รัฐสภา 16 ก.ค.- “เลขาฯ ภูมิใจไทย” ย้ำชัด 3 สส.งูเห่า ตั้งใจโหวตสวนมติพรรค ไม่ใช่กดผิด ชี้ เสถียรภาพไม่มั่นคงของรัฐบาล บ่งชี้จะเกิดเหตุการณ์งูเห่า มอบ “ชาดา” ตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากผิดขับออกพรรค พร้อมดำเนินคดีอีกทาง
นายไชยชนก ชิดชอบ สส.เขต จ.บุรีรัมย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน 3 สส. ของพรรคภูมิใจไทย ที่มีมติโหวตสวนทางกับมติพรรค ว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้สังคมได้เข้าใจผิดจึงอยากขอแสดงจุดยืนในฐานะเลขาธิการของพรรคทั้ง 3 คนที่มีการโหวตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการนั่งรวมตัวกัน 3 คนห่างจากจุดของพรรคนั่งในสภา เบื้องต้นจากคำชี้แจงของทั้ง 3 คนที่ระบุว่าโหวตผิด ส่วนตัวเรียนตามตรงว่า ไม่เชื่อ แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมโดยทางพรรคก็มีกระบวนการตรวจสอบ โดยละเอียด เพราะครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่างูเห่า สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันที่มีความสงสัยมีความกังวลในเรื่องที่พพรรคหรือรัฐบาลถูกครอบงำ และผู้ที่ครอบงำนั้น กำลังถูกประชาชนและหน่วยงานทางด้านกฎหมายสงสัยอยู่ในกระบวนการวินิจฉัยและพิจารณาอยู่ว่าเป็นภัยต่อประเทศชาติหรือไม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยที่อยู่ร่วมกับข้อสงสัยนี้ได้ จึงไม่สามารถอยู่ร่วมกับรัฐบาลได้ แต่ต้องให้ความเป็นธรรม เมื่อยังไม่มีข้อกล่าวหาที่ชัดเจน ก็ถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทางพรรคต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด ซี่งพรรคมอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นผู้ตรวจสอบซึ่งพรรคมั่นใจว่าเป็นเลือดแท้ของพรรคภูมิใจไทย ที่ยึดมั่นในเรื่องของอุดมการณ์ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์
นายไชยชนก ยังกล่าวว่า ในอนาคตข้างหน้า ตนมั่นใจว่าอาจจะเกิดสถานการณ์คล้ายๆ เช่นนี้หรือมีความพยายามจะให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นอีกก็อยากจะฝากไปบอกท่านที่ มีความพยายามจะทำตรงจุดนี้เพื่อสร้างภาพหรือความรู้สึกของเสถียรภาพของปัจจุบันเพิ่มขึ้น ว่าขอบคุณครับ ขอบคุณที่ทำให้พวกผมได้เห็นว่าใครในพรรคภูมิใจไทยที่มองเห็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเงินสำคัญกว่าชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ สำหรับตนเองแล้วเรื่องนี้สำคัญที่สุด ดังนั้นหากอยากจะสร้างพรรคภูมิใจไทยเป็นสถาบันการเมืองที่มั่นคงมีอุดมการณ์ที่ชัดเจน หากไม่มีพวกทั้ง 3 คงล้างเลือดเสียออกไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้ ยังไม่ได้ตัดสินว่ามีความผิดหรือไม่แต่นี่คือจุดยืนของพรรค และในขณะนี้ทั้ง 3 คนทางพรรคไม่ให้ทำกิจกรรมร่วมกับพรรค ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับนายเอกราช ช่างเหลา
ส่วนจะมีมาตรการปิดกั้นเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีกหรือไม่นั้น ไชยชนก กล่าวว่า ก็ไม่สามารถที่จะห้ามได้ แต่วิธีที่จะสามารถห้ามได้คือตัวของ สส.เอง ซึ่งต้องมาพิจารณาเอาเองว่าใครคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัว สส.เอง และสิ่งนั้นคือประโยชน์ของประชาชนและบ้านเมืองหรือไม่ หากคิดว่าใช่คงไม่มีใครตัดสินใจรับเงิน หากไม่ใช่ในสถานการณ์นี้คงไม่มีใครเปลี่ยนไปสนับสนุนรัฐบาล ดังนั้นตนเองห้ามไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำอยู่ถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบเส้นทางทางการเงินก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการการตรวจสอบ แต่ยอมรับว่าได้มีการพูดคุย 1 ใน3 คนเบื้องต้นไปแล้ว โดยอยากให้คณะกรรมการเป็นคนตรวจสอบซึ่งไม่อยากให้เกิดการรั่วไหล
“สำหรับเส้นทางการเงิน ก็เชื่อว่าประชาชนได้ตื่นรู้ตื่นตัวและติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิดหวังว่าทุกพรรคจะให้เกียรติความสนใจและตั้งใจกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน เพราะสุดท้ายไม่เห็นสิ่งนี้ก็จะเป็นภัยกับท่านเอง”นายไชยชนก กล่าว
ส่วนจะมีสถานการณ์บ่งชี้เกิดเหตุ สส.โหวตสวนพรรคอีกหรือไม่ นายไชยชนก กล่าวว่า เครื่องบ่งชี้ ที่ชัดเลยก็คือความไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลชุดนี้ โดยไม่ต้องไปสืบว่าพรรคของตนเองเป็นอย่างไรตราบใดที่รัฐบาลชุดนี้ตัดสินใจทำในหลายเรื่องและไม่มั่นใจในสถานภาพของตนเองแน่นอนว่าจะต้องมีวิธีการที่จะทำแบบนี้เพิ่มเติม
ขณะที่มาตรการที่จะดำเนินการทั้ง 3 คนนี้หลังจากตรวจสอบเสร็จนายไชยชนกกล่าวว่าหากมีหลักฐานชัดเจนก็ต้องมีการขับออกจากพรรค และจะมีการดำเนินคดีความตามกฎหมายอีกทาง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่แต่ละกรณีว่าสาเหตุเกิดจากอะไร
ส่วนกระแสข่าวมี สส. ของพรรคอีก 6 คน ได้รับข้อเสนอจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบด้วยใช่หรือไม่ นายไชยชนกกล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานใด ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แม้ว่าจะมีการติดต่อมาหรือไม่ หรือปัจจุบันมีความคิดอย่างไร ทุกคนอาจจะเปลี่ยนใจได้ ไม่ใช่ว่าเมื่อถูกทาบทามแล้วจะเห็นด้วย จึงต้องดูที่สถานการณ์ แต่ตนเองก็ไม่ได้การันตีว่าไม่มีอีก แต่ตนเองก็ไม่ได้กลัวเช่นกัน โดยทั้ง 6 คนนี้ถูกทาบทามจากหลายกลุ่ม.-315 -สำนักข่าวไทย