หวังกองทัพร่วมมือโครงการพลทหารปลอดภัย

สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) 2 ก.พ.-“วิโรจน์” เผยหัวข้อเตรียมหารือรมว.กลาโหม ชูโครงการพลทหารปลอดภัย หวังกองทัพให้ความร่วมมือ เน้นย้ำการทำงานร่วมกัน


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การมากระทรวงกลาโหมในครั้งนี้เพื่อทำงานร่วมกัน โดยมีจุดยืนสำคัญว่าเพื่อให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ซึ่งกันและกันในการติดตามตรวจสอบ โดยเฉพาะความโปร่งใสในการดำเนินการกิจการกองทัพ เช่น เรื่องเรือดำน้ำ เรือหลวงสุโขทัย และที่ดินทหารที่ทับซ้อนกับพลเรือน รวมถึงการจัดการเงินนอกงบประมาณของกองทัพให้มีความโปร่งใส เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพลเรือนกับกองทัพไม่ให้เกิดการตั้งคำถามในแง่ลบ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นความจริงใจของคณะกรรมาธิการการทหาร

นายวิโรจน์ กล่าวว่า โครงการที่สำคัญที่สุดที่คณะ กมธ.การทหารจะเปิดตัววันนี้ และขอความร่วมมือจากทางกระทรวงกลาโหม คือโครงการ “พลทหารปลอดภัย” โดยมีรองประธานกรรมาธิการฯ คือ นาย  ธนเดช เพ็งสุข สส.พรรคก้าวไกล และรองประธาน กมธ.การทหาร เป็นผู้ประสานงาน เปิดช่องทางการร้องเรียนอย่างเป็นทางการ หากพบเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนกับสวัสดิภาพของพลทหารที่อยู่ในค่ายทหาร จะหารือโดยด่วนที่สุด เพื่อสกัดกั้นความไม่ถูกต้อง โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องไม่มีทหารเกณฑ์บาดเจ็บหรือเสียชีวิตเลย


“โครงการนี้จะทำให้ผู้ปกครองของพลทหารรู้สึกปลอดภัย และหากทหารรู้สึกว่าการอยู่ในค่ายมีความปลอดภัย ในอนาคตอาจมีผู้มาสมัครมากขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งรายละเอียดจะให้นายธนเดช แถลงให้ทราบอีกครั้ง โครงการนี้จะฝึกอบรม โดยขอความร่วมมือจากกระทรวงกลาโหม ให้ส่งทหารระดับบังคับบัญชามาอบรมเกี่ยวกับพ.ร.บ. อุ้มหายและซ้อมทรมาน หากสุดท้าย ไม่สามารถป้องกันเหตุการณ์ได้จริง ๆ เรามีกระบวนการและกฎเกณฑ์ที่จะรวบรวมหลักฐานและข้อเท็จจริง ส่งต่อไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) อัยการสำนักงานสอบสวน เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามพ.ร.บ.อุ้มหาย ซึ่งวันนี้จะมาชี้แจงให้นาย สุทินทราบถึงความปรารถนาดีและกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบของกรรมาธิการเป็นอย่างไร” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องความร่วมมือการขอข้อมูลตรวจสอบข้อเท็จจริง ยุคก่อนจะทำหนังสือไปถึงหน่วยงานเพียง 1 ครั้ง หากไม่ได้รับคำตอบจะเงียบหายไป แต่มติ กรรมาธิการการทหารจะทำหนังสือตามถึง 3 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกจะทำหนังสือถึงหน่วยงานโดยตรง ครั้งที่สองจะทำถึงนายสุทิน ผู้บังคับบัญชาสูงสุด เพื่อสั่งการหน่วยงาน และครั้งที่สามจะทำหนังสือส่งไปว่ายังไม่ได้รับ นายสุทินจะเห็นถึงความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการฯหรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะเข้าใจได้ว่านายสุทินมีเจตนาไม่ให้ความร่วมมือ.-317.-สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

สั่งย้าย “อธิบดีกรมวิชาการเกษตร” ปมเอื้อแล็บตรวจ BY2 ทุเรียนส่งออก

ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ลงนามในคำสั่งย้าย “อธิบดีกรมวิชาการเกษตร” มาช่วยราชการที่กระทรวงเกษตรฯ หลังมีหนังสือร้องเรียนเอื้อเอกชนเรียกรับเงินตรวจสอบสาร BY2 ทุเรียนส่งออก

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

“นฤมล” เผยได้รับหนังสือร้องเรียนอธิบดีกรมวิชาการเกษตรปมแล็บตรวจ BY2

รมว. เกษตรฯ เผยได้รับหนังสือร้องเรียนจากสมาคมผู้ค้าและผู้ส่งออกผลไม้ที่ขอให้ตรวจสอบอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์แล็บตรวจสาร Basic Yellow 2 (BY2)

ผลตรวจดีเอ็นเอ “ผกก.โจ้” ออกแล้ว ส่งให้ สน.ประชาชื่น

ออกแล้ว ผลตรวจผ้าขนหนู คดี “ผกก.โจ้” ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น เตรียมส่งผลให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินการต่อ

กระบะตัดหน้ารถไฟ ชนสนั่น ตาย 4 เจ็บ 6

กระบะขนคนงานจับกุ้งกุลาดำ ขับตัดหน้ารถไฟ ก่อนพุ่งชนสนั่น ตายคาที่ 4 ศพ เจ็บระนาวอีก 6 ราย ขณะที่คนขับไร้อาการบาดเจ็บ อ้างไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ตำรวจคุมตัวตรวจพบฉี่ม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยาบ้า ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาหนัก

ข่าวแนะนำ

อากาศเย็นหลงฤดู

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้ อีสานลดฮวบ 5-8 องศาฯ ภาคอื่นๆ ลดลง 2-4 องศาฯ ส่งผลให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่

จำลองเหตุผู้กำกับโจ้

พฐ. นำหุ่น-คน จำลองเหตุการ์คลี่ปม “อดีต ผกก.โจ้”

พฐ. นำหุ่น-คนเท่าตัวจริง จำลองเหตุการณ์ “อดีตผู้กำกับโจ้” คลี่ปมเสียชีวิตในเรือนจำ ส่วนผลตรวจยันไม่มี “ดีเอ็นเอ” ผู้อื่นในที่เกิดเหตุ

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

สั่งย้าย “อธิบดีกรมวิชาการเกษตร” ปมเอื้อแล็บตรวจ BY2 ทุเรียนส่งออก

ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ลงนามในคำสั่งย้าย “อธิบดีกรมวิชาการเกษตร” มาช่วยราชการที่กระทรวงเกษตรฯ หลังมีหนังสือร้องเรียนเอื้อเอกชนเรียกรับเงินตรวจสอบสาร BY2 ทุเรียนส่งออก

กรุงเทพเมืองอาหารโลก

กรุงเทพฯ ขึ้นแท่นเมืองแห่งอาหาร อันดับ 2 ของโลก

กรุงเทพฯ ขึ้นแท่นเมืองแห่งอาหาร อันดับ 2 ของโลก จาก Time Out ด้วยจุดแข็งความอร่อยสุดฮิต ดันเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยว