“ปชป.” หนุนการละเล่นพื้นบ้าน-ไม่เอา Entertainment Complex

โรงแรมเคปดารา รีสอร์ท พัทยา 31 มี.ค. – “ปชป.” หนุนการละเล่นพื้นบ้าน ไม่เอา Entertainment Complex “ชัยชนะ” แนะยกระดับวงพนันงานศพ-บั้งไฟ-หนูนาพาโชค ต้องขออนุญาตนำค่าธรรมเนียมเข้ารัฐ ซัด “เศรษฐา”อย่าฝันในสิ่งที่ทำไม่ได้ เหน็บเป็นนายฯ ทิพย์ ชกเป้าลม ทำงานจึงเป็นแบบลม


นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สนับสนุนให้มี Entertainment Complex หลังที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบรายงานเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยจะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ว่าตนได้ดูเนื้อหาแล้วเห็นว่าการสร้าง Entertainment Complex ต้องใช้พื้นที่ 10,000 ตารางเมตร และต้องอยู่ห่างไกลจากสนามบินไม่เกิน 100 กิโลเมตร ต้องลงทุน 300,000 ล้านบาท เรื่องนี้ตนคิดว่ารัฐบาลควรศึกษาให้รอบคอบ เนื่องจากต้องไปศึกษาประเทศที่มี Entertainment Complex แล้วฐานภาษี 10 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นหรือลดลง และปัญหาสังคมจะยับยั้งไว้อย่างไร

นายชัยชนะ กล่าวว่า สิ่งที่ตนคิดว่ารัฐบาลควรทำคือ ควรทำการละเล่นพื้นบ้านให้ถูกต้องก่อน เช่น วัวชน ไก่ชน ปลากัด หรือการเล่นไฮโล เล่นไพ่ในงานศพ วิธีการง่ายๆ คือถ้ามีงานศพก็ให้เจ้าภาพไปขออนุญาตที่อำเภอ แล้วคิดค่าธรรมเนียมนำเงินเข้าราชการวงละ 500 บาท เช่น 1 คืน 3 วง รวม 1,500 บาท แล้วถ้าเกินจากนี้ก็บังคับใช้กฎหมายจับอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงการละเล่นพื้นบ้านในภาคอีสาน เช่น การเล่นบั้งไฟ ลูกสะบ้า เกมยิงลูกแก้ว หนูนาพาโชค ถ้ารัฐบาลทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง และขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย เป็นครั้งคราว ตามประเพณี ตนคิดว่ารายได้จะเข้าสู่ประเทศมากขึ้น และหยุดส่วยมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเราไปทำ Entertainment Complex ต้องยอมรับว่าความจริงเกิดขึ้นได้หรือไม่ ต้องใช้เวลากี่ปี เพราะศึกษาเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2548 รวมถึงสภาฯ ชุดที่แล้วก็มีการศึกษากันแต่ไม่ได้ทำ สภาฯ ชุดนี้ยังมาศึกษาอีก ดังนั้น ตนคิดว่าถ้าเราศึกษาเรื่องไหนที่เป็นไปไม่ได้ควรเอาเรื่องที่ทำเป็นไปได้ก่อน


เมื่อถามว่า ทางรัฐบาลระบุว่าจะมีการต่อยอดจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ที่จะใช้สนามบินอู่ตะเภา เพราะสะดวกในเรื่องพื้นที่การเดินทาง ซึ่งถือว่าเหมาะสมที่สุด นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าที่ดินสามารถหาได้ แต่ขอถามว่าถ้าทำจริงๆ ต้องลงทุน 300,000 ล้านบาท จะหาบริษัทมาลงทุนได้หรือไม่ เพราะเรื่องฐานภาษีย้อนหลังทั้งประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ จะพบว่าฐานภาษีลดลง ไม่ได้เพิ่มขึ้น ฉะนั้นตนคิดว่าถ้าเอารูปแบบต่างประเทศเข้ามา เราจะยับยั้งปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ แต่ถ้าเราเอาการละเล่นพื้นบ้านมาทำให้ถูกต้องทั้งหมด อะไรที่อยู่ใต้ดินที่บอกว่าตำรวจยังเก็บส่วยมีผลประโยชน์อยู่ หรือหน่วยงานของรัฐมีผลประโยชน์ ตนคิดว่าต้องเอาของเหล่านี้มาอยู่บนดินให้ได้ รวมถึงหวยใต้ดิน เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าคนไทยไม่ได้เล่นหวยใต้ดิน เมื่อซื้อลอตเตอรี่ก็ต้องเล่นหวยใต้ดิน เอามาทำให้ถูกต้อง โดยสร้างแพลตฟอร์มเป็นของรัฐเองทั้งหมด เช่น แพลตฟอร์มลอตเตอรี่ เพราะทุกวันนี้ขายผ่านแอปฯ เป๋าตัง ที่เหลือก็ยังซื้อตรง จึงเห็นว่าถ้าทำผ่านแพลตฟอร์มทั้งหมด ปัญหาจะหายไป ​รัฐบาลจะได้รายได้มากขึ้น

เมื่อถามว่า มีความกังวลว่าการทำให้พนันถูกกฎหมายจะทำให้มีนักพนันหน้าใหม่เพิ่มมากขึ้น นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนถามข้อเท็จจริง โดยตนไม่ได้พูดเรื่อง Entertainment Complex แล้วการละเล่นพื้นบ้านเราหลีกเลี่ยงได้หรือไม่ งานไหนบ้างไม่มีการเล่นไฮโล ไพ่สำรับ ไพ่ตอง ไพ่จอด ต้องยอมรับว่าสังคมไทยมีอยู่จริง และปฏิเสธได้หรือไม่ว่าคนไทยทุกวันที่ 1 กับ 16 ไม่ซื้อหวยใต้ดิน แต่ถ้าเราเอาของแบบนี้มาอยู่บนดินแล้วทำให้ถูกต้องรัฐจะมีรายได้มากขึ้น ดังนั้น ควรผลักดันสิ่งที่เป็นอยู่ให้ถูกต้อง เพราะหากเราสร้าง Entertainment Complex ขึ้นมา ปัญหาสังคมที่จะตามมาใครจะยับยั้ง

“ตนคิดว่ารัฐบาลต้องยอมรับว่าเป็นรัฐบาลทิพย์อยู่ตลอดเวลา เพราะผลักดันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นายกฯ ก็เป็นนายกฯ ทิพย์อยู่แบบนี้ เพราะท่านคิดฝันแล้วทำไม่ได้ นี่คือเป็นคุณสมบัติของท่านนายกฯ ศรีธนญชัย คือนายเศรษา ทวีสิน และที่นายกฯ แสดงความฟิตด้วยการชกมวยก็คงเครียด เมื่อเป็นนายกฯ ทิพย์ แล้วทำอะไรไม่ได้ด้วย ที่ทำได้ที่สุดคือต่อยเป้ามวย ตนดีใจด้วยที่นายกฯ ใช้วันพักผ่อนชกมวย ซึ่งยังชกลมอยู่ เพราะฉะนั้นการทำงานก็ยังทำงานลมอยู่” นายชัยชนะ กล่าว


เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับ Entertainment Complex ไม่เอาใช่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า จากการหารือกับ สส.ในพรรค ซึ่งไม่ใช่มติพรรค เห็นด้วยกับการสนับสนุนการละเล่นพื้นบ้าน แต่ Entertainment Complex เรายังไม่สนับสนุน เพราะเรามองว่าเป็นไปไม่ได้ และถ้านายเศรษฐาไม่รู้จักการละเล่นพื้นบ้านที่ตนกล่าวมาแล้ว เชิญตนไปให้ข้อมูลได้.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย