ชี้เงินดิจิทัล 1 หมื่น เพื่อไทย เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ

นิด้า10 เม.ย.-นักวิชาการห่วงนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ของเพื่อไทย เป็นอันตรายกับระบบเศรษฐกิจ ถ้าหาเงินชดเชยไม่ทัน อาจทำเงินเฟ้อ ชี้จับเสือมือเปล่า หวังคะแนน


นายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล กล่าวถึงนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทว่า เป็นนโยบายที่หวังคะแนน และเชื่อว่าน่าจะได้คะแนนเพราะไม่มีใครไม่อยากได้ของฟรี และการที่ให้คนอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปเป็นการเน้นเอาคะแนนจากเด็กแน่นอน ขณะเดียวกันก็หวังกลุ่มคนสูงอายุที่อยู่บ้านอยู่ดี ๆ ก็มีเงินหมื่นเข้ากระเป๋า ซึ่งเป็นนโยบายที่เสี่ยง เสมือน “จับเสือมือเปล่า” เพราะเป็นการนำเงินใส่เข้าไปในระบบ

“แจกคนทุกกลุ่ม ซึ่งรวมแล้วเป็นเงินจำนวนมาก ให้ใช้ในระยะ 4 กิโลเมตร ของที่อยู่ ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้ ด้วยความหวังว่าผ่านไป 6 เดือนจะมีเงินหมุนกลับเข้ามา แต่หากผ่านไป 6 เดือนแล้วเศรษฐกิจไม่หมุนหรือเงินไม่หมุนกลับเข้ามาตามยอดที่ออกไป ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจของประเทศ ถ้า 6 เดือนไม่สามารถเอาเงินใส่เข้ามาในระบบได้เหมือนไม่สามารถเอาอาหารให้เสือได้ การจับเสือมือเปล่าเช่นนี้อาจตายได้ เพราะอาหารไม่มี และผมเชื่อว่าถ้า 6 เดือนหาเงินไม่ได้ปรับ vat กลับไปที่เดิมแน่นอน 10%” นายสุวิชา กล่าว


ด้านนายธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) กล่าวว่า นโยบายนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพราะการโยนเงิน 5 แสนล้านบาท ที่ต้องทำตามนโยบายนี้แล้วคาดหวังว่าจะเก็บรายได้ได้มากขึ้น ถือว่ามีความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก จึงฝากไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องเป็นหน่วยงานที่ทำให้เรื่องนี้กระจ่างต่อสังคม โดยเชิญนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ การเงิน รวมถึงสมาคมธนาคาร ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทยมาหารือ และนำผลการสังเคราะห์ของหน่วยงานเหล่านี้มาเปิดเผยต่อสังคมว่า นโยบายนี้เป็นไปได้มากน้อยเพียงใด เพื่อให้เกิดความกระจ่างในสังคม และกระบวนการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม

ขณะที่นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย ถ้าเทียบกับนโยบายบัตร “ลุงตู่” หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีแนวคิดคล้ายกัน คือโอนเงินไปให้ประชาชนใช้จ่าย เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่นโยบายที่ออกมาก่อนหน้านี้ เป็นนโยบายที่จำกัดกลุ่มเป้าหมายเป็นการเฉพาะ เช่น ให้เฉพาะคนจนหรือจำกัดจำนวนการให้ แต่นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นการให้ทั่วไป จำกัดเพียงอายุซึ่งเท่ากับทุกอาชีพ ทุกฐานะได้หมด ซึ่งเป็นที่น่ากังวลว่าจะส่งผลกระทบตามมาอย่างรุนแรงหากหาเงินไม่ทัน จึงห่วงว่านโยบายดังกล่าว จะส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อ และพอเงิน 10,000 บาทที่นำมาแจกหมดไปแล้ว จะทำอย่างไร เมื่อราคาสินค้าปรับตัวขึ้น

“แต่วิธีการใช้ยากกว่า เพราะมีเงื่อนไขการใช้จ่ายซับซ้อน ทำให้มีคำถามมากมายในการปฏิบัติ ซึ่งมองว่านโยบายใดก็ตามที่คนตั้งคำถามมาก ๆ ความขลังจะลดลง ซึ่งอาจทำให้คะแนนของพรรคเพื่อไทยลดลงด้วยซ้ำ เพราะพรรคเพื่อไทยมีฐานที่มั่นคงอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มชาวบ้าน และมีนโยบายที่ตอบสนองคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว เช่นเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่กลุ่มคนชั้นกลาง ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง หากมาเจอนโยบายเช่นนี้อาจต้องคิดหนัก และอาจเปลี่ยนใจไม่เลือกเพื่อไทยก็ได้ วันที่ 16 เมษายนนี้ นิด้าโพลจะเปิดเผยผลการสำรวจความนิยมทั่วประเทศอีกครั้ง จะทราบว่านโยบายของพรรคการเมืองที่ประกาศออกมามีผลแค่ไหนอย่างไร” นายพิชาย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้เยียวยา แต่ต้องรอคดีถึงที่สุด

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้รับค่าเยียวยา หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด บอกหากไม่ได้รับความยุติธรรม ฟ้องรัฐได้

ถนนมิตรภาพเข้าสู่ประตูอีสานรถเพิ่มขึ้น

เริ่มแล้วเทศกาลปีใหม่ ประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาการจราจรถนนมิตรภาพ ปริมาณรถมาก ตำรวจทางหลวง เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก

หมอชิต 2 เริ่มคึกคัก คาดวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุด

สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่ยังไม่หนาแน่นนัก ด้าน บขส. คาดตลอดทั้งวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดถึง 120,000 คน

นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568

“แพทองธาร” นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2568 “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ระบุรัฐบาลเห็นคุณค่าในตัวเด็กๆ ทุกคน ขอให้ปรับตัวเรียนรู้ ให้เข้ากับสถานการณ์