พรรคประชาธิปัตย์ 29 พ.ย.- “นราพัฒน์” เดินหน้าสู้ศึกชิง หัวหน้า ปชป. ชี้เป็นเรื่องดี “มาดามเดียร์” ประการลงแข่ง สะท้อน ปชป.ไม่มีเจ้าของ ปิดทางแก้สัดส่วนโหวต 70:30 ลั่นไม่ว่าแพ้หรือชนะ พร้อมทำงานร่วมกัน
นายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเสนอตัวลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ กล่าวถึงกรณีที่นางสาววทันยา บุนนาค ประกาศตัวลงชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ส่วนตัวยังยืนยันลงชิงหัวหน้าพรรคเช่นเดิม และเห็นว่าเป็นเรื่องดีที่มีคนมาลงชิงหัวหน้าพรรค เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ และเปิดโอกาสให้กับทุกคนอยู่แล้ว
“การที่ น.ส.วทันยา มาลงชิงหัวหน้าจะทำให้ภาพดีขึ้น เพราะเท่ากับว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการการเปลี่ยนแปลง และมีคนรุ่นใหม่ๆ สนใจเข้ามาร่วมบริหารและปรับปรุงพรรค ผสมผสานกับคนรุ่นเดิมๆ ได้ จึงถือเป็นภาพที่ดีและเป็นจุดแข็งของพรรค ที่จะสามารถอธิบายกับพี่น้องประชาชน และสมาชิกพรรคได้ ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาสร้างมนต์ขลังอีกครั้งหนึ่ง” นายนราพัฒน์ กล่าว
สำหรับข้อเสนอที่ให้ลดสัดส่วนองค์ประชุมส.ส.ที่จะใช้ในการโหวต 70:30 นั้น นายนรพัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนั้นผ่านถือว่าผ่านไปตั้งแต่การประชุมครั้งที่แล้ว การกำหนดสัดส่วนองค์ประชุม 70 ต่อ 30 ซึ่งถูกใช้มาทุกครั้ง หากจะมายกเว้นในครั้งนี้ก็จะดูว่า เหมือนการยกเว้นเฉพาะกิจแล้วเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มบางกลุ่ม จึงเห็นว่าควรต้องเป็นไปตามครรลองเดิม และหากเสียงส่วนใหญ่คิดว่าน่าจะยกเลิก เป็น 40 หรือเท่าเทียมกันหมด ก็น่าจะเป็นการเลือกตั้งในครั้งหน้าคือครั้งถัดไป เพราะเรายังมีเวลาในการที่จะปรับโครงสร้าง หรือแก้ไขข้อบังคับ หรือเขียนกฎกติกาอะไรเพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัย ก็ขอเป็นครั้งต่อๆ ไปที่จะทำ เพราะเรื่องนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาในการประชุมครั้งที่แล้วค่อนข้างมาก ว่าในอดีตที่เคยทำมาให้สัดส่วนในการโหวตสส. 70% แล้วเหตุใดครั้งนี้ส.ส.ที่ได้มา 30 กว่าคน ไม่มีความหมายหรืออย่างไรแล้วจะไปลดทอนสิทธิ์สส.เหล่านั้นเพื่ออะไร ในเมื่อการเลือกครั้งที่แล้วยังให้สิทธิ์สส. 70 ต่อ 30 แล้วเหตุใดครั้งนี้สส. ใหม่ไม่มีสิทธิ์ที่จะขับเคลื่อนพรรคตามที่พวกเขาต้องการหรือ ดังนั้นจึงเห็นว่าหากจะปรับหรือแก้ไขก็สามารถทำได้ แต่คงไม่ได้หมายความว่า มีกำหนดการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคออกมาแล้วจะแก้กันเฉพาะกิจเฉพาะหน้า เพื่อประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งตนคิดว่าไม่เหมาะสม
นายนราพัฒน์ กล่าวด้วยว่าภายหลังการเลือกหัวหน้าพรรคแล้ว ก็จะต้องมีคนที่แพ้แล้วออกไป แต่เห็นว่าหากคิดว่าเราเป็นประชาธิปไตยจริงและพรรคเป็นประชาธิปไตยจริง เราก็ควรต้องยอมรับเสียงข้างมาก
“หากตนชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค นางสาววทันยาก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในแผนที่ตนจะดึงมาร่วมงาน ให้ช่วยในเรื่องของการสื่อสารองค์กร ซึ่งถือเป็นงานที่ นางสาววทันยาถนัดอยู่แล้ว และหากนางสาววทันยาชนะเลือกขึ้นอยู่ กับนางสาววทันยาว่าจะใช้บริการตนหรือไม่ หรือจะมีทีมอย่างไรก็แล้วแต่ เพราะถือเป็นสิทธิ์และอำนาจ ของคนที่ได้รับฉันทามติจากสมาชิก”นายนราพัฒน์ กล่าว
ส่วนกังวลหรือไม่ว่าหลังการเลือกตั้งแล้วพรรคจะแตก นายนราพัฒน์ กล่าวว่า อะไรจะเกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นได้ทุกอย่างแต่ถามว่าในนามของสมาชิกพรรคและอยู่กับพรรคมานาน ไม่อยากเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น
“ตนจึงเรียกร้องมาตลอดว่า พรรคจะเดินหน้าได้ ต้องมีเอกภาพ เพราะฉะนั้นเราต้องมาร่วมกันสร้างเอกภาพ แพ้หรือชนะนั่นคือประชาธิปไตย เราก็ต้องมีวินัยและยอมรับมติ บางครั้งพวกเรา ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับบางมติ แต่ก็ต้องมีวินัย และเคารพมติ แล้วพรรคจะเดินไปข้างหน้าได้ จากนั้นก็สื่อสารให้กับพี่น้องประชาชนได้เข้าใจได้ แต่ถ้าต่างคนต่างคิดต่างทำ ก็ไม่มีความเป็นเอกภาพและสุดท้ายหลายคนก็ห่วงว่าพรรคจะไปไม่ได้และพรรคจะแตก ดังนั้นอยู่ที่พวกเราต้องช่วยกัน”นายนราพัฒน์ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย