เตรียมออกกฎหมายลูก รองรับกฎหมายอุ้มหาย

ทำเนียบรัฐบาล 31 พ.ค.-“วิษณุ” ประชุม กก.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคลสูญหาย นัดแรก พร้อมตั้ง กก.จากหลายภาคส่วนร่วมออกกฎหมายลูกรองรับ ยันไม่มีปัญหาเรื่องงบ​จัดซื้ออุปกรณ์​ ​


นายวิษณุ​ เครืองาม​ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ครั้งที่ 1/2566​ ว่า​ เป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากที่ พระราชบัญญัติ​ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ พ.ร.บ. อุ้มหาย มีผลใช้บังคับ ซึ่งแม้ว่าจะเกิดความล่าช้าไป 3 เดือน แต่ในช่วงนั้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องจัดหาซื้อเครื่องมือและอนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อไปแล้ว จึงได้เวลาประชุมจัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติ “คณะกรรมการมีผมเป็นประธาน และมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ ปลัดหลายกระทรวง ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการที่จะมาประชุมกันเพื่อออกกฏหมายลูก ซึ่งจะต้องวางกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งกฎหมายกำหนดเรื่องการให้บันทึกภาพเคลื่อนไหวตั้งแต่ขั้นตอนการจับกุม ขั้นตอนการจัดเก็บจนกว่าจะจบคดี ก็จะหารือกันและออกเป็นระเบียบขึ้นมา  เช่น การจัดเก็บวิดีโอในคลังข้อมูล รวมถึงใครจะสามารถดึงไปใช้ในคดีได้ หลังจากประชุมเสร็จจะนำไปปฏิบัติได้ทันที” นายวิษณุ กล่าว

สำหรับงบประมาณดำเนินการ นายวิษณุ​ กล่าวว่า ได้อนุมัติไปก่อนหน้านีัแล้ว​ ระหว่างที่กฎหมายยังไม่ได้ใช้บังคับ ตั้งแต่ยังไม่ยุบสภา​ แต่ขณะนี้ยังซื้ออุปกรณ์ได้ไม่ครบถ้วน เนื่องจากต้องจัดหาซื้อเป็นจำนวนมาก ​ งบประมาณในการจัดซื้อมี แต่ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตว่ามีอุปกรณ์เพียงพอหรือไม่​ และการจัดซื้อจัดจ้างจะต้องเป็นในรูปแบบของการประมูล เพื่อไม่ให้เกิดการฮั้วขึ้น​


ส่วนสถานะของรัฐบาลที่เปลี่ยนเป็นรัฐบาลรักษาการจะมีอำนาจแตกต่างกับก่อนยุบสภาฯหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า​ หากไม่ยุบสภาฯ มาก่อนจะมีผลกระทบ​ เพราะหากออก​พ.ร.ก.มาแล้วไม่ผ่าน​ รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ​ แต่หากไม่ผ่านโดยสภาฯ​หมายความว่าสภาฯไม่ไว้วางใจ​ แต่หากไม่ผ่านโดยศาล​แปลว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย​ จึงมีนัยยะที่แตกต่างกัน​

“รัฐบาลไม่เคยมีกรณีเช่นนี้มาก่อน เช่น กรณีสมัยพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่ออกพระราชกำหนดและสภาฯ ไม่ผ่านความเห็นชอบ พล.อ.เปรมก็รับผิดชอบด้วยการยุบสภา ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการยุบสภาหรือลาออก ดังนั้น เมื่อรัฐบาลยุบสภาแล้วไม่มีปัญหา​ การแสดงความรับผิดชอบ​ไม่ได้เขียนไว้ในกฎหมาย แต่เป็นมารยาททางการเมือง​ แต่หากมีคนไปร้องเรียนเอาผิดรัฐบาล​ ก็สามารถทำได้​ แต่ยังไม่ทราบว่าจะเอาผิดในข้อหาอะไร” นายวิษณุ กล่าว.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

“คะน้า” แจ้งความเอาผิดไฮโซเก๊ หลอกจ่ายค่าแชมเปญ

“คะน้า” ดาราสาว แจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีกับอดีตแฟนหนุ่ม ข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญ 98,000 บาท เพื่อเป็นของขวัญ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C