กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – “จุรินทร์” ชี้ประเทศเป็นนิติรัฐ การเมืองจึงต้องเคารพกฎหมาย ไม่ว่า กกต. ศาล ต่างมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายตามหลักนิติธรรม การเมืองเดินหน้าได้ต้องนับหนึ่งจากการรับรอง ส.ส.ก่อน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ ภายหลังเป็นประธานเปิดหลักสูตรสายสัมพันธ์ไทย-จีน เพื่อผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 2 ประเด็นการเมืองว่า สำหรับการเมืองนั้นทุกอย่างต้องนับหนึ่งจากการรับรองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงจะมีการเปิดการประชุมรัฐสภา และไปสู่เรื่องการเลือกประธานสภา การเลือกนายกรัฐมนตรี และการตั้งรัฐบาลต่อไป ขั้นตอนเป็นไปตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว
ส่วนรัฐบาลใหม่หน้าตาจะเป็นอย่างไรยังไม่สามารถตอบได้ แต่ขณะนี้ต้องถือว่าพรรคก้าวไกลยังทำหน้าที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ตนคิดว่าประชาชนก็เฝ้าดูอยู่ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร
ส่วนตัวคิดว่าเมื่อพรรคก้าวไกลสามารถรวมเสียงข้างมากในสภาฯ ได้ก็เป็นการทำหน้าที่ในการเดินหน้าจัดการรัฐบาลต่อไป และทุกอย่างจะเข้าสู่ขบวนการที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและเป็นไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ กกต. รับว่าจะสอบนายพิธา ตามมาตรา 151 จะมีผลต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีในสภาฯ หรือไม่ นายจุรินทร์ ตอบว่า ตนไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีผลต่อการโหวตมากน้อยเพียงใด แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและเป็นไปตามกฎหมาย การเลือกตั้งเป็นผลการตัดสินใจทางการเมืองของพี่น้องประชาชน แต่ว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ทุกฝ่ายต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และต้องเป็นหน้าที่ของกลไกที่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามนั้น
เพราะฉะนั้นเมื่อ กกต. ดำเนินการไปอย่างไร ก็ต้องขึ้นอยู่กับ กกต. ว่า จะมีความเห็นอย่างไร ในการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ และ กกต. เองก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะหลีกเลี่ยงบังคับใช้กฎหมายได้ เมื่อผลเป็นอย่างไรก็ต้องไปสู่ศาล ส่วนจะเป็นศาลใดนั้น ขึ้นอยู่กับประเด็นที่ กกต. จะตั้งขึ้นว่าจะไปศาลใด เพราะมีเงื่อนไขบังคับไว้แล้วว่าหากเป็นเรื่องของคุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเลือกตั้ง ส.ส. ว่าจะสามารถลงรับสมัครเลือกตั้งได้หรือไม่ ต้องเป็นศาลฎีกา แต่ถ้าเป็นคุณสมบัติ ข้อสงสัยในเรื่องของการเป็น ส.ส. แล้ว จะขาดคุณสมบัติ ส.ส. หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีขั้นตอนกระบวนการกำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่สามารถทำเป็นอย่างอื่นได้ ทุกคนมีหน้าที่เคารพกฎหมาย เพราะประเทศไทยเป็นนิติรัฐ ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เพราะฉะนั้นทั้งหมดต้องรอกลไกที่จะเป็นผู้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับพรรคที่ได้คะแนนมากที่สุดจะมีการพลิกขั้วตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายจุรินทร์ บอกว่า ตนไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ แต่ขณะนี้ต้องถือว่าพรรคก้าวไกลเป็นแกนตั้งรัฐบาลก็ขอให้ตั้งสำเร็จ ตนถือหลักชัดเจนในทางการเมืองกับทางกฎหมาย ในทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง พรรคใดรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ก็มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล ส่วนในทางกฎหมายทุกคนมีหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย หากทำผิดกฎหมาย กลไกที่บังคับใช้กฎหมายก็มีหน้าที่ในการที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย เพราะหลักมีชัดเจนอยู่แล้ว ทั้งทางการเมืองและตามหลักกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย