fbpx

“สุเทพ” เตรียมปรึกษาทีมกฎหมายฟ้อง ป.ป.ช.

ศาลฎีกาฯ 22 ส.ค.- “สุเทพ” เผยหลังศาลยกฟ้องคดีฮั้วประมูลสร้างโรงพัก 5,000 ล้านบาท ระบุมั่นใจมาตลอด วันนี้ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ชัดเจนแล้ว บอกภูมิใจในชีวิตเป็นนักการเมืองไม่เคยทุจริต แม้ถูกรุมใส่ร้าย เตรียมปรึกษาทีมกฎหมายฟ้อง ป.ป.ช.


นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังฟังคำพิพากษาจากศาลฎีกาว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองในขั้นอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาว่า ตนและจำเลยคนอื่นๆ ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)​ ฟ้อง ไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหา ถือว่าคดีนี้สิ้นสุด ใครที่เคยกล่าวหาสงสัยตนมาเป็น 10 ปี วันนี้ก็ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์อย่างชัดเจนแล้ว ตนขอใช้โอกาสนี้กราบขอบคุณพี่น้องประชาชน ผู้ที่หวังดีทั้งหลาย คนที่เคารพนับถือที่ให้ความเชื่อมั่นในตัวตนมาโดยตลอด และได้ให้กำลังใจ และที่มาให้กำลังใจที่นี่ในวันนี้ ตนขอกราบขอบคุณ และซาบซึ้งในน้ำใจ

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า มีความภาคภูมิใจในชีวิตที่เป็นนักการเมือง ไม่เคยทำทุจริต ไม่เคยทำการคอร์รัปชันใดๆ แม้จะถูกรุมใส่ร้าย ด้วยความตั้งใจที่จะเล่นงานตนเอง ท้ายที่สุดกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ก็ได้ให้ความเป็นธรรมกับตน สมกับที่ตนเคารพในหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพ ในศาลยุติธรรม ตนจึงคิดว่ากรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ที่ผู้ใช้อำนาจทั้งหลาย ควรจะต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง คนที่ควรจะต้องรับผิดชอบอย่างยิ่งวันนี้ คือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งดูข้อเท็จจริงดีทุกอย่าง แต่ก็ยังดำเนินคดีกับตน ทั้งที่ศาลฎีกาฯ ตัดสินแล้วว่าตนไม่มีความผิด ก็ยังยื่นอุทธรณ์อีก จึงอยากให้ทาง ป.ป.ช.พิจารณาตนเอง สร้างความเสียหายให้ตน ทำให้ตนเดือดร้อนมาเป็น 10 ปี เสียชื่อเสียเสียงไม่รู้เท่าไหร่


เมื่อถามว่ามองไปถึงขั้นตอนการฟ้องร้อง หรือเรียกร้องให้เกิดการเยียวยาในความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เยียวยาหรือไม่ตนไม่สนใจ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะไปเรียกร้อง แต่จะปรึกษากับที่ปรึกษากฎหมาย ถ้ามีช่องทางที่จะทำให้ดำเนินคดีกับ ป.ป.ช.ได้ จะดำเนินคดี ไม่ใช่ความโกรธเคืองแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า หลังจากนี้หากถูกทาบทามจะหวนคืนสู่เส้นทางทางการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ครับ เมื่อตัดสินใจออกจาก ส.ส.มาเดินนำขบวน ตนก็ได้ประกาศกับพี่น้องประชาชนแล้ว ตนไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง ตนทำเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะฉะนั้นไม่เอาชื่อเสียงความสำเร็จและผลพลอยได้โอนมาเป็นคะแนนเสียงของตัวเองในทางการเมือง ขนาดตนประกาศอย่างนี้ ก็ยังมีคนมาด่าตนอยู่ทุกวัน แต่ก็ต้องอดทน พี่น้องประชาชนที่สนใจการเมืองหรือนักการเมืองดีๆ ก็ดูกรณีของตน และบอกตัวเองว่าให้อดทนดีที่สุด

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นนักการเมืองมาอย่างยาวนาน มีอะไรฝากถึงนักการเมืองที่ยังคงติดอยู่ในวังวนเกมการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ผมเรียนได้อย่างเดียวว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องสัมมาทิฏฐิ เพราะฉะนั้นการมาเป็นนักการเมืองต้องปฏิบัติตามหลักสัมมาทิฏฐิ คือ ต้องมีความคิดความเห็นที่ถูกต้อง มาทำงานการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่ทำการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง พวกพ้อง หรือแม้แต่พรรคตัวเอง


ถ้านักการเมืองยึดหลักนี้ จะเป็นนักการเมืองที่ควรค่าแก่การส่งเสริม ประชาชนก็สามารถพึ่งพาได้ แต่ถ้านักการเมืองคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง ละเลยผลประโยชน์ของชาติ ไม่คิดถึงความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติโดยส่วนรวม ก็ไม่สมควรจะเป็นนักการเมืองที่เราให้ความสนใจ หรือไปยกย่องสรรเสริญ มองว่าไม่สมควร

เมื่อถามว่า มองสถานการณ์การเมืองตอนนี้อย่างไรบ้าง นายสุเทพกล่าวว่า การเมืองไม่มีนิ่ง ซึ่งเป็นธรรมชาติของการเมือง แต่ว่าเราทุกคนต้องมีความตั้งใจดีต่อบ้านเมืองเป็นหลัก จุดมุ่งหมายของเราได้ทางการเมืองเพื่อให้ประเทศอยู่รอดปลอดภัย ให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมใจ เป็นหลักประกันแห่งความมั่นคง ซึ่งตนมองเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ทั้งนี้ ตนขอชื่นชมพี่น้องส่วนใหญ่ที่ยังคงยึดมั่นและรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และนี่จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของประเทศไทยไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน

เมื่อถามว่า มองอย่างไรสำหรับว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ที่จับมือกัน ทั้งที่ผ่านมาอยู่คนละขั้วกัน นายสุเทพกล่าวว่า เราอย่ายึดมั่นถือมั่นว่าเราเป็นคนละขั้วกัน เรามีความคิดต่างกัน ก็เราไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ อย่าเอาอารมณ์แบบนี้มาพิจารณาเรื่องของบ้านเมือง ไม่ว่าฝ่ายใดก็แล้วแต่สามารถเปลี่ยนใจมาทำงานร่วมกันได้ เพียงแค่ยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติ

ช่วงท้ายนายสุเทพบอกว่า ระหว่างที่ขึ้นฟังคำอ่านพิพากษาของศาลฎีกาฯ ไม่ได้เจอกับนายทักษิณ ก่อนจะหัวเราะแล้วบอกว่า “เขาไม่เอามาเจอกันหรอกครับ”

เมื่อถามว่าโล่งใจหรือไม่ เมื่อศาลฎีกาพิพากษาไม่มีความผิด นายสุเทพ กล่าวว่า “ผมมั่นใจมาตลอด ในสิ่งที่ผมทำ คือผมได้เปรียบอย่างหนึ่งคือตอนที่ผมเป็นรัฐมนตรี เวลาสั่งการอะไรไปผมเก็บเอกสารไว้ทั้งหมด ดังนั้น เวลามีคนกล่าวหา จึงสามารถเข้าถึงหลักฐานแบบนี้ และสามารถสู้คดีได้”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

“อธิบดีกรมโรงงาน” ลาออกแล้ว ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้

“จุลพงษ์ ทวีศรี” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยื่นหนังสือลาออก ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้ เจ้าตัวเผยน่าจะมีความเหมาะสมที่สุดแล้ว ผู้บริหารจะได้หาคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทน

ข่าวแนะนำ

ความหวังแรงงานไทย ยกระดับค่าจ้างขั้นต่ำสู่ค่าจ้างเพื่อชีวิต

ทุกปีในวันแรงงาน จะมีการรวมตัวของสภาองค์การลูกจ้างและพัฒนาแรงงาน กลุ่มต่างๆ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ซึ่งปีนี้แรงงานหวังจะมีความมั่นคงในด้านระบบสวัสดิการ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

“อธิบดีกรมโรงงาน” ลาออกแล้ว ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้

“จุลพงษ์ ทวีศรี” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยื่นหนังสือลาออก ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้ เจ้าตัวเผยน่าจะมีความเหมาะสมที่สุดแล้ว ผู้บริหารจะได้หาคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทน

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

แรงงานทั่วไทยเดินขบวนเรียกร้องสิทธิจากรัฐบาล

วันที่ 1 พ.ค. ของทุกปี เป็นวันสำคัญของผู้ใช้แรงงานทั่วโลก สำหรับประเทศไทยในปีนี้ มีการจัดกิจกรรมเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลหลายจุด โดยพื้นที่หลักอยู่ที่ตลอดแนวถนนราชดำเนิน และลานคนเมือง