ส.ว. เสียงแตกโหวตนายกฯ เรื่องปกติ

วัดราชบพิธ 26 มิ.ย.-“พรเพชร” ยอมรับเสียงโหวตนายกฯ ของ ส.ว. ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เชื่อ ส.ว.แต่ละคนมีเหตุผลเลือกคนดี คนเก่ง พัฒนาประชาธิปไตย บอกสังคมกดดัน ส.ว.เป็นเรื่องธรรมดา แต่ขอให้อยู่ในขอบเขต

นายพรเพชร  วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  จะเสด็จพระราชดำเนินมายังอาคารรัฐสภา โดยใช้บริเวณชั้น 11 ทำรัฐพิธี  ในเวลา 17.00 น.  ซึ่งจะมีทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน สมาชิกวุฒิสภา 250 คน รวม 750 คน   นอกจากนี้จะมีคณะทูตานุทูตอีกกว่า 200 คน ซึ่งตนเองได้ไปดูพื้นที่มาแล้วถือว่าเป็นห้องโถงใหญ่   แต่สมาชิกจำนวนมากก็อาจทำให้สถานที่คับแคบ   ซึ่งตนเองก็มีความเป็นห่วง   โดยเฉพาะการขึ้นลงลิฟท์ที่มีจำนวนน้อย จึงมอบหมายให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ไปดูในเรื่องนี้   เพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่น  ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  โดยรัฐพิธีจะใช้เวลาไม่มาก


และในวันที่ 4 ก.ค.  เวลา 09.00 น.ก็จะมีการประชุมเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร    ซึ่งเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยจะเป็นการลงมติลับ  ส่วนวิธีการโหวตทำได้ 2 แบบ โดยแบบแรกคือการกดปุ่มแสดงตน   แต่วิธีนี้สามารถค้นหาย้อนหลังได้ว่าใครเลือกใคร  ส่วนวิธีที่ 2 เป็นการหย่อนบัตร   ซึ่งวิธีนี้จะใช้เวลานานหน่อย  แต่ก็ต้องดูว่าจะเลือกใช้วิธีไหน และน่าจะทราบผลในช่วงเย็นวันดังกล่าว   ส่วนจะมีการเลื่อนการเลือกประธานสภาฯ หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละพรรคการเมือง   แต่จนถึงวันนี้ (26 มิ.ย.) ก็ยังคงยืนยันว่าเป็นวันที่ 4 ก.ค.

ส่วนการโหวตนายกรัฐมนตรีของสมาชิกวุฒิสภา  จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายพรเพชร ยอมรับว่า จะไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน  เพราะตนเองไม่ทราบความคิดของสมาชิกวุฒิสภาแต่ละคน   ทุกคนล้วนมีความคิดเป็นของตัวเอง   แต่เชื่อมั่นอยู่อย่างหนึ่งว่า แต่ละคนมีเหตุผลและมีวุฒิภาวะ และสามารถจะบอกทุกคนได้ว่า ทำไมถึงเลือกหรือไม่เลือก  หรืองดออกเสียงด้วยเหตุใด   เป็นสิ่งที่ติดตามดูได้ เพราะเป็นการเลือกที่เปิดให้สมาชิก ลงมติด้วยการแสดงตน   และเปิดเผยว่า ตนเองเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง


นายพรเพชร กล่าวว่า การเลือกนายกรัฐมนตรี ของสมาชิกวุฒิสภาอยู่บนหลักของกฎหมาย เข้าข่ายคุณสมบัติรัฐธรรมนูญ  ต้องเลือกคนดี  คนเก่ง  ซึ่งเป็นหลักปกติ แต่การเป็นคนดีและเก่งจะต้องเป็นคนมีความสามารถนำพาประเทศชาติ ให้มีความมั่นคงตามระบอบประชาธิปไตย และการแสดงจุดยืนของว่าที่นายกรัฐมนตรี ที่มีจุดมุ่งหมายที่จะทำเพื่อประชาชน ล้วนเป็นสิ่งที่สมาชิกวุฒิสภาจะนำไปวิเคราะห์

ขณะที่สังคมกดดันให้ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคที่ได้เสียงข้างมากนั้น   นายพรเพชร   กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ประชาชนได้ใช้สิทธิ์เลือกเข้ามาก็อยากสมประสงค์  แต่ขอให้อยู่ในขอบเขต  เพราะหลักการที่ตนเองเคยพูดเสมอนั้น   สมาชิกวุฒิสภาต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตอบปัญหาได้ เลือกคนที่ดี มีความรู้ ความสามารถ  ที่สำคัญต้องคำนึงถึงประเทศชาติ และตอนนี้ต้องคำนึงถึง การพัฒนาระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคง ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ว่าไปตามกฎเกณฑ์  และสิ่งที่ทำต้องอย่างรอบคอบ ไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง เพื่อให้สังคมและสมาชิกได้เข้าใจในประเด็นต่างๆ แล้วงานก็จะสำเร็จ

ทั้งนี้ในส่วนของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้มีการประสานงานมายังตนเอง  เพราะพรรคทราบดีว่าต้องทำหน้าที่เป็นกลาง  ส่วนตัวก็เคารพพรรคก้าวไกล และทุกพรรคก็ทราบว่าตนเองไม่ยุ่งเกี่ยว   ส่วนตัวเชื่อว่าวันโหวตนายกรัฐมนตรี จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากไม่มีการอภิปรายนอกกรอบ   และยืนยันว่าสมาชิกวุฒิสภาไม่สามารถที่จะตรวจสอบคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี และเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ เป็นหน้าที่ของประธานสภาฯ ที่จะดูแลเรื่องนี้


นายพรเพชร กล่าวถึงคุณสมบัติประธานสภาจะต้องมีวัยวุฒิอย่างไร   ว่า ไม่ขอให้ความเห็น เพราะการจะเลือกประธานสภา  แต่ละครั้ง มีเหตุผลต่างกัน  แต่หลักที่เคยเป็นมาคือพรรคการเมืองเสียงข้างมาก  เสนอชื่อผู้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ในบางครั้งก็ไม่เป็น  แต่ก็ต้องมีเหตุผล และอธิบายได้ อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับพรรคที่จะพูดคุยกันและเสนอรายชื่อขึ้นมา.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก