ผู้ช่วย ผอ.รมน.ติดตามสถานการณ์ไฟป่า-หมอกควันภาคเหนือ

9 มี.ค. – ผู้ช่วย ผอ.รมน. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน พร้อมเร่งบูรณาการสกัดกั้นยางพาราเถื่อนเข้าประเทศ ในพื้นที่ภาคเหนือ เน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติการด้วยความระมัดระวัง รวดเร็ว ทันท่วงที


ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในห้วงปัจจุบันเข้าสู่ฤดูที่จะมีระดับความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงปัญหายาเสพติด และการนำยางพาราจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านแดนบริเวณชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ไปยังประเทศที่สาม ซอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร และระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

จึงได้สั่งการ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. ในฐานะ รอง ผอ.รมน. เร่งบูรณาการหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยอาศัยกลไกของ กอ.รมน. ในการขับเคลื่อนและร่วมกันแก้ไขปัญหา


รอง ผอ.รมน. จึงมอบหมายเป็นการเร่งด่วนให้ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะผู้ช่วย ผอ.รมน. ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ เร่งรัดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการด่วน ตามนโบายของนายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน. ใน 3 พื้นที่สำคัญได้แก่ จ.ตาก เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน

โดยในช่วงเช้าคณะฯ ได้เดินทางลงพื้นที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำยางพาราเข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมาย พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปแนวทางการนำผ่านสินค้ายางพาราไปยังประเทศที่สาม จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในห้วงที่ผ่านมา

มีรายละเอียดที่สำคัญคือ พบข้อมูลมีการขอขนย้ายนำผ่านสินค้ายางพาราไปประเทศที่สาม มีจำนวนมากกว่าปกติในช่วงเดือน ก.พ. 67 ที่ผ่านมา โดยในปัจจุบันศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จ.ตาก จึงมีหนังสือขอให้ด่านศุลกากรแม่สอด ระงับการนำผ่าน (Transit) สินค้ายางพารา ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา


ผู้ช่วย ผอ.รมน. กล่าวชื่นชมให้กำลังใจในการทำงานของหน่วยราชการในพื้นที่ที่มีการประสานสอดคล้องการทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์แน่นแฟ้น เพื่อร่วมรักษาผลประโยชน์ของชาติและพี่น้องประชาชน

จากนั้นคณะฯ ได้เดินทางต่อไปยัง จ.เชียงใหม่ โดยมีการประชุมและรับฟังการบรรยายสรุปปัญหาแนวทางป้องกันการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ของ กอ.รมน.ภาค 3 และส่วนราชการที่เกี่ยงข้อง ณ ศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่าภาค 3 โดยในส่วนของ กอ.รมน.ภาค 2 ใช้การประชุมร่วมผ่านระบบ VTC

มีรายละเอียดที่สำคัญคือ ที่ประชุมได้มีการรายงานจุดความร้อน (Hot Spot) ที่พบในภาพรวมของ 17 จังหวัดภาคเหนือ ปัจจุบันยังอยู่ในปริมาณที่สูงในบางจังหวัด แต่เมื่อเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 66 ที่ผ่านมา พบว่าจำนวนจุดความร้อน สามารถลดระดับลงมาได้มากถึง 40-50% โดยยังพบพื้นที่ที่ประสบปัญหาไฟป่าส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 84% ส่วนพื้นที่ ส.ป.ก. พื้นที่ทางการเกษตร และพื้นที่อื่นๆ รวมกันยังคงมีสัดส่วนที่ไม่มาก ด้วยอาศัยมาตราการการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ผ่านมา

ในช่วงท้ายการประชุม ผู้ช่วย ผอ.รมน. ได้ให้แนวทางเพิ่มเติมว่าปัญหาเกิดจากหลายปัจจัยที่อาจสามารถควบคุมได้ และอาจควบคุมไม่ได้จากสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน หน่วยราชการจึงต้องอาศัยประสานบูรณาการความร่วมมือกัน สำหรับ กอ.รมน.ภาค 2 สามารถอาศัยแนวทางของ กอ.รมน.ภาค 3 และสามารถจำลองสถานการณ์ (War game) เพื่อให้ทราบแนวทางการบริหาร การใช้บุคลากร เครื่องมือ และวิธีการปฏิบัติต่างๆ หากเผชิญปัญหาจะสามารถตอบสนองการแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที

พร้อมกันนี้ ผู้ช่วย ผอ.รมน. ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานยึดมั่นในเป้าหมายดัชนี KPI ของจำนวนจุดความร้อน จำนวนพื้นที่เผาไหม้ จำนวนวันที่พบค่า PM 2.5 เกินมาตราฐาน และจำนวนผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ มีระดับลดลง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 66 ที่ผ่านมา

ในช่วงบ่ายได้เดินทางต่อไปยัง จ.แม่ฮ่องสอน โดยได้มีการประชุมหารือและรับฟังการบรรยายสรุปกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ได้ทราบถึงการเตรียมความพร้อมแผนการรองรับสถานการณ์จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนแนวทางการปฏิบัติของจังหวัดในห้วงที่ผ่านมา แต่เนื่องจากการคาดการณ์สถานการณ์ในเดือน มี.ค. และเดือน เม.ย. 67 ที่จะถึงนี้อาจมีระดับความรุนแรงมากขึ้น ผู้ช่วย ผอ.รมน. ขอให้ทางจังหวัดได้มีการประเมินสถานการณ์อย่างละเอียดและใกล้ชิด หากมีความจำเป็นสามารถจัดทำแผนเพิ่มเติมเพื่อรองรับสถานการณ์ในห้วง 2 เดือนนี้ เพื่อให้การแก้ปัญหาของห้วงเวลาดังกล่าวมีความสมบูรณ์มากที่สุด

โดยก่อนปิดการประชุมผู้ช่วย ผอ.รมน. ได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ บุคลากรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันทำงานและร่วมกันแก้ปัญหาในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน.

หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยังหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อพบปะและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ โดยเฉพาะการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดบริเวณพื้นที่ชายแดน ตามนโยบายของรัฐบาล

ในโอกาสนี้ ผู้ช่วย ผอ.รมน. ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดและสกัดกั้นยาเสพติด ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานความมั่นคง ในการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ตอนใน ด้วยการจัดกำลังลาดตระเวนเฝ้าตรวจอย่างเข้มงวด ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังลาดตระเวนในพื้นที่บ้านปายสองแง่ ดอยหัวแหวน ดอยผักกูด อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยจึงได้ตรวจสอบในขั้นต้นพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 คือ ยาบ้า 7,000,000 เม็ด และยาไอซ์ 100 กก. เป็นมูลค่า 700 ล้านบาท โดยมีการลักลอบขนย้ายมาตามเส้นทางธรรมชาติ บริเวณพื้นที่รอยต่อ จ.แม่ฮ่องสอน กับ จ.เชียงใหม่ โดยยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ กองกำลังนเรศวร/ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองกำลังนเรศวรจะส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ปาย เพื่อทำการพิสูจน์และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ กอ.รมน. จะเร่งบูรณาการและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความมั่นคง ตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหามลพิษไฟป่า หมอกควัน ปัญหายาเสพติด การนำเข้าสินค้าทางการเกษตรที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนความมั่นคงตามแนวชายแดน และภัยความมั่นคงในมิติอื่นๆ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน และเพื่อความมั่นคงของประเทศต่อไป.-311-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]