“สุเทพ” เตรียมปรึกษาทีมกฎหมายฟ้อง ป.ป.ช.

ศาลฎีกาฯ 22 ส.ค.- “สุเทพ” เผยหลังศาลยกฟ้องคดีฮั้วประมูลสร้างโรงพัก 5,000 ล้านบาท ระบุมั่นใจมาตลอด วันนี้ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ชัดเจนแล้ว บอกภูมิใจในชีวิตเป็นนักการเมืองไม่เคยทุจริต แม้ถูกรุมใส่ร้าย เตรียมปรึกษาทีมกฎหมายฟ้อง ป.ป.ช.


นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังฟังคำพิพากษาจากศาลฎีกาว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองในขั้นอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาว่า ตนและจำเลยคนอื่นๆ ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)​ ฟ้อง ไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหา ถือว่าคดีนี้สิ้นสุด ใครที่เคยกล่าวหาสงสัยตนมาเป็น 10 ปี วันนี้ก็ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์อย่างชัดเจนแล้ว ตนขอใช้โอกาสนี้กราบขอบคุณพี่น้องประชาชน ผู้ที่หวังดีทั้งหลาย คนที่เคารพนับถือที่ให้ความเชื่อมั่นในตัวตนมาโดยตลอด และได้ให้กำลังใจ และที่มาให้กำลังใจที่นี่ในวันนี้ ตนขอกราบขอบคุณ และซาบซึ้งในน้ำใจ

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า มีความภาคภูมิใจในชีวิตที่เป็นนักการเมือง ไม่เคยทำทุจริต ไม่เคยทำการคอร์รัปชันใดๆ แม้จะถูกรุมใส่ร้าย ด้วยความตั้งใจที่จะเล่นงานตนเอง ท้ายที่สุดกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ก็ได้ให้ความเป็นธรรมกับตน สมกับที่ตนเคารพในหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพ ในศาลยุติธรรม ตนจึงคิดว่ากรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ที่ผู้ใช้อำนาจทั้งหลาย ควรจะต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง คนที่ควรจะต้องรับผิดชอบอย่างยิ่งวันนี้ คือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งดูข้อเท็จจริงดีทุกอย่าง แต่ก็ยังดำเนินคดีกับตน ทั้งที่ศาลฎีกาฯ ตัดสินแล้วว่าตนไม่มีความผิด ก็ยังยื่นอุทธรณ์อีก จึงอยากให้ทาง ป.ป.ช.พิจารณาตนเอง สร้างความเสียหายให้ตน ทำให้ตนเดือดร้อนมาเป็น 10 ปี เสียชื่อเสียเสียงไม่รู้เท่าไหร่


เมื่อถามว่ามองไปถึงขั้นตอนการฟ้องร้อง หรือเรียกร้องให้เกิดการเยียวยาในความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เยียวยาหรือไม่ตนไม่สนใจ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะไปเรียกร้อง แต่จะปรึกษากับที่ปรึกษากฎหมาย ถ้ามีช่องทางที่จะทำให้ดำเนินคดีกับ ป.ป.ช.ได้ จะดำเนินคดี ไม่ใช่ความโกรธเคืองแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า หลังจากนี้หากถูกทาบทามจะหวนคืนสู่เส้นทางทางการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ครับ เมื่อตัดสินใจออกจาก ส.ส.มาเดินนำขบวน ตนก็ได้ประกาศกับพี่น้องประชาชนแล้ว ตนไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง ตนทำเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะฉะนั้นไม่เอาชื่อเสียงความสำเร็จและผลพลอยได้โอนมาเป็นคะแนนเสียงของตัวเองในทางการเมือง ขนาดตนประกาศอย่างนี้ ก็ยังมีคนมาด่าตนอยู่ทุกวัน แต่ก็ต้องอดทน พี่น้องประชาชนที่สนใจการเมืองหรือนักการเมืองดีๆ ก็ดูกรณีของตน และบอกตัวเองว่าให้อดทนดีที่สุด

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นนักการเมืองมาอย่างยาวนาน มีอะไรฝากถึงนักการเมืองที่ยังคงติดอยู่ในวังวนเกมการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ผมเรียนได้อย่างเดียวว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องสัมมาทิฏฐิ เพราะฉะนั้นการมาเป็นนักการเมืองต้องปฏิบัติตามหลักสัมมาทิฏฐิ คือ ต้องมีความคิดความเห็นที่ถูกต้อง มาทำงานการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่ทำการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง พวกพ้อง หรือแม้แต่พรรคตัวเอง


ถ้านักการเมืองยึดหลักนี้ จะเป็นนักการเมืองที่ควรค่าแก่การส่งเสริม ประชาชนก็สามารถพึ่งพาได้ แต่ถ้านักการเมืองคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง ละเลยผลประโยชน์ของชาติ ไม่คิดถึงความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติโดยส่วนรวม ก็ไม่สมควรจะเป็นนักการเมืองที่เราให้ความสนใจ หรือไปยกย่องสรรเสริญ มองว่าไม่สมควร

เมื่อถามว่า มองสถานการณ์การเมืองตอนนี้อย่างไรบ้าง นายสุเทพกล่าวว่า การเมืองไม่มีนิ่ง ซึ่งเป็นธรรมชาติของการเมือง แต่ว่าเราทุกคนต้องมีความตั้งใจดีต่อบ้านเมืองเป็นหลัก จุดมุ่งหมายของเราได้ทางการเมืองเพื่อให้ประเทศอยู่รอดปลอดภัย ให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมใจ เป็นหลักประกันแห่งความมั่นคง ซึ่งตนมองเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ทั้งนี้ ตนขอชื่นชมพี่น้องส่วนใหญ่ที่ยังคงยึดมั่นและรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และนี่จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของประเทศไทยไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน

เมื่อถามว่า มองอย่างไรสำหรับว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ที่จับมือกัน ทั้งที่ผ่านมาอยู่คนละขั้วกัน นายสุเทพกล่าวว่า เราอย่ายึดมั่นถือมั่นว่าเราเป็นคนละขั้วกัน เรามีความคิดต่างกัน ก็เราไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ อย่าเอาอารมณ์แบบนี้มาพิจารณาเรื่องของบ้านเมือง ไม่ว่าฝ่ายใดก็แล้วแต่สามารถเปลี่ยนใจมาทำงานร่วมกันได้ เพียงแค่ยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติ

ช่วงท้ายนายสุเทพบอกว่า ระหว่างที่ขึ้นฟังคำอ่านพิพากษาของศาลฎีกาฯ ไม่ได้เจอกับนายทักษิณ ก่อนจะหัวเราะแล้วบอกว่า “เขาไม่เอามาเจอกันหรอกครับ”

เมื่อถามว่าโล่งใจหรือไม่ เมื่อศาลฎีกาพิพากษาไม่มีความผิด นายสุเทพ กล่าวว่า “ผมมั่นใจมาตลอด ในสิ่งที่ผมทำ คือผมได้เปรียบอย่างหนึ่งคือตอนที่ผมเป็นรัฐมนตรี เวลาสั่งการอะไรไปผมเก็บเอกสารไว้ทั้งหมด ดังนั้น เวลามีคนกล่าวหา จึงสามารถเข้าถึงหลักฐานแบบนี้ และสามารถสู้คดีได้”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 พักค้างให้กำลังใจทหารประจำฐาน ขอให้เชื่อมั่นเราทำถูกแล้ว

สุรินทร์ 1 มิ.ย.- เคียงบ่าเคียงไหล่! “มทภ.2” พักค้างให้กำลังใจทหารประจำฐาน ‘ปราสาทตาเมือนธม’ ย้ำอย่าได้ประมาทในการทำหน้าที่ ขอให้เชื่อมั่นเราทำถูกแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ (31 มิ.ย.) ที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ กำลังพลกองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติการพร้อมมอบข้าวสาร อาหารแห้ง และให้โอวาทแก่กำลังพล โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ร่วมภารกิจ และพักค้างคืนที่ฐานปราสาทตาเมืองธม แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารทุกนายว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดียิ่ง ยืนยันว่าพวกเราทำถูกต้องแล้ว พร้อมทั้งขอให้ทหารทุกนายตระหนักเสมอว่าระดับผู้บัญชาการทุกระดับ คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ อย่าได้ประมาท พร้อมจะเกิดอะไรได้ทุกเวลา ขอให้ติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา.-313.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เผยคุยผู้นำกัมพูชาตลอด ย้ำไทยยึดหลักไม่เผชิญหน้า

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” เผยคุยผู้นำกัมพูชาตลอด ย้ำไทยยึดหลักการไม่เผชิญหน้า แก้ปัญหาช่องบก ใช้กลไก JBC หาทางออกสันติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างร่วมประชุม IISS Shangri-La Dialogue ซึ่งเป็นเวทีหารือด้านความมั่นคงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ถึงสถานการณ์พื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่าสถานการณ์ขณะนี้คลี่คลายลง ทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่นในการที่จะไม่ก่อให้เกิดการเผชิญหน้า และรอให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ได้หารือกัน ซึ่งขณะนี้ได้นัดหมายกันแล้ว เข้าใจว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเกิดการประชุมได้ ทางฝ่ายไทยได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็จะไปร่วมพูดคุยทั้งหมดด้วย โดยได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพบก และกองทัพไทย อย่างต่อเนื่อง “คงยังไม่น่าเป็นห่วงอะไร แต่ก็ขอให้มีการพูดคุยกันก่อน ซึ่งไทยยึดหลักการจะไม่เผชิญหน้า และพยายามจะหาข้อสรุปอย่างสันติ และเป็นประเทศเพื่อนบ้านซึ่งกันและกัน” นายภูมธรรม กล่าว เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยกับกัมพูชาในระดับรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง และโอกาสการพบกันก็มีอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งเรามีวงประชุมหลายๆ เรื่อง ที่เป็นเรื่องของการรักษาความสงบ รักษาสันติภาพในในบริเวณนี้อยู่แล้ว.-313.-สำนักข่าวไทย

ฝนตกหนักบางแห่ง ภาคเหนือ-อีสานตอนบน

กทม. 1 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และอีสานตอนบน ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส […]

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย