สว. ชี้สถานการณ์เมียนมาต้องเฝ้าระวัง-ห่วงคนทะลัก

รัฐสภา 9 เม.ย.- สว. ชี้สถานการณ์สู้รบในเมียนมา ต้องเฝ้าระวัง ห่วงผู้หนีภัยทะลักเข้าไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภา (สว.) ได้พิจารณารายงานศึกษา เรื่อง ผู้หนีภัยสู้รบจากเมียนมาและผู้หนีภัยความไม่สงบจากเมียนมาในประเทศไทย ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ วุฒิสภา พิจารณาแล้วเสร็จ


โดยนายถวิล เปลี่ยนศรี สว. ในฐานะ อนุกรรมาธิการพิจารณาและติดตามสถานการณ์ระหว่างประเทศที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย  กล่าวรายงานเนื้อหาตอนหนึ่งถึงสถานการณ์ผู้หลบหนีเข้าเมือง รวมถึงผู้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลไทยต้องรับภาระ ว่า กลุ่มคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทย 4-5 ล้านคนเป็นอย่างต่ำ ซึ่งมีทั้งกลุ่มแรงงานต่างด้าว, กลุ่มผู้ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย และกว่า 40 ปีที่มีผู้หลบหนีเข้าเมือง บางกลุ่มประเทศไทยยังต้องแบกรับ เพราะปัญหาเกิดง่ายแต่แก้ไขยาก โดยเฉพาะการส่งกลับไปยังประเทศแม่ของผู้ลี้ภัย เช่น ในกรณีของม้งลาว

นายถวิล กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์สู้รบในเมียนมา พบว่าทหารเมียนมายึดพื้นที่ชายแดน ทำให้มีผู้หนีภัยสงครามในประเทศไทย กว่า  7.7 หมื่นคน สำหรับข้อเสนอคือ ตั้งถิ่นฐานประเทศที่สาม หรือ แปรสภาพให้เกิดประโยชน์ของไทย เพื่อปิดศูนย์พักพิงใน 4 จังหวัดทั้งหมดได้ ทั้งนี้หลังสถานการณ์สู้รบ ปี 65 พบว่ามีผู้หนีภัยสงครามจากเมียนมาอีก ซึ่งการประเมินพบว่าสามารถให้พำนักได้ชั่วคราว เพราะไม่เกิดการปิดพื้นที่ชายแดน ดังนั้นจึงสามารถส่งกลับได้ เพื่อแก้ปัญหาให้จบได้


“สถานการณ์เมียนมา ไม่แน่นอน ปัจจุบันเจอปัญหา 2 กระทบ ไม่ใช่ขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมา กับชนกลุ่มน้อย ชาติพันธุ์แนวชายแดน และยังมีกลุ่มต่อต้านรัฐบาล รัฐบาลผลัดถิ่น มีการต่อสู้ที่เข้มแข็ง ดังนั้นสถานการณ์ไม่สงบ แต่การแก้ปัญหาผู้หนีภัย ที่วางรากฐานและบทเรียนแก้ปัญหาได้ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา” นายถวิล กล่าว

ขณะที่ พล.ร.อ.พัลลภ ศมิศานนท์  สว. อภิปรายว่า ตนมองว่าการสู้รบในเมียนมาจะยังคงหนักหน่วง และคาดว่าจะมีผู้อพยพเข้ามาในประเทศ อีกทั้งเชื่อว่าการสู้รบระหว่างรัฐบาลและชนกลุ่มน้อย จะเข้าสู่จุดผกผันได้ ดังนั้นฝ่ายความมั่นคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมถึงประเมินทางแก้ระดับมหภาคด้วย เพื่อไม่ให้ไทยเป็นประเทศเดียวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบและเหตุการณ์สู้รบในเมียนมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการอภิปรายของ สว. ได้แสดงความกังวลและห่วงใยต่อสถานการณ์สู้รบในพื้นที่เมียนมาที่คาดว่าจะกระทบในประเด็นสิทธิและเสรีภาพ รวมถึงประเทศไทย เจ้าหน้าที่ที่ดูแลศูนย์ผู้อพยพที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบร่วมด้วย จึงมีข้อเสนอไปยังรัฐบาลด้วยว่าควรบริหารจัดการผู้อพยพในศูนย์พักพิง.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ได้เบาะแสเพิ่ม โจร 30 วิ ล็อกเป้าชิงทอง 1.6 ล้าน

เหตุคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนปลอม ชิงทองมูลค่า 1.6 ล้าน กลางห้างอุดรฯ ชุดสืบยังเร่งแกะรอยล่า ยืนยันได้วงจรปิดเส้นทางมาชิงทองและเส้นทางหนีแล้ว มั่นใจคนร้ายล็อกเป้ามาชิงทองร้านนี้ร้านเดียว

สส.ปชน.โต้ “ทักษิณ” ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก

สส.เหนือ พรรคประชาชน โต้ “ทักษิณ” หลังซัด “เท้ง” สึ่งตึง “พุธิตา” ย้อน ตลกดี เป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก ลั่นดิสเครดิตแบบนี้ไม่ได้อะไร ไล่ไปทำหน้าที่รัฐบาลให้ดี เห็นมากี่ทีขอ สส.คืน

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ เขต 8

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8 หลัง “กล้าธรรม” ชิงประกาศชัยชนะ ผิดหวังภาคใต้ซื้อเสียงโจ๋งครึ่ม หวังประชาชนยังเทใจให้ชนะเลือกตั้งทั่วไป

ข่าวแนะนำ

น้ำทะลักแม่สายคลี่คลาย ชาวบ้านหวั่นซ้ำรอยท่วมใหญ่

ปภ.เชียงราย แจ้งสถานการณ์น้ำท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย คลี่คลายแล้ว หลังฝนตกหนักบริเวณรัฐฉานของเมียนมา ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่สาย ขณะที่ชาวบ้านผวา หวั่นซ้ำรอยวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ปีที่ผ่านมา

แจ้งข้อหาโชเฟอร์แท็กซี่ขวางรถพยาบาล ทำผู้ป่วยฉุกเฉินเสียชีวิต

แท็กซี่ป้ายเขียวขวางรถพยาบาล เปิดไซเรนขอทางแต่ไม่สนใจ ทำผู้ป่วยฉุกเฉินเสียชีวิตคารถ ล่าสุดตำรวจเรียกโชเฟอร์แท็กซี่แจ้งข้อหาแล้ว

ต้นน้ำฝนตกหนัก แม่น้ำสายเอ่อท่วมหลายชุมชน

ต้นน้ำฝนตกหนัก แม่น้ำสายเอ่อท่วมหลายใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชาวบ้านต่างรีบเก็บของขึ้นที่สูง ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลง

รื้อซากตึกสตง.

รื้อซาก สตง.ถึงชั้นใต้ดินแล้วบางส่วน-พบผู้สูญหายอีก 1 ร่าง

เจ้าหน้าที่ลดความสูงซากตึก สตง. ถึงชั้น 1 แล้ว และลงไปถึงชั้นใต้ดินได้บางส่วน โดยวันนี้จะเสริมรถหัวเจาะกระแทกเข้ามาเพิ่ม ขณะที่เมื่อคืนพบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง ยืนยันจะทำงานให้เร็วที่สุด เพื่อคืนร่างผู้สูญหายทั้งหมดให้ญาติ