โครงการพัฒนาคลองเปรมประชากรคืบหน้าแล้ว 70%

กทม. 18 มิ.ย.-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร คืบหน้าแล้ว 70% สร้างบ้านมั่นคงแล้วเสร็จ 844 หลัง พร้อมพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต ย้ำขอความร่วมมือทุกหน่วยงานขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปตามแผนงาน

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร ล่าสุดมีผลการดำเนินงานก่อสร้างบ้านเสร็จ ชาวบ้านเข้าอยู่อาศัยแล้ว 844 ครัวเรือน และโครงการก่อสร้างทางสายพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต ตอนที่ 1-3 มีความคืบหน้าผลงานโดยรวมร้อยละ 70 โดยยังมีปัญหาอุปสรรคจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสาธารณูปโภคกีดขวางแนวก่อสร้าง นายกรัฐมนตรีจึงย้ำขอความร่วมมือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการฯ ให้แล้วเสร็จเป็นไปตามแผนที่กำหนด


นายอนุชา กล่าวถึงผลการดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดมีความก้าวหน้าการดำเนินโครงการบ้านมั่นคงชุมชนริมคลองเปรมประชากรในพื้นที่ 10 ชุมชน จำนวน 1,159 ครัวเรือน ก่อสร้างบ้านเสร็จ ชาวบ้านเข้าอยู่อาศัยแล้ว 844 ครัวเรือน ขณะที่ความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างทางสายพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต ถนนวิภาวดีรังสิต สรุปผลการดำเนินโครงการฯ (ข้อมูล ณ 25 พฤษภาคม 2566) ตอนที่ 1 ร้อยละ 63.332 ตอนที่ 2 ร้อยละ 68.487 และตอนที่ 3 ร้อยละ 80.294 คิดเป็นความก้าวหน้าผลงานรวมร้อยละ 70 โดยข้อมูลกรมทางหลวงรายงานว่ามีปัญหาอุปสรรคจากปัญหาขาดแคลนแรงงานเนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสาธารณูปโภคกีดขวางแนวก่อสร้าง ส่งผลให้งานล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ ซึ่งได้มีการแก้ไขปัญหาโดยประสานแจ้งหน่วยงานสาธารณูปโภค ดำเนินการรื้อย้ายไปแล้วบางส่วนและตามแผนการเข้าทำงานของบริษัทผู้รับจ้าง นายกรัฐมนตรีจึงย้ำขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการการขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการฯ ให้แล้วเสร็จเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จในการยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

“การดำเนินงานโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร และโครงการก่อสร้างทางสายพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต เป็นโครงการนำร่องที่จะพัฒนาประเทศชาติและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาสิ่งรุกล้ำลำคลอง ทำให้การระบายน้ำในคลองมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันน้ำท่วม รวมทั้งการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคงในระยะยาว โดยสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันในสังคม สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจ ตลอดจนสร้างความมั่นคงทางด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนฯ และปรับภูมิทัศน์พัฒนาคูคลอง สนองพระบรมราโชบายในหลวงรัชกาลที่ 10 ในการฟื้นฟูคูคลองให้กลับมาสวยงาม และต้องสร้างประโยชน์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย ทั้งนี้ ในส่วนการดำเนินโครงการพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิตในระยะที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี ผลการดำเนินการมีความก้าวหน้า แต่ยังมีปัญหาอุปสรรค สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้งานล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ นายกรัฐมนตรีจึงย้ำขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ ได้ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการให้เป็นไปตามแผนงาน เพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืนต่อไป” นายอนุชาฯ กล่าว


โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 มีระยะความยาวคลองประมาณ 17 กิโลเมตร จากความยาวทั้งหมด 50.8 กิโลเมตร ใช้รูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวทางโครงการบ้านมั่นคง มีกลุ่มเป้าหมายการดำเนินการ 38 ชุมชน 4 พื้นที่ ได้แก่ ดอนเมือง หลักสี่ จตุจักร กรุงเทพฯ รวม 32 ชุมชน และพื้นที่เทศบาลตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เริ่มดำเนินการปี 2562 ปัจจุบันมีความคืบหน้ารื้อย้ายบ้านรุกล้ำได้ประมาณ 850 หลัง จากบ้านรุกล้ำเดิมทั้งหมด 5,098 หลัง ก่อสร้างบ้านมั่นคงแล้วเสร็จ จำนวน 844 หลัง อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 626 หลัง และอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จำนวน 218 หลัง โดยอยู่ระหว่างก่อสร้าง 305 หลัง อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 219 หลัง และอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จำนวน 86 หลัง จากเป้าหมายทั้งหมด 6,386 หลัง คิดเป็นความก้าวหน้าประมาณ 18% ปัจจุบันมีชุมชนที่ได้ดำเนินการพัฒนาแล้ว เช่น ชุมชนประชาร่วมใจ 1 และชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร ซึ่งมีการก่อสร้างเขื่อนและบ้านมั่นคงเสร็จแล้ว รวมถึงมีการปลูกต้นไม้และปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลอง ทำให้คลองและริมคลองมีสภาพสะอาดสวยงาม ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองมีบ้านอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งกรมธนารักษ์ได้ให้เช่าพื้นที่ 30 ปี และต่อสัญญาครั้งละ 30 ปีต่อไป

สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อบริหารจัดการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งดำเนินงานโดยสำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม สถานะเดือน พฤษภาคม 2566 มีความคืบหน้าผลงานตอนที่ 1-3 โดยรวมร้อยละ 70 คาดเมื่อแล้วเสร็จตามแผนคือปลายปี 2566 จะสามารถรองรับน้ำฝนได้มากถึง 100 มิลลิเมตร และส่งเสริมการสัญจรทางเลือกเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน เช่น การเดิน ขี่จักรยาน โดยโครงการฯ มีทั้งหมด 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เป็นการวางระบบท่อระบายน้ำ เชื่อมต่อเส้นทางน้ำไหลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ท่อลอดใต้ถนน และขยายขนาดท่อเดิมเพื่อเพิ่มการระบาย และติดตั้งโรงสูบน้ำเพิ่มเติม 7 แห่ง ระยะที่ 2 มี 2 สัญญา ประกอบด้วยการปูคอนกรีตปรับทางระบายน้ำใหม่ให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้นคล้ายแก้มลิง ตั้งแต่บริเวณ ถนนดินแดง-แยกลาดพร้าว และบริเวณแยกลาดพร้าว-แยกหลักสี่ โดยขยายคลองรับน้ำข้างถนน ขุดลึก 16 เมตร กว้าง 2-4 เมตร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]