กรุงเทพฯ 1 พ.ค. – “ชัยธวัช” หวังศาลรัฐธรรมนูญจะอนุมัติการขยายเวลาส่งคำชี้แจงคดียุบพรรคในรอบสอง ยกเหตุผลความจำเป็นในการขอความร่วมมือกับบุคคลมาเป็นพยาน หากไม่ขยายให้ถือว่าพรรคไม่ได้รับโอกาสในการต่อสู้ในคดีโทษแรงขั้นยุบพรรค พร้อมจี้รัฐบาลทบทวนคำถามการทำประชามติหากมีเจตนาจะแก้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ให้เป็นคำถามที่ชัดเจน-เข้าใจง่าย
นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) มีการประชุม สส.พรรคก้าวไกล หารือในหลายประเด็น ทั้งการอัปเดตสถานการณ์เกี่ยวกับคดียุบพรรค โดยได้แจ้ง สส. ให้ทราบว่ามีการยื่นขอขยายเวลาในการส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารอบสองอีก 30 วัน หลังจากศาลอนุมัติ และจะครบกำหนดในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ โดยคาดหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาอนุมัติการขอขยายเวลาสงครามชี้แจง
โดยอ้างอิงเหตุผลว่าช่วงที่ผ่านมาการส่งคำชี้แจงมีความจำเป็นต้องลงรายละเอียดเยอะ ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในการต่อสู้คดี ซึ่งโทษร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรคการเมือง และตัดสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรค
“ช่วงเวลาที่ผ่านมาตามกรอบเวลาของศาล ช่วงเวลา 30 วัน ไม่เพียงพอในการแสวงหาข้อเท็จจริง รวมถึงการขอความร่วมมือที่จะขอมาให้เป็นพยาน หวังว่าวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาตามคำร้องของเรา” นายชัยธวัช กล่าว
นายชัยธวัช กล่าวว่า หากศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุมัติให้ขยายเวลาสงครามชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในรอบสอง จะถือว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้รับโอกาสให้ได้ต่อสู้ที่มีความร้ายแรงขนาดนี้อย่างเต็มที่
นายชัยธวัช เปิดเผยว่า มีการพูดคุยกันเรื่องท่าทีตอบคำถามการทำประชามติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยที่ประชุม สส. เห็นตรงกันว่าต้องการให้รัฐบาลทบทวนคำถามทำประชามติ ให้เป็นคำถามที่กว้างที่สุด ง่ายมีความชัดเจน ไม่ใช่คำถามที่ซ้อนคำถาม เช่น ถามว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ชี้ว่าเป็นคำถามที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การทำประชามติที่ดี เข้าใจง่ายชัดเจน และจะเป็นคำถามที่จะทำให้ประชาชนที่เห็นด้วยกับการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่รวมเสียงอย่างเป็นเอกภาพมากที่สุด และทำให้แนวโน้มประชามติผ่านได้ และหากไม่มีการปรับคำถามประชามติทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและทำให้การทำประชามติตกไปในรอบแรกจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ถ้าประชามติไม่ผ่านตามอย่างที่คาดหวังไว้
“เป็นความปรารถนาดีของพรรคก้าวไกลที่อยากให้รัฐบาลทบทวน ส่วนหากรัฐบาลเห็นว่าในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ควรจะยกเว้นเนื้อหาอย่างใดอย่างหนึ่ง สามารถนำไปกำหนดในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมของรัฐบาลได้เมื่อประชามติผ่าน อันนี้เป็นข้อเสนอของพรรคก้าวไกลที่เห็นตรงกันในช่วงของสุดท้ายก่อนที่รัฐบาลจะตัดสินใจ” นายนายชัยธวัช กล่าว
นายชัยธวัช กล่าวย้ำว่า หากรัฐบาลมีเจตนาตั้งใจที่จะทำให้การทำประชามติผ่าน และนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างแท้จริง ควรจะทบทวนคำถาม ส่วนเรื่องการมี สสร. หรือมีโครงสร้างอย่างไร เนื้อหาในรัฐธรรมนูญฉบับฉบับใหม่ควรมีข้อจำกัดอย่างไรหรือไม่ สามารถนำไปกำหนดในร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของแต่ละภาคการเมืองได้
นายชัยธวัช ย้ำว่า ในการเร่งพิจารณาร่างกฎหมายประชามติฉบับแก้ไขเพิ่มเติม หากสามารถแก้ไขได้ทันก่อนการทำประชามติครั้งแรกจะเป็นเรื่องที่ดี และพรรคฝ่ายค้านพร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งมีร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลเสนอไปแล้ว แต่ฝั่งรัฐบาลยังไม่มีการยื่นร่างกฎหมายประชามติ หวังรัฐบาลจะยื่นโดยเร็ว หรือเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาในวาระที่หนึ่ง.-314-สำนักข่าวไทย