นายกฯ เปิดงานวันเด็กทำเนียบฯ มุ่งให้เด็กทุกคนเข้าถึงระบบการศึกษา

ทำเนียบรัฐบาล 13 ม.ค. – “เศรษฐา” เปิดงานวันเด็กทำเนียบฯ ลั่นรัฐส่งเสริมให้เด็กทุกคนเข้าถึงระบบการศึกษา ฝากผู้ปกครองช่วยเสริมสร้างประสบการณ์-ทักษะ พร้อมใช้ชีวิตทันโลก ปลูกฝังให้เคารพสิทธิเสรีภาพของกันและกัน


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมกิจกรรมงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วมด้วย

โดยก่อนการเปิดงาน นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเข้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อทักทายเยาวชนผู้มีความสามารถและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสที่ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จำนวน 10 คน พร้อมมอบของที่ระลึกและถ่ายภาพร่วมกันบนที่นั่งเก้าอี้ทำงานของนายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีม่วง


จากนั้น นายเศรษฐา กล่าวเปิดงานวันเด็กแห่งชาติอย่างเป็นทางการว่า เด็กไทยที่รักทุกคน เด็กๆ และเยาวชนทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง และคือผู้กำหนดอนาคตของประเทศชาติของเรา ความปรารถนาสูงสุดของตน คือ อยากให้เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับการส่งเสริมการเรียนรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถนั้นให้เป็นประโยชน์ ทั้งต่อการดำรงชีวิตในมิติทางเศรษฐกิจ และมิติของการสร้างความสุขให้กับตัวเองและผู้อื่น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อโอกาสของเด็กๆ ทุกคน รัฐบาลนี้มุ่งมั่นส่งเสริมให้เด็กทุกคนเข้าถึงระบบการศึกษา โดยตั้งเป้าหมาย Zero Dropout คือ จะไม่มีเด็กและเยาวชนหลุดจากระบบการศึกษาในประเทศนี้ เราจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยเชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนนักเรียนรายบุคคลที่หลุดออกจากระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่ระบบ เราจะส่งเสริมการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น (Flexible Learning Strategies : FLS) เพิ่มทางเลือกให้ตรงตามความต้องการและวิถีชีวิตของผู้เรียน มุ่งเน้นการพัฒนาสมรรถนะ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษาซ้ำซาก

“วันเด็กปีนี้ ผมได้มอบคำขวัญไว้ว่า มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย เพราะผมอยากให้เด็กสัมผัสถึงความรัก ความห่วงใย ความปรารถนาดีจากผู้ใหญ่ ว่าเราอยากให้เขาได้เห็นโลกกว้าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เราอยากเห็นเด็กของเรามีชีวิตอยู่ด้วยความรัก ความเข้าใจในความแตกต่างของผู้คนที่อยู่ร่วมกับเราในสังคม ซึ่งท้ายที่สุดจะก่อรูปเป็นวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่อยู่ร่วมกันบนฐานของความรัก ความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมชาติและเพื่อนมนุษย์ในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ เป็นเด็กที่มีโลกทัศน์กว้างไกล เปิดรับเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต นอกเหนือจากในตำราเรียน

ทั้งนี้ ตนขอฝากไปยังผู้ปกครองและคุณครู ต้องช่วยกันเสริมสร้างประสบการณ์และทักษะ เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการดำเนินชีวิตให้ทันโลก ทันสมัยแห่งปัจจุบัน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมอย่างเป็นสากล ซึ่งหมายถึงการเคารพในสิทธิ เสรีภาพของกันและกัน เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต

“ในโอกาสนี้ ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่ร่วมกันจัดกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติให้แก่เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมกันเรียนรู้และมีความทรงจำดีๆ ในวันเด็กแห่งชาตินี้” นายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้าย

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมบูธกิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ของหน่วยงานต่างๆ ที่โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ในธีมมองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง และส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย ได้แก่

กิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล (Theme : ซอฟต์พาวเวอร์ แหล่งท่องเที่ยว อาหาร ศิลปะ)

กิจกรรม “ซอฟต์พาวเวอร์ไทย นิยมไกลไปทั่วโลก” โดยกระทรวงการต่างประเทศ ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

“เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์” โดยสำนักงาน กปร. ร่วมกับ กอ.รมน. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

กิจกรรมแถลงข่าวของเด็กและเยาวชน กิจกรรมระบายสีหัวโขนจิ๋ว กิจกรรมผจญภัยไปกับบันไดงู โดยสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล

กิจกรรมส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เช่น การแสดงหุ่นยนต์ E-Sport เทคโนโลยี AI ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

กิจกรรม “รวมพลังเด็กไทย ร่วมใจลดโลกเดือด Kids Change World Change” นำเสนอความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ บริเวณสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า และบริเวณถนนประตู 2 และ 3 ทำเนียบรัฐบาล.-317-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

พายุลูกเห็บถล่มโคราช

โคราชอ่วม พายุลูกเห็บพัดถล่มรุนแรง “พิมาย-ประทาย” กองน้ำแข็งขาวโพลน ต้นไม้โค่นล้มหลายจุด ชาวบ้านบอกไม่เคยเจอพายุลูกเห็บหนักขนาดนี้มาก่อน

ล่าโจรชิงทอง 30 เส้น กลางห้างฯ อุดรธานี

อุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี คนร้ายสวมเสื้อไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อก ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำภายในร้านทอง ได้ไปถึง 30 เส้น ตำรวจเร่งตามล่าตัว

หนุ่มจีนฆ่าโหดคู่ขา อ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ”

หนุ่มจีนยอมรับฆ่าสาว LGBTQ+ เพราะถูกปฏิเสธร่วมหลับนอน และถูกถีบตกเตียง จึงโมโหแล้วบีบคอจนสิ้นใจตายคามือ ก่อนอ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ” เลยใช้กรรไกรกรีดหน้าอก ตัดหัวใจ คว้านซิลิโคน ออกมาไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันไม่ได้แตะต้อง

เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในอิหร่าน-เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรง ที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการระเบิดของวัสดุเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 700 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน