ตลาดยิ่งเจริญ 10 พ.ค.-“คุณหญิงสุดารัตน์” ช่วยผู้สมัครหาเสียงตลาดยิ่งเจริญ ย้ำไม่เอาลุง ไม่เอาความขัดแย้ง ไม่เอารัฐประหาร รับปากแก้ค่าไฟแพง ลดต้นทุนการผลิต
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย หมายเลข 32 พร้อมด้วยนายเกรียงไกร ไกรนรา ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 เขตเลือกตั้งที่ 9 พรรคไทยสร้างไทย และนายสมชายเวสารัชตระกูล ผู้สมัครส.ส.หมายเลข 9 เขตเลือกตั้งที่ 11 พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พ่อค้าแม่ขายที่ตลาดยิ่งเจริญ ซึ่งได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนที่มาเดินจับจ่ายใช้สอย รวมถึงพ่อค้าแม่ขายให้การต้อนรับอย่างดี พร้อมฝากของกินของใช้ ให้คุณหญิงสุดารัตน์ และทีมงาน ไว้กินไว้ใช้ระหว่างการลงพื้นที่รอบกรุงเทพมหานคร วันนี้
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าอค้าแม่ขาย สะท้อนเรื่องของราคาต้นทุนของสินค้าสูงขึ้น เนื่องจากราคาค่าไฟฟ้าที่แพงต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นส่งผลกระทบ ต่อกำลังซื้อที่หดหายไป จึงอยากให้เข้ามาแก้ไขปัญหาโดยด่วน ซึ่งพรรคไทยสร้างไทย เข้าใจปัญหาเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้นเป็นอย่างดี โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าซึ่งพรรคไทยสร้างไทย ได้ประกาศชนกลุ่มทุนผูกขาด พร้อมนำเรื่องฟ้องตัวการที่ทำให้ไฟฟ้าแพง ฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอลกลางแล้ว และจะปลดล๊อคสัญญาทาส ที่รัฐบาลก่อนๆได้ทำไว้ ซึ่งหากพรรคไทยสร้างไทย เป็นรัฐบาลค่าไฟต้องไม่เกิน 3.50 บาท ภายใน1ปี
“ยืนยันต่อพี่น้องที่ตลาดยิ่งเจริญด้วยว่าความวุ่นวาย ความขัดแย้งทางการเมือง เป็นตัวฉุดรั้งเศรษฐกิจของประเทศ การค้าการขายของพี่น้องประชาชนทุกคน ซึ่งหากใครที่ไม่ต้องการความขัดแย้ง ไม่เอาลุง ไม่เอาการรัฐประหาร และการเมืองสองขั้ว ให้เลือกพรรคไทยสร้างไทยเบอร์ 32 จะเป็นคำตอบให้กับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะการนำประชาชน ไปสู่ชัยชนะ พาคนไทยจะกลับมาอยู่ดีกินดี หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืนภายใน 3 ปี” หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ขอสื่อสารไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา กกต.จะต้องหาแนวทาง เพื่อให้คะแนนทุกคะแนนของพี่น้องประชาชนไม่ตกหล่น ซึ่งอาจจะฟ้องร้องต่อศาล เพื่อให้ออกมาตรการมาคุ้มครองประชาชนที่เสียโอกาสหรือเสียสิทธิ์ในการเลือกตั้งล่วงหน้า ส่วนในพื้นที่ภาคอีสาน จากการลงปราศรัยหาเสียง พบการทุจริตใช้เงินอย่างมโหฬาร ซึ่งผู้สมัครส.ส.ของพรรคได้รวบรวมพยานหลักฐานและจะฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย