วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…”


กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้

1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. ๒๐๐๓)ตามหนังสือที่อ้างถึงข้อมูลดังกล่าวในเพจ คือ หนังสือ Inventory of Intangible Cultural Heritage of Cambodia เป็นหนังสือที่รวบรวมรายการบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับชาติของกัมพูชา (เช่นเดียวกับหนังสือบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมชาติของไทย) ในหนังสือดังกล่าวจะประกอบด้วยเนื้อหาในสาขาของรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม คือ สาขาศิลปะการแสดง ในหัวข้อ Royal Ballet of Cambodia ที่ปรากฏรายชื่อละครคลาสสิคหรือละครในราชสำนักของกัมพูชา เช่น ไกรทอง พระสมุทร พระสังข์ อุณรุท เป็นต้น ที่มีการนำกลับมาฟื้นฟูและใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia และหนังสือเล่มนี้ ได้ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2548 เพื่อใช้ในโครงการอนุรักษ์การแสดง “The Royal Ballet of Cambodia” ภายใต้โครงการ The Proclamation of the Masterpieces of the Oral and Intangible Heritage of Humanity ของยูเนสโก ซึ่งเป็นโครงการที่ยูเนสโกจัดก่อนที่อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. ๒๐๐๓ ของยูเนสโกจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ หนังสือฉบับดังกล่าว จึงเป็นการรวบรวมข้อมูลและตีพิมพ์ หลังจากที่กัมพูชาได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนรายการ The Royal Ballet of Cambodia ในปี พ.ศ. 2546


2.ตามมาตรา 2 ของอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 ได้ให้นิยามคำว่า “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” จำนวน 5 ลักษณะ คือ

(1)ประเพณีมุขปาฐะและการแสดงออกทางวาจา รวมถึงภาษาในฐานะพาหนะของมรดก
ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้)
(2)ศิลปะการแสดง (performing arts)
(3)แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม และงานเฉลิมฉลอง (social practices, rituals and festive events)
(4) ความรู้และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล (knowledge and practices concerning nature and the universe)
(5)งานฝีมือแบบดั้งเดิม (traditional craftsmanship)
วรรณกรรม หรือ Literature จำนวน 22 เรื่อง ตามข้อมูลในหนังสือ ไม่ถือว่าเป็นสาขา oral traditions and expressions, including language as a vehicle of the intangible cultural heritage ตามนิยามของยูเนสโก วรรณกรรมจึงไม่สามารถเสนอขอขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโกได้

3.วรรณกรรม (Literature) ที่เป็นบทละครในการแสดง The Royal Ballet of Cambodia สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
3.1วรรณกรรมที่เป็นวัฒนธรรมร่วม ที่ได้รับอิทธิพลและมีการเผยแพร่ร่วมกันในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันอกเฉียงใต้ หรืออาเซียนมาอย่างช้านานในหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม เป็นต้น ได้แก่ รามเกียรติ์ ไกรทอง มหาเวสสันดรชาดก อิเหนา สังข์ทอง ลักษณวงศ์ ศรีธนญชัย กากี จันทโครพ ซึ่งวรรณกรรมร่วมเหล่านี้ ได้ถูกนำไปใช้เป็นบทการแสดง ไม่เพียงแต่นำไปประกอบการแสดงนาฏศิลป์ของกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังนำไปใช้ประกอบการแสดงในหลายประเทศในอาเซียน
3.2วรรณกรรมประเภทที่เป็นผู้ประพันธ์คนไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้แก่ ไกรทอง (พระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 2 และนิทานพื้นบ้าน) พระสมุทร (พระนิพนธ์ของกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) อุณรุท (พระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 1 มาจากบทละครในเรื่องอุณรุทสมัยอยุธยาตอนปลาย) พระสังข์ (พระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 2 บทละครนอก) จันทโครพ (สุนทรภู่) พระเวสสันดร (เจ้าพระยาพระคลัง (หน)) อิเหนา (พระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลทีี่ 2 บทละครรำ) อนิรุทธกินรี (พระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 1 มาจากบทละครเรื่องอุณรุทสมัยอยุธยาตอนปลาย) ศุภลักษณ์ (มาจากตอนศุภลักษณ์อุ้มสม เรื่องอุณรุท พระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 1) รามเกียรติ์ (พระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 2) พระสุธน-มโนราห์ (บทละครสมัยอยุธยา มาจากพระสุธนชาดก แต่งเป็นคำฉันท์ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระยาอิศรานุภาพ) กากี (คำกลอนวรรณคดี เจ้าพระยาพระคลัง (หน) บทเห่กล่อมพระบรรทม แต่งโดยสุนทรภู่) สีดาลุยเพลิง (จากรามเกียรติ์ตอนสีดาลุยไฟ พระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 1) จองถนน (จากรามเกียรติ์ตอนจองถนน พระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 1) ทิพสังวาล (หนังสืออ่านเล่นในสมัยรัชกาลที่ 5) ลักษณวงศ์ (สุนทรภู่)


3.ตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003  ของยูเนสโก มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเป็นการอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมไม่ให้สูญหาย และสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าและความสำคัญในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ เพื่อให้เกิดความชื่นชมร่วมกัน มิใช่แสดงถึงความเป็นเจ้าของ เนื่องจากมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนั้น อาจมีปรากฏอยู่ในหลายประเทศ ซึ่งประเทศภาคีสมาชิกอนุสัญญาฯ สามารถเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมรายการนั้นได้ ดังกรณีของประเทศเมียนมาที่ได้ยื่นเสนอขอขึ้นทะเบียน“ประเพณีติงยัน Myanmar traditional New Year Atā Thingyan festival” (ประเพณีปีใหม่พม่าที่มีการจัดกิจกรรมเช่นเดียวกับสงกรานต์ของไทยในกลางเดือนเมษายน) เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2567 
ปี พ.ศ. 2564 กระทรวงวัฒนธรรม ได้ยื่นเสนอขอขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ ปีใหม่ไทย” (Songkran in Thailand, traditional Thai New year festival) และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ ปีใหม่ไทย” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2566

4.กัมพูชาเข้าเป็นสมาชิกอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003  เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2549 และมีรายการมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในระดับนานาชาติ จำนวนทั้งสิ้น 7รายการ ประกอบด้วย 
4.1รายการมรดกวัฒนธรรมที่ต้องได้รับการสงวนรักษาอย่างเร่งด่วน ๒ รายการ ได้แก่ ลคอน โขล Lkhon Khol Wat Svay Andet การแสดงละครโขนวัดสวายอันเด็ต (ขึ้นทะเบียนปี 2561) ชาเปย์ ดังเวง
Chapei Dang Veng (ขึ้นทะเบียนปี 2559) เป็นต้น 
4.2รายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ 5รายการ ได้แก่ (1) การปฏิบัติและการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับผ้าครามา (ขึ้นทะเบียนปี 2567) (2) พิธีกรรมชักเย่อและเกม (ขึ้นทะเบียนปี 2558) (3) กุน ลโบ๊กกาตอร์  ศิลปะการต่อสู้พื้นบ้านของกัมพูชา (ขึ้นทะเบียนปี 2565) (4) บัลเลต์หลวงแห่งกัมพูชา (ขึ้นทะเบียนปี 2551) และ (5) สเบก ธม โรงละครเงาเขมร (ขึ้นทะเบียนปี 2551) 
4.3มีรายการที่รอการพิจารณาในรอบปี พ.ศ. 2569จำนวน 1รายการ ได้แก่ Traditional Khmer wedding (การแต่งงานของกัมพูชา) 

อนึ่ง การที่กัมพูชาเสนอขอขึ้นทะเบียนรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนั้น ถือเป็นสิทธิ ที่สามารถดำเนินการได้ในฐานะสมาชิกตามอนุสัญญาฯ ซึ่งในการขอขึ้นทะเบียนจะเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติและการแสดงออกของประเพณีภายใต้อาณาเขตของประเทศกัมพูชา

5.ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ เมื่อวันที่ 10มิถุนายน พ.ศ. 2559 และมีรายการมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในระดับนานาชาติ จำนวน 6 รายการ เป็นรายการประเภทตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติทั้งหมด ได้แก่ โขน (ปี พ.ศ. 2561) นวดไทย (ปี พ.ศ. 2562)  โนรา (ปี พ.ศ. 2564)  สงกรานต์ (ปี พ.ศ. 2566)  ต้มยำกุ้ง (ปี พ.ศ. 2567)  และเคบายา (ปี พ.ศ. 2567)  และมีรายการที่รอเข้ารับการพิจารณา 4 รายการ คือ 1) ชุดไทย  2) มวยไทย 3) ผ้าขาวม้า  และ 4) ลอยกระทง  โดยรายการชุดไทยจะเข้ารับการพิจารณาในปี พ.ศ. 2569

ในการนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวของประเทศต่าง ๆ มาโดยตลอด และมีการประสานความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและความเข้าใจร่วมกัน พร้อมทั้งมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ขอขอบคุณท่านที่ให้ความสนใจและห่วงใยต่อการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ.-612.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งออกโฉนดให้ชาวบ้านหนองจาน

สรแก้ว 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านหนองจานโดยเร็ว พร้อมส่งทีมสำรวจ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดนให้แล้วเสร็จ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีปัญหาของที่ดินบ้านหนองจาน พร้อมให้ประชาชนแสดงการยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดิน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนดให้กับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านกุดผือ ที่มีที่ดินอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตแดนที่ 46-47 เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โดยเร็ว โดยมีชาวบ้านนำเอกสารสิทธิ น.ส.2 สค.1 น.ส.3 มายื่นให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อออกโฉนดที่ดินตามนโยบายเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดจะแบ่งทีมสำรวจลงพื้นที่เป็น 3 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอันมาก.- สำนักข่าวไทย