หวั่นเลือกสว.มีปัญหา แนะกกต.แก้ระบียบ

กรุงเทพฯ 9 พ.ค.-นักวิชาการชี้ กกต. เขียนกติกาเป็นปัญหา ส่อบานปลาย ถึงประกาศผลเลือกสว.ไม่ได้ แนะกกต.ปรับแก้ ด้านไอลอว์รอลุ้นศาลปกครอง ตัดสิน ระเบียบ กกต.ห้ามแนะนำตัว ด้าน “เสรี” มองโอกาสฮั้วเกิดได้ แต่ไม่ทั้งหมด แนะทางออกปัญหาให้ กกต.รับรองไปก่อน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเวทีราชดำเนินเสวนา เรื่อง เลือกสว.กติกาใหม่ ใครได้ใครเสีย โดยมีนักวิชาการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดย นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล นักวิชาการคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  กล่าวว่าการเลือกสว.ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศว่าจะประกาศผลเลือกได้ในวันที่ 2 ก.ค. ต้องจับตาว่าจะประกาศได้จริงหรือไม่ เพราะขั้นตอนการเลือกมีความซับซ้อน อีกทั้ง ระเบียบของกกต.​ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสว. นั้นถือว่าเป็นปัญหา และมีรายละเอียดที่จำกัดสิทธิเสรีภาพเกินกว่าเหตุ และอาจทำให้การเลือกนั้นไม่โปร่งใส อย่างไรก็ดีตนมองว่าการออกระเบียบกกต. ตามที่เป็นอำนาจตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ.2561 แต่ระเบียบที่กกต.ประกาศใช้มีเนื้อหาที่เข้าข่ายขัดหรือแย้งกับ พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. และรัฐธรรมนูญ

นายปริญญา กล่าวว่า ระเบียบของกกต.มีปัญหา เช่น ให้ผู้สมัครแนะนำตัวทางอิเล็กทรอนิสก์ด้วยตนเองเท่านั้น  หมายถึงแนะนำตัวด้วยวิธีอื่นไม่ได้ พร้อมกับกำหนดบทลงโทษหากฝ่าฝืน เช่น โทษจำ โทษปรับ เพิกถอนสิทธิ ซึ่งตนมองว่า กกต.​ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัตติที่สามาถของกฎเอง ทั้งนี้สามารถทำได้ตามกรอบของพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.ไม่ใช่ให้อำนาจกกต. ทำเกินกว่าที่กฎหมายลูกและรัฐธรรมนูญกำหนด


“ขอเรียกร้องให้กกต.แก้ไขระเบียบกกต.ที่จำกัดสิทธิผู้สมัครเกินเหตุควรแก้ไข และมีวิธีให้ผู้สมัครรู้จักกันข้ามอำเภอ รวมถึงกำหนดรายละเอียดให้การเลือกโปร่งใส ผ่านการเปิดโอกาสให้ประชาชนสื่อมวลชนสังเกตการณ์และตรวจสอบ โดยใช้อำนาจผู้อำนวยการเลือกทุกระดับ  คือ เปิดเผยการบันทึกภาพและเสียงการเลือกทุกกลุ่ม ทุกระดับ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ทั้งนี้เชื่อว่าเมื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนตรวจสอบจะทำให้เกิดความโปร่งใส รวมถึงอนุญาตผู้สังเกตการณ์ สื่อมวลชน เข้าสังเกตการณ์ในการเลือก ทั้งนี้กกต. ยังไม่ได้แสดงความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ซึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอฐานะเจ้าหน้าที่คงไม่กล้า ดังนั้น กกต.ควรดำเนินการ หารือกับสมาคมนักข่าวเพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจนว่าผู้ใดเป็นสื่อและสามารถบันทึกภาพเสียง นำกล้องเข้าไปในพื้นที่ได้”  นายปริญญา กล่าว

นายปริญญา กล่าวว่า สิ่งที่กกต.ควรทำ คือ การกำกับการทำผิดกฎหมาย เช่น การจูงใจให้สมัครด้วยทรัพย์สินหรือสัญญาว่าจะให้ ส่วนกรณีการชักชวนให้ประชาชนสมัครสว. มากๆ โดยไม่มีการจูงใจโดยทรัพย์สิน ไม่เป็นความผิดตามมาตราใด รวมถึงการมีเว็ปไซต์หหรือกิจกรรมทำได้ และถือเป็นเรื่องดีมีผู้สมัครจำนวนมาก การตัดสินใจโดยอิสระเป็นสิทธิของประชาชน สำหรับกติกาการเลือกสว. ที่กำหนดให้มีผู้ร้องคัดค้านได้ ตนเชื่อว่าจะมีผู้สมัครสว. หลักแสนคน การคัดค้านจะมีจำนวนมาก ดังนั้นวันที่ 2 ก.ค.ที่กกต. ระบุว่าจะประกาศผลการเลือกตั้ง จะทำได้หรือไม่ ดังนั้นหลักการที่แก้ไขประเด็นที่จะเป็นปัญหา คือ หลักการความโปร่งใส ให้สาธารณ และสื่อมวลชนตรวจสอบการเลือกได้

“ผมเชื่อว่าการประกาศผลเลือกตั้ง 2 ก.ค. ทำไม่ได้ เพราะมีปัญหามาก และมีคนร้องคัดค้านจำนวนมากจากกติกาที่กำหนดไว้ให้ร้องคัดค้านทุกระดับ เมื่อมีการคาดการณ์ถึงปัญหา กกต. รีบแก้กติกาก่อนมีพระราาชกฤษฎีกาเลือก สว. ทั้งนี้รัฐธรรมนูญกำหนดให้ สว.ปัจจุบันทำหน้าที่ไปจนกว่ามี สว.ชุดใหม่ ดังนั้นเมื่อมีปัญหาจะไม่มีกรอบเวลา เมื่อไม่มีสว.ใหม่  สว.ปัจจุบันจะอยู่ได้นานเท่านาน” นายปริญญา กล่าว


ด้านนายรัชพงษ์ แจ่มจิรไชยกุล ไอลอว์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองเตรียมไต่สวนนัดแรกวันที่ 16 พ.ค. ตามทีมีผู้ยยื่นคำร้องให้พิจารณาระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวขัดกับรัฐธรรมนูญนั้น ต้องติดตามฟังผลอีกครั้ งทั้งนี้หากศาลปกครองยกคำร้อง คงต้องกลับมาพิจารณาและศึกษาระเบียบอีกครั้งว่ายังเหลือประเด็นใดที่ทำได้หรือไม่

“การแนะนำตัวกับผู้สมัครเท่านั้น ส่งเสริมให้เกิดกระบวนการฮั้วกัน และยิ่งกกต.ไม่มีแพลตฟอร์มให้ทำความรู้จักกัน เชื่อว่าจะส่งเสริมให้เกิดการฮั้วได้แน่นอน ทั้งนี้การสมัครจำนวนมาก เชื่อว่าจะทำให้กระบวนการฮั้วกันทำได้ยาก ส่วนการเลือกไขว้ทำให้การฮั้วยาก เพราะการไขว้คือการสุ่ม หากเขาจะฮั้วต้องซื้อทุกกลุ่ม ดังนั้นเป็นเรื่องยากหากมีผู้สมัครจำนวนมาก ดังนั้นการรณรงค์ให้สมัครโหวตไม่ผิด” นายรัชพงษ์ กล่าว

ส่วนนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวว่า ตนมองว่าการออกระเบียบของ กกต. นั้น กกต.ทราบว่ามีปัญหา เพราะต้องการคุมให้การแนะนำตัวให้ทำได้อย่างเท่าเทีม จึงนำรายละเอียดใส่ในระเบียบแบบหยุมหยิม อย่างไรก็ดีการออกระเบียบกกต.นั้น ตนมองว่ามีความไม่แน่ใจในระเบียบตัวเอง จึงเปิดช่องให้คลายระเบียบตัวเอง ตามที่ระบุไว้ในระเบียบกกต. ว่าด้วยการเลือกสว. พ.ศ.2567 ข้อ5 ที่กำหนดให้ ประธาน กกต. รักษาการตามระเบียบ แต่วรรคสองกำหนดว่า กรณีใดที่ไม่ได้กำหนดไว้หรือมีเหตุจำเป็น กกต. อาจยกเว้น หรือผ่อนผันการปฏิบัติตามระเบียบได้ อย่างไรก็ดีตนมองว่าการประกาศผล กกต. อาจใช้วิธีเดียวกับสส. คือ รับรองไปก่อน หากกระบวนการไม่สุจริต เที่ยงธรรม ทำผิดกฎหมายชัดเจน กกต. ต้องรับผิดชอบ

นายเสรี กล่าวถึงคำถามการฮั้วว่า ประเมินมีโอกาสเป็นไปได้แต่ไม่ใช่ทั้งหมด การฮั้วกันอาจเกิดจากฝ่ายการเมืองบางกลุ่ม ผู้สมัครบางกลุ่มที่รู้เห็นเป็นใจรวมตัวกันและให้คะแนนกันในกลุ่ม แต่เชื่อว่าจะไม่ใช่ทั้งหมด  อย่างไรก็ดีตนมองว่าการเลือกสว.ต้องคำนึงความเป็นจริงของการเมือง การเข้าสู่กระบวนการการเป็นตัวแทนของประชาชนในระบบที่กำหนดไว้ แต่การพูดว่าการเลือกที่จำกัด การเลือกไขว้ จะทำให้หาคะแนนได้อย่างไร ทั้งนี้คนที่รับเลือกทำหน้าที่ มองว่า มีชื่อเสียงได้เปรียบ ต้องดูว่ามีเชื่อเสียงแบบใด หากชื่อเสียงทางร้าย เป็นผู้มีอิทธิพล เชื่อว่าไม่มีใครเลือก

“กรณีที่มีคนระดมช่วยเหลือพรรคพวก ตั้งใจมาเลือกคนอื่น เชื่อว่าจะมีแต่มีไม่มาก และเชื่อว่าผลคะแนนจะเท่ากันเยอะ หากเท่ากันกฎหมายกำหนดให้จับสลาก อาจมองได้ว่าสว.ชุดจับสลาก ที่จริงควรเขียนกฎหมายไว้แค่สมัครเพื่อมาจับสลากก็พอ ดังนั้นระบบถูกสร้างไว้แล้ว คงไม่มีอะไร 100% แต่จะได้เท่าที่ได้ อย่าทำกติกาที่ตึงเกินไป แต่ควรทำกติกาที่ยุติธรรมและเป็นธรรม” นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวว่า สำหรับการจัดกลุ่มเพื่อหวังผลต่อการเลือกสว. นั้น อาจเป็นเหตุให้การเลือกไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมได้ อีกทั้งตนมองว่าวิธีดังกล่าวถือเป็นการเอาเปรียบบุคคล ซึ่งปัญหาที่ยกมาอาจกลายเป็นเงื่อนไขทำให้ว่าการเลือกสว. ไม่สุจริตเที่ยงธรรม และทำให้ สว.รุ่นตนอยู่ยาว ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะพวกตนอยู่นานแล้ว ต้องการสว.รุ่นใหม่เข้ามาทำงานให้บ้านเมือง พวกตนอยู่สมควรแก่เหตุแล้ว ไม่อยากอยู่นานเกินเหตุ ต้องการคนใหม่เข้ามาเพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในตอนท้าย นายปริญญาตั้งคำถามกับนายเสรีว่า กรณีที่ระหว่างที่สว.ชุดเก่ารักษาการ จะมีผู้ยื่นตีความอำนาจของสว.ในการโหวตนายกฯ หรือไม่ รวมถึงอำนาจตามกฎหมายของสว.ที่มีอยู่ โดยนายเสรี กล่าวว่า การยื่นตีความนั้นมีแต่การพูด ไม่เห็นตัวเห็นตน อย่างไรก็ดีตนมองว่าเมื่ออำนาจ หน้าที่หมด คือ หมดไปอย่าแสวงหา

ส่วนกรณีที่คาดว่า หากสว.ใหม่ยังทำหน้าที่ไม่ได้ สว.ชุดปัจจุบันต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย  เช่น การเลือกกรรมการองค์กรอิสระ เป็นต้น.-312.-สำนักข่าวไทย       (311)

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]