เคารพเสียง ปชช. แต่ต้องป้องสถาบันหลักชาติ

รัฐสภา 13 ก.ค. – “เสรี” ยันไม่เลือก “พิธา” ต่อให้บอกไม่แก้ ม.112 ตอนนี้ก็ไม่เชื่อ โอด ส.ว. ทนเสียงก่นด่าตลอด 4 ปี ย้ำเคารพเสียงของประชาชน แต่ต้องทำหน้าที่ปกป้อง 3 เสาหลักของชาติ พร้อมดักทางถ้าไม่ได้อย่ายุยง-ปลุกม็อบ


นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวอภิปรายว่า การพิจารณาให้ความเห็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ สิ่งที่ตนเสนอต่อที่ประชุมไม่ได้เกิดจากความอคติ หรือความไม่ชอบนายพิธาหรือพรรคก้าวไกล แต่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่บัญญัติชัดเจนว่าให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับการเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งคำว่าสมควรอยากให้ที่ประชุมได้พิจารณา โดยเห็นว่านายพิธาไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเหตุผลสำคัญในฐานะวุฒิสภา ที่ถูกพูดเสมอว่าเราจะไม่เลือกนายพิธาตามมติมหาชนในการเลือกตั้ง และต้องทำความเข้าใจว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนลงคะแนนเลือกแต่ละพรรคการเมืองมาก็ต้องทำตามฉันทามติของประชาชน ถามว่าเราไม่ให้ความเคารพประชาชนหรือไม่ ต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่าเราก็ให้ความเคารพ แต่การทำหน้าที่ในรัฐสภาเป็นกระบวนการอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะการเลือกนายกรัฐมนตรีต้องไม่มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ

นายเสรี กล่าวว่า วันนี้มีการนัดหมายประชาชาให้ออกมาแสดงเจตจำนงร่วมกันในต่างจังหวัดทั่วประเทศ จนสื่อมวลชนถามตนไม่กลัวเสียงประชาชนนอกสภาฯ ที่สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกฯ หรือ ก็ต้องตอบว่ากลัว กลัวมาก ว่าจะเข้าใจผิดว่าวุฒิสภาไม่ให้ความเคารพเสียงของประชาชน แต่ด้วยความเกรงกลัวเสียงของประชาชน ก็คำนึงถึงหน้าที่วุฒิสภาที่ต้องทำงานปกป้องรักษาประเทศ รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ตอนนี้เป็นภารกิจหน้าที่สำคัญที่เป็นคนละส่วนของการทำหน้าที่ในรัฐสภา และการทำหน้าที่ในรัฐสภาก็มีเสียงพูดว่าเสียงที่สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีจากหลายพรรคการเมือง จนรวมกัน 8 พรรคตั้งรัฐบาล เมื่อรวมเสียงกันแล้วได้ถึง 30 ล้านเสียง ทำให้ประชาชนก่นด่าวุฒิสภาที่จะไม่เลือกนายพิธา แต่พรรคก้าวไกลได้ 14 เสียง อย่าสำคัญว่าตัวเองได้ 30 ล้านเสียง และเสียงที่เหลือเป็นของพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่ได้คะแนนจากประชาชนถึง 10 ล้านเสียง เท่ากับว่าไม่ได้เลือกนายพิธาเป็นนายกฯ แต่เลือกแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น เท่ากับว่า ส.ส. แต่ละพรรครวมเสียงกันเพื่อเลือกนายพิธา เป็นนายกฯ จึงต้องทำความเข้าใจว่าวุฒิสภาเคารพเสียงของประชาชนแล้ว


นายเสรี ยังกล่าวถึงคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามของนายกรัฐมนตรี มาตรา 159 ที่กำหนดเรื่องคุณสมบัติห้ามถือหุ้นสื่อตามมาตรา 98(3) เป็นคุณสมบัติที่สำคัญ ต้องใช้ดุลพินิจเห็นชอบบุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นความเห็นชอบอยู่ที่คุณสมบัติลักษณะต้องห้าม เป็นสิ่งที่วุฒิสภาให้ความสำคัญตลอด นายกรัฐมนตรีที่จะเข้าไปบริหารประเทศต้องมีความชัดเจนที่จะไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการลบหลู่ ดูหมิ่น ไม่ปกป้องสถาบัน และหากพูดถึงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นวาระสำคัญที่ต้องแก้ไขหรือไม่ ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดมีความตระหนักว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในบ้านเมืองก่อนการแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้เกิดจากเหตุผลว่าให้เป็นสากล ไม่ได้เกิดเป็นเหตุผลว่าต้องสร้างแนวทางกฎหมายเป็นเพียงปกป้องดูแลประชาชนที่ถูกกันแกล้งในทางการเมือง หรือทางคดีต่างๆ ดังนั้น คนที่จะมาบริหารประเทศต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน ซึ่งตัวเลขของผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากการยุยง เสนอแนวคิดให้ละเมิดจาบจ้วงสถาบันเป็นคดีมากมาย อีกทั้งยังใช้สถานะ ส.ส. ไปรับรองขอประกันตัวเด็กและเยาวชน ซึ่งหากจะเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ควรออกมาห้ามปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ดังนั้น สิ่งที่ทำมาปรากฏชัดเจนว่าเป็นการล้มล้าง หากเป็นเช่นนี้จะให้วุฒิสภาสนับสนุนให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี คงจะผิดวิสัย

“ตนขอพูดเผื่อเอาไว้เลยว่า หากตนพูดแล้ว ท่านอยากเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วมาพูดว่าจะไม่แก้ไขมาตรา 112 หรือจะไม่ดำเนินการเรื่องนี้แล้ว อยากพูดก็พูดมาแต่ตนไม่เชื่อแล้ว เพราะตนไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำมาเป็นประวัติศาสตร์ยาวนาน จะมาพูดคำเดียวว่าตนไม่แก้ 112 แล้ว ตนคิดว่ามันเป็นการหลอกลวง วันนี้พูดแบบนี้ วันหน้าไม่กลับมาแก้อีกหรือ สิ่งที่ตนพูดไม่ได้ เกิดจากความไม่ชอบ และรู้สึกไม่ดี แต่เป็นหน้าที่ของวุฒิสภา ที่ถูกพูดจาด่าทอ และอดทนเพื่อปกป้องสถาบัน และเสี่ยงที่จะลงคะแนนเราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจเราไม่ได้คิด ที่จะไม่ให้ความเคารพประชาชนและหลังจากลงมติไปแล้วหากได้เสียงสนับสนุนจากประชาชนจนทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้ตนก็ยินดี แต่หากเสียงไม่ถึง ท่านต้องไม่แสดงพฤติกรรมการกระทำใดๆ ที่จะไปปลุกม็อบ ไปเรียกร้องไปดำเนินการใดๆ ให้คนในประเทศนี้ออกมาสนับสนุนผลักดันให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะนี่เป็นกติกาตามรัฐธรรมนูญ และหากสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อยไม่ใช่ใครอื่น มันเกิดจากที่พวกท่านไปยุยงส่งเสริมประชาชนให้กระทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย“ นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวว่า เสียงในการลงคะแนนมติต่างๆ อยากจะขอกราบเรียนด้วยความเคารพ ว่าเราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดที่จะไม่ให้ความเคารพพี่น้องประชาชน หลังจากลงมติไปแล้วถ้าได้เสียงประชาชนสนับสนุนจนเกิดให้ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็ยินดี แต่ถ้าหากเสียงไม่ถึงก็ต้องกราบเรียนด้วยความเคารพ ว่าท่านจะต้องไม่แสดงพฤติกรรมการกระทำใดๆ ที่จะปลุกม็อบ ไปเรียกร้องไปดำเนินการใดๆ ให้คนในประเทศนี้ออกมาสนับสนุน ผลักดัน เรียกร้องให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะการโหวตเป็นกติกาทางรัฐธรรมนูญ หากว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อยไม่ใช่ใครอื่น มันเกิดจากที่พวกท่านไปยุยงส่งเสริมประชาชนให้กระทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย


“มีประชาชนมาเรียกท่านนายกพิธา ตนก็เห็นว่าเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน เป็นความรัก เป็นความเชื่อ เป็นความศรัทธา แต่พออยู่ในกระบวนการในการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติ ความประพฤติ ตนไม่อยากเห็นภาพที่นายพิธาเดินลงพื้นที่ และมีประชาชนมาก้มกราบท่าน ทั้งที่ยังไม่เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ตนได้คิดว่าสิ่งที่ปรากฏ อันเกิดจากการที่ประชาชนเขาอยากจะกราบจริงหรือ หรือจ้างคนมา ซึ่งมันไม่ควร สิ่งที่เกิดขึ้นเอาเด็กมาขึ้นเวทีเชียร์ อายุ 10 ขวบเชียร์ ทางวุฒิสภา ตนรู้สึกว่าตนลำบากเหมือนกันนะครับ ไม่ปลอดภัยเหมือนกัน คนที่เชียร์นายพิธา ถ้าฟังแล้ว จะเลือกคนที่มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามขัดต่อรัฐธรรมนูญกระทำการอันเป็นการที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงมาตรา 112 ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะฉะนั้นขอให้นำเรื่องเหล่านี้ไปพิจารณา ก่อนที่จะออกมาชุมนุมเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนช่วยกันสนับสนุนให้เป็นนายกอีกครั้ง ตนไม่เห็นด้วยที่นายพิธาและพรรคก้าวไกลเป็นผู้บริหารประเทศหรือเป็นนายกรัฐมนตรี” นายเสรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย