันธุ์ใหม่ ไม่มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ไม่แย่งชิง ‘เก้าอี้ประธาน‘ ขอสลายสีร่วมกันทำงาน แนะ “ตัวเต็ง” ดูสุขภาพให้ดี อย่ามาเสี่ยง ลั่นอย่ามาอ่อยผลประโยชน์ มีเงินเยอะอยู่แล้ว ไม่อยากเป็นลูกน้องใคร
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภากลุ่มที่ 4 สาธารณสุข ชูริสแบนสีขาว ที่เป็นสัญลักษณ์ ของกลุ่ม สว.สีขาว ที่เป็น อิสระ โดย ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับกลุ่มของ นางนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ที่เป็นกลุ่ม “สว.พันธุ์ใหม่” และไม่มีพรรค หรือสีใด หรือใครบงการสนับสนุน แต่มาทำหน้าที่ด้วยความรักในอุดมการณ์ และต่อสู้ทางการเมืองด้วยความอิสระ พร้อมเรียกร้องไปยัง สว.ที่มีสีให้สลายสี เพราะรัฐธรรมนูญ กำหนดให้ สว.เป็นอิสระ ปราศจากพรรคการเมือง และจะต้องร่วมกันฝ่าฟันปัญหาต่าง ๆ ใน 5 ปีนี้ จึงขอให้สลายสี และร่วมกันทำงาน ร่วมกันนำประสบการณ์ที่มีมาทำให้ประเทศชาติเดินหน้า
นพ.เปรมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการเลือกประธานวุฒิสภาว่า กลุ่มของตนเอง ไม่ประสงค์ช่วงชิง หรือแก่งแย่ง และยังมีขั้นตอนต่าง ๆ ก่อนถึงการเลือก ซึ่งการช่วงชิงตำแหน่ง อาจเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี จึงควรปล่อยให้ไปตามระยะเวลาที่เหมาะสม ส่วนใครเป็นเป็นตัวเต็ง หลายคนเหมือนในการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ตัวเก็ง กลายเป็นตัวเกร็งไปแล้ว จึงขอเตือนว่า อย่าเก็งมาเพราะเดี๋ยวจะเกร็งไปซะก่อน
ส่วนกระแสข่าวที่มีกลุ่มเบื้องหลัง หรือเงาทมิฬ เสนอผลประโยชน์ให้กับ สว.เพื่อชักชวนให้ไปอยู่ในเครือข่าย เพื่อรับเงินเดือน รถ เสื้อผ้า ผู้ติดตาม และเงินเดือนตลอดการทำหน้าที่นั้น นายแพทย์เปรมศักดิ์นพ.เปรมศักดิ์ ยอมรับว่า ได้รับการติดต่อในลักษณะดังกล่าว แต่ตนมีเงิน และไม่ต้องการเป็นลูกน้องใคร เพราะตนเอง เคยเป็นลูกน้องพรรคการเมืองมาแล้ว 6 พรรค แต่ละพรรคก็มีกฎเหล็ก เมื่อสมาชิกตัดสินใจไม่ตรงใจพรรค ก็ต้องมีอันเป็นไปทางการเมือง ถูกขับออกจากพรรค หรือเป็นแกะดำ จนตนเองต้องหนีไปบวช จึงคิดว่า สว.ใหม่ ควรร่วมกันขจัดเงาทมิฬ และทำงานด้วยกันอย่างอิสระ
นพ.เปรมศักดิ์ ยังบอกด้วยว่า เงื่อนไขเพื่อแลกกับผลประโยชน์ดังกล่าวนั้นมีมาก และไม่ทราบว่า สว.คนอื่นเห็นแล้วจะหวั่นไหวหรือไม่ แต่ทราบเพียงว่า มีการดักบริเวณจุดรายงานตัวที่ กกต.จนมีผู้ที่เปลี่ยนใจไปแล้วก็มี ตนเองจึงคิดว่า การเปลี่ยนใจจากการเป็น สว.อิสระไปอยู่ในค่าย ต้องคิดให้ดี เพราะบางครั้งก็ไม่คุ้ม เนื่องจากการมีปลอกคอ หรืออยู่ในค่าย ผู้ลงทุนต้องคาดหวังผลประโยชน์มาก และ สว.ต้องทำหน้าที่อย่าง 5 ปี ดังนั้น ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรีน่าจะดีกว่า แม้จะกินไม่ได้ แต่ก็ภูมิใจ และสามารถพ้นจากหน้าที่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี เพราะทรัพย์สินไม่ตายก็สามารถหาใหม่ได้
ส่วนการทำหน้าที่ของ สว.กลุ่มอิสระในอนาคต จะถูกกลุ่มการเมืองในวุฒิสภากลืนไปหรือไม่นั้น นพ.เปรมศักดิ์ ได้ย้อนถามว่า เหตุใด สว.อิสระจะไม่กลืนกลุ่มการเมืองบ้าง และเชื่อว่า ใน 5 ปี อาจมีวิกฤต ที่ทำให้ สว.คิดได้ว่า การเป็น สว.อิสระ ดีกว่าการถูกจองจำ หรือกักขัง บังคับให้อยู่ในค่ายใดค่ายหนึ่ง และเชื่อว่า หากการทำหน้าที่ของ สว.สีขาวเป็นไปอย่างมีเหตุมีผล แม้จะลงมติแพ้ ก็เชื่อว่า จะชนะในประชาชนได้ และค่าตอบแทนที่ได้รับจากรัฐสภา ก็คุ้มค่าพออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปรับลาภที่ไม่ควรได้จากที่ใดอีก
นพ.เปรมศักดิ์ ยังกล่าวถึงคุณสมบัติของประธานวุฒิสภาคนใหม่ที่ควรมีว่า จะต้องมีสุขภาพ เพื่อควบคุมการประชุมให้มีคุณภาพ และตัวเต็งต่าง ๆ ควรไปตรวจสุขภาพก่อน เพราะงานวุฒิสภา เป็นงานหนัก นอกจากนั้น จะต้องมีความรู้ ความสามารถ และมีแนวทางการทำงาน มีวุฒิภาวะ รับฟังเสียงข้างน้อย เพราะบางครั้งอาจถูกมูมเมอร์แรงสะท้อนกลับได้ และหากไม่สังกัดกลุ่ม เป็นอิสระ สีขาวยิ่งดี เพราะจะได้ไม่ต้องคำนึงถึงใครนอกจากประชาชน และที่สำคัญ จะต้องควบคุมการประชุมได้ เพราะทักษะการทำงานระบบรัฐสภา ต่างจากทักษะรับราชการ หรือวิชาการ และต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง
ทั้งนี้การงาน 5 ปีของ สว. นพ.เปรมศักดิ์ เชื่อว่า น่าจะรอด เพราะ สว.ทั้ง 200 คน มีคุณภาพทั้งนั้น และอย่ามองว่า สว.จบปริญญาใดมา เพราะกฎหมายไม่ได้บัญญัติ และบัญญัติให้มีเพียงประสบการณ์ในวิชาชีพ 10 ปีเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อมาทำหน้าที่ สว. ก็เชื่อว่า จะสามารถเรียนรู้กับเพื่อน สว.ได้ และเชื่อว่า การกลั่นกรองกฎหมายจาก สว.ชุดนี้ จะรอบคอบ มีความหลากหลายในการอภิปราย แตกต่างจาก สว.ชุดก่อนที่ไม่มีข้อแตกต่าง จึงขออย่าเพิ่งสบประมาท สว.ชุดใหม่.-319.-สำนักข่าวไทย