ย้อนถามแก้ รธน. ประชาชนได้ประโยชน์อะไร

รัฐสภา 30 ต.ค.-“สว.จเด็จ” ย้อนถามแก้ รธน. ประชาชนได้ประโยชน์อะไร มองแค่แก้ “เอามัน” และยิ่งสร้างความแตกแยก เผย สว.ค่อนสภาฯ ไม่เอาแก้ทั้งฉบับ


นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ขอรับฟังความเห็นของวุฒิสภา เพื่อนำไปสู่การยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ว่า คำถามหนึ่งที่ไม่ค่อยได้พูดกันให้ประชาชนทราบคือ จะแก้ไขรัฐธรรมนูญไปทำไม ประชาชนได้ประโยชน์อะไร

“ไม่ได้หมายความว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่อยากให้ช่วยไตร่ตรองให้ดีว่า อะไรที่ทำแล้วเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติก็ควรทำ แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นว่า แก้แล้วจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ยุทธศาสตร์ของชาติดีขึ้น แต่เป็นการแก้ “เอามัน” เท่านั้น ไม่ใช่แก้เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและประเทศชาติ” นายจเด็จ  กล่าว


ดังนั้นจึงเห็นว่าไม่ควรต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ และหากกังวลเรื่องของอำนาจ สว.ชุดนี้ บทเฉพาะกาลก็จะหมดในเดือนพฤษภาคม 2567 แล้ว ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือน จึงไม่ต้องกังวล และมองว่าในทางตรงกันข้าม การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะก่อให้เกิดการถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความเห็นต่าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี และก่อให้เกิดความขัดแย้งกับคนในชาติ

“ที่สำคัญอยากให้วกกลับไปอีกทีว่า ประชาชนและประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันหลักของชาติ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้อะไรขึ้นมา ซึ่งขณะนี้เราอยู่อย่างมีความสุขและมีความมั่นคงแล้ว” นายจเด็จ กล่าว

สำหรับกรณีที่พรรคการเมืองประกาศไว้ในนโยบาย และจะให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. มายกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะทำอย่างไรนั้น นายจเด็จ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่พรรคการเมืองประกาศแล้ว ตอนนั้นลืมประกาศว่า แก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์อะไร ประชาชนได้อะไร และยิ่งต้องไปทำประชามติ จะยิ่งทำให้สิ้นเปลืองเงินทอง ดังนั้นจึงอยากให้คิดดูให้ดี ทางออกตรงนี้คือควรต้องพูดคุยและหามุมมองกันไป เพราะเชื่อว่าในที่สุดแล้ว คงไม่ไปถึงขั้นได้ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เพราะยิ่งทำอย่างนั้น จะยิ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง เป็นเรื่องที่พูดจากันมานานแล้ว


ส่วนที่มองว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 60 มาจากการทำรัฐประหาร จึงต้องให้มีการยกร่างใหม่นั้น นายจเด็จ กล่าวว่า เป็นการพูดวนอยู่อย่างนี้ และมองว่าแม้มาจากการทำรัฐประหาร แต่รัฐธรรมนูญปี 60 ก็มาจากการทำประชามติเช่นกัน และมาจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการพูดวนกันไปกันมา

“ประชาชนนั่งมองอยู่ว่า เมื่อไหร่เศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้น คนทำงานจะเป็นอย่างไร เมื่อไหร่ค่ารถไฟฟ้า ค่าน้ำมันจะลดลง เมื่อไหร่ที่ประชาชนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ในหลายๆ ด้าน ควรมาพูดกันตรงนี้ดีกว่า” นายจเด็จ กล่าว

ทั้งนี้ หากมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ยกร่างใหม่เข้าสภาฯ จะเห็นชอบหรือไม่ นายจเด็จ กล่าวว่า ต้องรอดูว่าจะแก้ทั้งฉบับหรือไม่ หรือจะแก้รายมาตรา หรือจะแก้หมวดไหน ตนก็จะอภิปรายว่าหมวดไหนที่จะแก้ อะไรเป็นประโยชน์กับประชาชนหรือไม่ แต่ถ้าแก้ทั้งฉบับ ตนไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว

เมื่อถามว่ามี สว.ที่คิดแบบนี้จำนวนเท่าไหร่ นายจเด็จ กล่าวว่า ค่อนสภาฯ แต่อย่าให้ตนต้องตอบตรงๆ ว่าในนามของ สว. คิดอย่างไร ทั้งนี้ แม้รัฐบาลจะบอกว่าไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ก็จะยังไม่เห็นด้วยหรือไม่นั้น ก็ต้องดูความจริง และถ้าพูดถึงหมวด 1 หมวด 2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ มีกว่า 38 มาตรา หลีกเลี่ยงยาก เพราะฉะนั้นมีหลายอย่างที่ควรต้องคำนึงให้มาก และที่สำคัญที่สุดคือ ประชาชนจะได้อะไรขึ้นมาจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น