รัฐสภา 11 มี.ค.-“เสรี” หวัง “เศรษฐา” เป็นนายกฯ ถึง 25 มี.ค. สว.จะได้อภิปรายปัญหาการบริหารราชการ ชี้โรดโชว์ต่างประเทศไม่เกิดประโยชน์ อาจเป็นจุดเปลี่ยนเปลี่ยนตัวนายกฯ แซะผู้นำปัจจุบันใช้จมูกคนอื่นหายใจ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปของสว. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ว่า ขณะนี้มีความพร้อมแล้ว สว.รับทราบประเด็นของญัตติที่เสนอให้ประสานกับรัฐบาลมาชี้แจงเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งมีสว.แสดงเจตจำนงอภิปรายแล้วกว่า 30 คน แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา หลังจากขอรัฐบาลไป 2 วันแต่รัฐบาลกำหนดให้เพียงวันเดียว จึงได้เวลาอภิปราย 12 ชั่วโมง ต้องหารือร่วมกันและขอความร่วมมือให้ลดจำนวนคนที่จะอภิปราย คนไหนที่มีประเด็นเดียวกันหรือคล้ายคลึงกันอาจจะมอบให้ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้อภิปรายโดยให้คนที่มีข้อมูลเยอะมีเวลาอภิปราย ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนและได้สาระมากที่สุด
นายเสรี กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลให้ความสำคัญและใจกว้างหน่อยก็น่าจะจัดสรรเวลาสัก 2 วัน เนื่องจากมองว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อประชาชน จึงไม่ควรจำกัดเวลาอะไรมากมาย เพราะเป็นการนำปัญหามาคุยกันในสภาฯ รัฐบาลน่าจะให้ความสำคัญ แต่รัฐบาลเองยังไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ พยายามติดต่อมาเพื่อไม่ลงชื่อครบ เพื่อดึงเวลาอภิปรายให้ไกลออกไปอีก
“ถ้าเป็นเรื่องสำคัญของบ้านเมือง รัฐบาลควรขวนขวายรับฟังข้อเสนอ เพื่อแก้ไขปัญหา ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเสียประโยชน์และเสียความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังยืนยันที่จะให้อภิปรายเพียง 1 วัน เป็นเวลาสุดท้ายแล้ว จะทิ้งทวนทิ้งหอกแต่ว่าตอนทิ้งดาบก็จะทำให้ดี เพราะที่ผ่านมาไม่มีอภิปรายแบบนี้ กว่าจะทำความเข้าใจกับสมาชิกวุฒิสภาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้าเป็นเรื่องง่ายก็คงได้อภิปรายไปตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว สว.ต้องเข้าใจ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องเข้าใจด้วยว่าไม่ใช่การล้มรัฐบาล” นายเสรีกล่าว
ส่วนที่มีข้ออ้างว่ารัฐบาลยัวงไม่ได้ใช้งบประมาณทำงาน นายเสรี กล่าวว่ารัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องการใช้งบประมาณหรือไม่ใช้ รัฐบาลเอามาอ้างไม่ได้ว่ายังไม่ใช้งบประมาณ เพราะตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลสามารถใช้งบประมาณตามกฎหมายเดิมได้อยู่แล้ว พอกฎหมายออกมาก็นำมาใช้ และจำนวนเงินที่สามารถนำมาใช้ได้ก็จำนวนเงินเดิม และว่า “เป็นข้ออ้าง เพราะถ้าพูดอย่างนี้ คนที่ไม่เข้าใจก็ไปเชื่อคนที่อ้าง ซึ่งเป็นคนละเรื่องเลย คุณไม่มีงบแจกแต่คุณก็มีกฎหมายที่จะสามารถจัดงบประมาณได้อยู่แล้ว”
นายเสรี กล่าวว่า เรื่องที่สว.แสดงความจำนงไว้มากที่สุดคือเรื่องของเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องประชาชน ซึ่งขณะนี้ลำบาก ปัญหาเศรษฐกิจปัจจุบันกลับกลายเป็นว่าจะแก้ไขปัญหาโดยแจกเงินดิจิทัล ซึ่งถือว่าผิดทาง และสมาชิกสนใจอภิปราย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี นายเสรี กล่าวว่าก็ถูกมองกันได้ แต่เรื่องของการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีนั้น พูดกันมาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว มีนายกฯ 2 คนบ้าง 3 คนบ้าง ตนก็ยังภาวนาให้รัฐบาล ในยุคปัจจุบัน อยู่ได้ถึงวันที่ 25 มีนาคม เพื่อจะได้อภิปรายกัน เพราะถ้าเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ครม.ก็ต้องหมดไป การอภิปรายก็จะทำให้สิ้นผลไป อยากให้อยู่ถึงวันที่ 25 มีนาคมนี้
“ปัญหาประเทศมีเยอะ แต่รัฐบาลแก้ไขเป็นรูปธรรมไม่ได้ ไม่มีความชัดเจน ซึ่งสิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือมีสถิติเดินทางไปต่างประเทศ 200 ครั้ง 200 วัน แล้วกระมัง ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าแทนที่จะเอาเวลาไปบริหารประเทศ เพื่อทำประโยชน์ให้ประชาชนหรือพูดคุยกันในสภาฯ ทำให้เสียโอกาสมองว่า อาจเป็นจุดเปลี่ยน ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ต้องให้คนที่มีกำลังทำการเมืองเป็นคนตัดสินใจ แต่เห็นอยู่แล้วว่าไม่ใช่ตัวนายกฯ คนปัจจุบันที่ตัดสินใจ นายกฯ ปัจจุบันอยู่ด้วยจมูกของคนอื่น” นายเสรี กล่าว
ส่วนการอภิปรายครั้งนี้จะพูดถึงนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงคนนอก เพราะหลักการคือพูดถึงกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองเป็นสำคัญ ที่ถูกการเมืองแทรกแซงการใช้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมหลายมาตรฐาน พูดแค่นี้ประชาชนก็เข้าใจ.-312.-สำนักข่าวไทย