หวั่นเลือกสว.มีปัญหา แนะกกต.แก้ระบียบ

กรุงเทพฯ 9 พ.ค.-นักวิชาการชี้ กกต. เขียนกติกาเป็นปัญหา ส่อบานปลาย ถึงประกาศผลเลือกสว.ไม่ได้ แนะกกต.ปรับแก้ ด้านไอลอว์รอลุ้นศาลปกครอง ตัดสิน ระเบียบ กกต.ห้ามแนะนำตัว ด้าน “เสรี” มองโอกาสฮั้วเกิดได้ แต่ไม่ทั้งหมด แนะทางออกปัญหาให้ กกต.รับรองไปก่อน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเวทีราชดำเนินเสวนา เรื่อง เลือกสว.กติกาใหม่ ใครได้ใครเสีย โดยมีนักวิชาการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดย นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล นักวิชาการคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  กล่าวว่าการเลือกสว.ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศว่าจะประกาศผลเลือกได้ในวันที่ 2 ก.ค. ต้องจับตาว่าจะประกาศได้จริงหรือไม่ เพราะขั้นตอนการเลือกมีความซับซ้อน อีกทั้ง ระเบียบของกกต.​ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสว. นั้นถือว่าเป็นปัญหา และมีรายละเอียดที่จำกัดสิทธิเสรีภาพเกินกว่าเหตุ และอาจทำให้การเลือกนั้นไม่โปร่งใส อย่างไรก็ดีตนมองว่าการออกระเบียบกกต. ตามที่เป็นอำนาจตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ.2561 แต่ระเบียบที่กกต.ประกาศใช้มีเนื้อหาที่เข้าข่ายขัดหรือแย้งกับ พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. และรัฐธรรมนูญ

นายปริญญา กล่าวว่า ระเบียบของกกต.มีปัญหา เช่น ให้ผู้สมัครแนะนำตัวทางอิเล็กทรอนิสก์ด้วยตนเองเท่านั้น  หมายถึงแนะนำตัวด้วยวิธีอื่นไม่ได้ พร้อมกับกำหนดบทลงโทษหากฝ่าฝืน เช่น โทษจำ โทษปรับ เพิกถอนสิทธิ ซึ่งตนมองว่า กกต.​ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัตติที่สามาถของกฎเอง ทั้งนี้สามารถทำได้ตามกรอบของพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.ไม่ใช่ให้อำนาจกกต. ทำเกินกว่าที่กฎหมายลูกและรัฐธรรมนูญกำหนด


“ขอเรียกร้องให้กกต.แก้ไขระเบียบกกต.ที่จำกัดสิทธิผู้สมัครเกินเหตุควรแก้ไข และมีวิธีให้ผู้สมัครรู้จักกันข้ามอำเภอ รวมถึงกำหนดรายละเอียดให้การเลือกโปร่งใส ผ่านการเปิดโอกาสให้ประชาชนสื่อมวลชนสังเกตการณ์และตรวจสอบ โดยใช้อำนาจผู้อำนวยการเลือกทุกระดับ  คือ เปิดเผยการบันทึกภาพและเสียงการเลือกทุกกลุ่ม ทุกระดับ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ทั้งนี้เชื่อว่าเมื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนตรวจสอบจะทำให้เกิดความโปร่งใส รวมถึงอนุญาตผู้สังเกตการณ์ สื่อมวลชน เข้าสังเกตการณ์ในการเลือก ทั้งนี้กกต. ยังไม่ได้แสดงความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ซึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอฐานะเจ้าหน้าที่คงไม่กล้า ดังนั้น กกต.ควรดำเนินการ หารือกับสมาคมนักข่าวเพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจนว่าผู้ใดเป็นสื่อและสามารถบันทึกภาพเสียง นำกล้องเข้าไปในพื้นที่ได้”  นายปริญญา กล่าว

นายปริญญา กล่าวว่า สิ่งที่กกต.ควรทำ คือ การกำกับการทำผิดกฎหมาย เช่น การจูงใจให้สมัครด้วยทรัพย์สินหรือสัญญาว่าจะให้ ส่วนกรณีการชักชวนให้ประชาชนสมัครสว. มากๆ โดยไม่มีการจูงใจโดยทรัพย์สิน ไม่เป็นความผิดตามมาตราใด รวมถึงการมีเว็ปไซต์หหรือกิจกรรมทำได้ และถือเป็นเรื่องดีมีผู้สมัครจำนวนมาก การตัดสินใจโดยอิสระเป็นสิทธิของประชาชน สำหรับกติกาการเลือกสว. ที่กำหนดให้มีผู้ร้องคัดค้านได้ ตนเชื่อว่าจะมีผู้สมัครสว. หลักแสนคน การคัดค้านจะมีจำนวนมาก ดังนั้นวันที่ 2 ก.ค.ที่กกต. ระบุว่าจะประกาศผลการเลือกตั้ง จะทำได้หรือไม่ ดังนั้นหลักการที่แก้ไขประเด็นที่จะเป็นปัญหา คือ หลักการความโปร่งใส ให้สาธารณ และสื่อมวลชนตรวจสอบการเลือกได้

“ผมเชื่อว่าการประกาศผลเลือกตั้ง 2 ก.ค. ทำไม่ได้ เพราะมีปัญหามาก และมีคนร้องคัดค้านจำนวนมากจากกติกาที่กำหนดไว้ให้ร้องคัดค้านทุกระดับ เมื่อมีการคาดการณ์ถึงปัญหา กกต. รีบแก้กติกาก่อนมีพระราาชกฤษฎีกาเลือก สว. ทั้งนี้รัฐธรรมนูญกำหนดให้ สว.ปัจจุบันทำหน้าที่ไปจนกว่ามี สว.ชุดใหม่ ดังนั้นเมื่อมีปัญหาจะไม่มีกรอบเวลา เมื่อไม่มีสว.ใหม่  สว.ปัจจุบันจะอยู่ได้นานเท่านาน” นายปริญญา กล่าว


ด้านนายรัชพงษ์ แจ่มจิรไชยกุล ไอลอว์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองเตรียมไต่สวนนัดแรกวันที่ 16 พ.ค. ตามทีมีผู้ยยื่นคำร้องให้พิจารณาระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวขัดกับรัฐธรรมนูญนั้น ต้องติดตามฟังผลอีกครั้ งทั้งนี้หากศาลปกครองยกคำร้อง คงต้องกลับมาพิจารณาและศึกษาระเบียบอีกครั้งว่ายังเหลือประเด็นใดที่ทำได้หรือไม่

“การแนะนำตัวกับผู้สมัครเท่านั้น ส่งเสริมให้เกิดกระบวนการฮั้วกัน และยิ่งกกต.ไม่มีแพลตฟอร์มให้ทำความรู้จักกัน เชื่อว่าจะส่งเสริมให้เกิดการฮั้วได้แน่นอน ทั้งนี้การสมัครจำนวนมาก เชื่อว่าจะทำให้กระบวนการฮั้วกันทำได้ยาก ส่วนการเลือกไขว้ทำให้การฮั้วยาก เพราะการไขว้คือการสุ่ม หากเขาจะฮั้วต้องซื้อทุกกลุ่ม ดังนั้นเป็นเรื่องยากหากมีผู้สมัครจำนวนมาก ดังนั้นการรณรงค์ให้สมัครโหวตไม่ผิด” นายรัชพงษ์ กล่าว

ส่วนนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวว่า ตนมองว่าการออกระเบียบของ กกต. นั้น กกต.ทราบว่ามีปัญหา เพราะต้องการคุมให้การแนะนำตัวให้ทำได้อย่างเท่าเทีม จึงนำรายละเอียดใส่ในระเบียบแบบหยุมหยิม อย่างไรก็ดีการออกระเบียบกกต.นั้น ตนมองว่ามีความไม่แน่ใจในระเบียบตัวเอง จึงเปิดช่องให้คลายระเบียบตัวเอง ตามที่ระบุไว้ในระเบียบกกต. ว่าด้วยการเลือกสว. พ.ศ.2567 ข้อ5 ที่กำหนดให้ ประธาน กกต. รักษาการตามระเบียบ แต่วรรคสองกำหนดว่า กรณีใดที่ไม่ได้กำหนดไว้หรือมีเหตุจำเป็น กกต. อาจยกเว้น หรือผ่อนผันการปฏิบัติตามระเบียบได้ อย่างไรก็ดีตนมองว่าการประกาศผล กกต. อาจใช้วิธีเดียวกับสส. คือ รับรองไปก่อน หากกระบวนการไม่สุจริต เที่ยงธรรม ทำผิดกฎหมายชัดเจน กกต. ต้องรับผิดชอบ

นายเสรี กล่าวถึงคำถามการฮั้วว่า ประเมินมีโอกาสเป็นไปได้แต่ไม่ใช่ทั้งหมด การฮั้วกันอาจเกิดจากฝ่ายการเมืองบางกลุ่ม ผู้สมัครบางกลุ่มที่รู้เห็นเป็นใจรวมตัวกันและให้คะแนนกันในกลุ่ม แต่เชื่อว่าจะไม่ใช่ทั้งหมด  อย่างไรก็ดีตนมองว่าการเลือกสว.ต้องคำนึงความเป็นจริงของการเมือง การเข้าสู่กระบวนการการเป็นตัวแทนของประชาชนในระบบที่กำหนดไว้ แต่การพูดว่าการเลือกที่จำกัด การเลือกไขว้ จะทำให้หาคะแนนได้อย่างไร ทั้งนี้คนที่รับเลือกทำหน้าที่ มองว่า มีชื่อเสียงได้เปรียบ ต้องดูว่ามีเชื่อเสียงแบบใด หากชื่อเสียงทางร้าย เป็นผู้มีอิทธิพล เชื่อว่าไม่มีใครเลือก

“กรณีที่มีคนระดมช่วยเหลือพรรคพวก ตั้งใจมาเลือกคนอื่น เชื่อว่าจะมีแต่มีไม่มาก และเชื่อว่าผลคะแนนจะเท่ากันเยอะ หากเท่ากันกฎหมายกำหนดให้จับสลาก อาจมองได้ว่าสว.ชุดจับสลาก ที่จริงควรเขียนกฎหมายไว้แค่สมัครเพื่อมาจับสลากก็พอ ดังนั้นระบบถูกสร้างไว้แล้ว คงไม่มีอะไร 100% แต่จะได้เท่าที่ได้ อย่าทำกติกาที่ตึงเกินไป แต่ควรทำกติกาที่ยุติธรรมและเป็นธรรม” นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวว่า สำหรับการจัดกลุ่มเพื่อหวังผลต่อการเลือกสว. นั้น อาจเป็นเหตุให้การเลือกไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมได้ อีกทั้งตนมองว่าวิธีดังกล่าวถือเป็นการเอาเปรียบบุคคล ซึ่งปัญหาที่ยกมาอาจกลายเป็นเงื่อนไขทำให้ว่าการเลือกสว. ไม่สุจริตเที่ยงธรรม และทำให้ สว.รุ่นตนอยู่ยาว ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะพวกตนอยู่นานแล้ว ต้องการสว.รุ่นใหม่เข้ามาทำงานให้บ้านเมือง พวกตนอยู่สมควรแก่เหตุแล้ว ไม่อยากอยู่นานเกินเหตุ ต้องการคนใหม่เข้ามาเพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในตอนท้าย นายปริญญาตั้งคำถามกับนายเสรีว่า กรณีที่ระหว่างที่สว.ชุดเก่ารักษาการ จะมีผู้ยื่นตีความอำนาจของสว.ในการโหวตนายกฯ หรือไม่ รวมถึงอำนาจตามกฎหมายของสว.ที่มีอยู่ โดยนายเสรี กล่าวว่า การยื่นตีความนั้นมีแต่การพูด ไม่เห็นตัวเห็นตน อย่างไรก็ดีตนมองว่าเมื่ออำนาจ หน้าที่หมด คือ หมดไปอย่าแสวงหา

ส่วนกรณีที่คาดว่า หากสว.ใหม่ยังทำหน้าที่ไม่ได้ สว.ชุดปัจจุบันต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย  เช่น การเลือกกรรมการองค์กรอิสระ เป็นต้น.-312.-สำนักข่าวไทย       (311)

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]