รัฐสภา 22 ธ.ค.-“สุเทพ” ชี้ กก.ไตรภาคีมีอำนาจไม่ทบทวนค่าแรงตามนายกฯสั่ง แนะฝ่ายการเมืองแก้กฎหมาย เปลี่ยนเงื่อนไขปรับค่าจ้าง สูตรคำนวณล้าหลัง ตัดการเมืองล้วงลูกค่าแรง
นายสุเทพ อู่อ้น สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีที่กรรมการไตรภาคีย้ำมติเดิม ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแค่ 2-16 บาท หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้กลับไปทบทวน ว่า หลายพรรคการเมืองหาเสียงเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำไว้ แต่การปรับค่าจ้างขั้นต่ำมีเงื่อนไขกฎหมายเดิมที่มีอยู่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ดังนั้น คณะกรรมการไตรภาคีที่ถือกฎหมายอยู่ มีอำนาจและมีสิทธิที่จะดำเนินการเต็มที่ ส่วนภาคการเมือง ต้องไปแก้ไขในส่วนกฎหมาย เพื่อให้มีการปรับเปลี่ยนเรื่องของเงื่อนไขการปรับค่าจ้าง
“ชัดเจนว่าสูตรการคิดอัตราค่าจ้างปัจจุบันเป็นสูตรที่ยังล้าสมัย โดยตามหลักสากล เรื่องค่าจ้าง ของ 1 คน ต้องสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ 3 คน แต่สูตรของกระทรวงแรงงานปัจจุบัน 1 คน สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ 1 คนเท่านั้น อีกทั้งแต่ละคน มีภาระ บ้านเช่า ข้าวซื้อ รถผ่อน ลูกเรียน และเลี้ยงดูพ่อแม่ จึงเป็นเรื่องที่ดี ที่กรรมาธิการการแรงงาน จะผลักดันให้เห็นการเปลี่ยนแปลง ให้เกิดความชัดเจน ว่าต่อไปการเมืองจะมายุ่งกับเรื่องค่าจ้างไม่ได้ ถ้ามีกฎหมายมาควบคุมโดยเฉพาะ ซึ่งพรรคก้าวไกลได้เสนอร่างพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ที่ขณะนี้ผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นแล้ว ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าว มีเนื้อหาปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็นไปตามเรื่องGDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศและCPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภค ที่จะมีการปรับเพิ่มขึ้นทุกปี จึงจะเป็นระบบที่นายจ้างและลูกจ้างจะได้รับการปรับตามค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยไม่เกี่ยวกับการเมือง รวมทั้งต้องปรับเรื่องทักษะแรงงาน ที่เมื่อกำหนดค่าจ้างขึ้นตามค่าครองชีพ ควรจะต้องปรับ 1% ที่จะให้สูงกว่าค่าจ้างที่มีการปรับตามค่าครองชีพ เพื่อให้มีเงินค่าจ้างที่เป็นธรรมและมีเงินสะสมในบั้นปลายชีวิต”นายสุเทพ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย