2 สถานทูตในต่างประเทศ เตือนคนไทย

กรุงเทพฯ 18 ต.ค.-สถานทูตไทยในกรุงปารีส-บรัสเซลส์ ออกประกาศเตือนคนไทยติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระมัดระวังการอยู่ในที่มีคนรวมตัวจำนวนมาก หลังยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด


สถานทูตไทยประจำกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้ออกประกาศเตือนผ่านทางเฟซบุ๊กวานนี้ (17 ต.ค.) ให้พลเมืองไทยในฝรั่งเศสเพิ่มความระมัดระวังในการท่องเที่ยวและสัญจร เนื่องจากทางการฝรั่งเศสได้แจ้งเตือนต่อเนื่องเกี่ยวกับการขู่วางระเบิดเพิ่มเติมนับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังฝรั่งเศสเพิ่งยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายภายในประเทศฝรั่งเศสเป็นระดับสูงสุด ล่าสุดเมื่อวานนี้ทางการฝรั่งเศสต้องอพยพประชาชนออกจากพระราชวังแวร์ซายส์ หลังจากที่ได้แจ้งเตือนการวางระเบิดรอบ 2

ประกาศดังกล่าวระบุว่า ตามที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้มีประกาศเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2566 เกี่ยวกับการยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายภายในประเทศฝรั่งเศสเป็นระดับสูงสุด ปรากฏว่า ทางการฝรั่งเศสได้แจ้งเตือนต่อเนื่องเกี่ยวกับการขู่วางระเบิดเพิ่มเติม นับตั้งแต่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงได้ลำเลียงคนออกจากสถานที่สาธารณะ อาทิ โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในเมือง Saint-Cloud ชานกรุงปารีส (เขตที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้มีรายได้สูง)


ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยง-บ่ายวันอังคารที่ 17 ตุลาคม 2566 ได้อพยพผู้คนออกจากพระราชวังแวร์ซายส์ หลังจากที่ได้แจ้งเตือนการวางระเบิด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกวาดหากับดักระเบิดในพื้นที่ ขณะที่พระราชวังฯ จะยังคงปิดไม่ให้เข้าชมตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ การแจ้งเตือนการวางระเบิดที่พระราชวังแวร์ซายส์มีขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งห่างจากครั้งแรกเพียง 3 วัน (14 ต.ค.)

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอประกาศย้ำให้ชาวไทยและนักท่องเที่ยวไทยในฝรั่งเศสเพิ่มความระมัดระวังในการท่องเที่ยวและสัญจร หมั่นประเมินบรรยากาศและความปลอดภัยของสภาพแวดล้อม และสังเกตเส้นทางที่จะเป็นทางออกจากพื้นที่ที่อยู่ในขณะนั้นได้เร็วที่สุด โดยพิจารณาหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนที่มีคนหนาแน่น นอกจากนี้ ขอให้ติดตามสถานการณ์และข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ และการประกาศของสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ หากมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือหากพบเห็นเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลและต้องการจะแบ่งปันข่าวสารให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ทราบ กรุณาติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +33 6 0359 97 05 และ +33 6 46 71 96 94


ขณะที่สถานทูตไทยประจำกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมได้ออกประกาศเตือนผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันอังคาร (17 ต.ค.) ให้พลเมืองไทยในเบลเยียมและลักเซมเบิร์กหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีคนรวมตัวกันหนาแน่น อาทิ สถานที่แข่งขันกีฬา ห้างสรรพสินค้า และเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะในกรุงบรัสเซลส์เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม หลังเกิดเหตุกราดยิงในกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ต.ค. จนทางการสั่งยกระดับการเตือนภัยก่อการร้ายในภูมิภาคบรัสเซลส์เป็นระดับสูงสุด

ประกาศดังกล่าวระบุไว้ดังนี้ 1. ตามที่เกิดเหตุกราดยิงบริเวณ Place Sainctelette ใจกลางกรุงบรัสเซลส์ช่วงค่ำวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ 1 ราย ทางการเบลเยียมได้ยกระดับการเตือนภัยก่อการร้ายในภูมิภาคบรัสเซลส์เป็นระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด โดยให้หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น และในภูมิภาคอื่นเป็นระดับ 3 นอกจากนี้ยังได้ปิดทำการสถานที่ราชการหลายแห่งทั้งของเบลเยียมและของสหภาพยุโรปในวันที่ 17 ต.ค. และล่าสุดทางตำรวจเบลเยียมได้จับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ จึงขอแจ้งเตือนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยในเบลเยียมให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีคนรวมตัวหนาแน่น อาทิ สถานที่แข่งขันกีฬา ห้างสรรพสินค้า เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะในกรุงบรัสเซลส์ และในการเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ สำหรับประชาชนที่อยู่นอกเขตกรุงบรัสเซลส์อาจงดหรือเลื่อนการเดินทางเข้ามายังกรุงบรัสเซลส์ หากไม่จำเป็น ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของทางการเบลเยียมจนกว่าจะสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้ ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการเบลเยียมอย่างเคร่งครัด

2. ตามที่ปรากฏข่าวตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. เป็นต้นมาว่ามีการชุมนุมประท้วงเพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอลในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเบลเยียมและลักเซมเบิร์ก สถานเอกอัครราชทูตจึงขอให้คนไทยในทั้งสองประเทศหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุมประท้วงหากไม่จำเป็น และใช้ความระมัดระวังในทำนองเดียวกับข้อ 1 ติดตามข่าวสารท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง และตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง ทั้งนี้ หากคนไทยประสบเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทางหมายเลข โทร. ฉุกเฉิน +32 470 85 96 67 หรือทาง Facebook Page : Royal Thai Embassy Brussels ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด